อีก 5 ปีทักษะ 70% จะล้าหลัง วัยทำงานต้องลุกมาอัปสกิล อย่าตกขบวน!

อีก 5 ปีทักษะ 70% จะล้าหลัง วัยทำงานต้องลุกมาอัปสกิล อย่าตกขบวน!

รายงานจาก LinkedIn เผยภายใน 5 ปีข้างหน้า ‘70% ของทักษะที่ใช้ในงานส่วนใหญ่จะเปลี่ยนไป’ แล้ววัยทำงานจะรับมืออย่างไรดี?

KEY

POINTS

  • LinkedIn ชี้ว่า 70% ของทักษะงานในปัจจุบันจะเปลี่ยนไปภายในปี 2030 เมื่อ AI เข้ามาเปลี่ยนรูปแบบงานอย่างรวดเร็ว โดยทักษะส่วนใหญ่ที่ใช้ในวันนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
  • AI จะเปลี่ยนบทบาทของเรา โดยเฉพาะงานที่เคยต้องทำซ้ำๆ ข้อมูลเยอะๆ เช่น ป้อนข้อมูล หรือจัดการระบบ จะถูกแทนด้วย AI ส่วนพนักงานจะเปลี่ยนไปเป็นผู้ควบคุมและจัดการระบบแทน
  • คนทำงานต้องหมั่นอัปเดตทักษะใหม่ เรียนรู้ด้วยตัวเอง เช่น ดูลิสต์ทักษะที่กำลังมาแรงใน LinkedIn, Upwork หรือเรียนจากคนรอบตัว เพื่อให้ยังคงแข่งขันได้ในโลกการทำงานยุค AI

ข้อมูลล่าสุดของ LinkedIn เปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI กำลังพลิกโฉมโลกการทำงานอย่างรวดเร็ว โดยภายในปี 2030 ทักษะที่ใช้ในงานส่วนใหญ่ถึง 70% จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

แอนดรูว์ ซีแมน (Andrew Seaman) บรรณาธิการด้านอาชีพของ LinkedIn บอกว่า การคำนวณตัวเลขนี้อ้างอิงจากการวิเคราะห์ทักษะที่บริษัทต่างๆ ใส่ไว้ในประกาศรับสมัครงาน เทียบกับทักษะที่ผู้ใช้งานใส่ไว้ในโปรไฟล์ส่วนตัว จากนั้นจึงพิจารณาการเปลี่ยนแปลงงานในยุคอดีตที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับแนวโน้มที่ AI จะสามารถทำงานแทนมนุษย์ได้ในอนาคต

ทักษะเดิมๆ ไม่หายไป แต่จะ “วิวัฒนาการ” ใหม่ให้เหมาะสมขึ้น

อย่างไรก็ตาม ซีแมน มองว่าทักษะเดิมๆ จะไม่หายไปอย่างสิ้นเชิง แต่มันจะ “วิวัฒนาการ” หรือพัฒนาจากเดิมไปมากกว่า ซึ่งในประเด็นนี้เอง ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก็เห็นตรงกันว่า วัยทำงานยุคนี้หากอยากเอาตัวรอดในโลกการทำงานใหม่ ต้องรู้ทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อไม่ให้ทักษะของเราล้าหลัง

“เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนวิธีทำงาน พนักงานทุกคน ทุกสายงาน ก็ต้องเปลี่ยนวิธีพัฒนาตัวเองให้ก้าวทันด้วย” สเตซี ฮัลเลอร์ (Stacie Haller) ที่ปรึกษาด้านอาชีพจาก Resume Builder ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกัน

พนักงานไม่ต้องกรอกข้อมูลเยอะๆ ด้วยตัวเองอีกแล้ว แต่จะเป็นผู้ควบคุม AI ให้ทำแทน

ซีแมน อธิบายอีกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ นายจ้างจะใช้ AI เพื่อ “เสริม” ศักยภาพของพนักงาน ไม่ใช่แทนที่ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น งานป้อนข้อมูล (Data entry) อาจถูกแทนที่ด้วย AI แต่พนักงานจะเปลี่ยนไปทำหน้าที่ “จัดการข้อมูล” แทน หรืออย่างการเขียน prompt สั่งงาน AI อาจไม่จำเป็นต้องทำเองในอนาคต แต่กลายเป็นบทบาทของคนที่ดูแล จัดการ และคัดเลือกคำสั่งที่เหมาะสมมากกว่า

ขณะที่สายอาชีพที่ต้องใช้แรงงาน หรือสายงานกลุ่ม Live performance (การแสดงต่อหน้าผู้ชม)  เช่น นักดนตรี พิธีกร นักแสดง หรือวิทยากร อาจไม่ได้รับผลกระทบจาก AI มากนัก แต่สำหรับงานอย่าง Software Engineer (วิศวกรซอฟต์แวร์) นักออกแบบเว็บไซต์ หรือแม้แต่งานแคชเชียร์ ฯลฯ กลุ่มงานเหล่านี้ AI จะเข้ามาช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บรรณาธิการด้านอาชีพของ LinkedIn คาดการณ์ไว้ว่า ในอนาคต สายงานที่เคยต้องใช้หลายคนเพื่อทำงานให้บรรลุเป้าหมาย ต่อไปอาจใช้แค่ “หนึ่งคนที่มีทักษะครบ” ก็พอ

วัยทำงานต้องยอมรับว่า การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นแน่นอน! อย่าฝืน แต่เร่งปรับตัว

เมื่อรูปแบบงานเปลี่ยน สิ่งที่วัยทำงานต้องทำก็คือ ‘ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง’ ผู้เชี่ยวชาญคนเดิมแนะนำว่า ให้พนักงานหมั่นดูประเภทกลุ่มทักษะที่เป็นที่ต้องการในตลาดงานในเว็บไซต์หางานอย่าง LinkedIn, Upwork หรือ Indeed เพื่อดูว่าองค์กรต่างๆ กำลังมองหาคนที่มีสกิลแบบไหน

จากนั้นค่อยๆ ไปค้นหาคอร์สเรียนรู้เพิ่มเติม แล้วนำมาใส่ไว้ในแผนการเรียนรู้ประจำวันของตัวเอง เช่น ลองดูวิดีโอสอนทักษะเหล่านั้น เล่นกับเครื่องมือใหม่ๆ หรือแม้แต่ลงเรียนคอร์สสั้นๆ หรือหากคุณมีคนรู้จักที่มีทักษะนั้นอยู่แล้ว ลองขอให้เขาช่วยสอนก็ได้เช่นกัน

สรุปสั้นๆ ก็คือ…ตอนนี้ทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ เพราะนี่แหละคือกุญแจสำคัญ ที่จะทำให้วัยทำงานยังแข่งขันได้ ในโลกการทำงานยุคใหม่ โดยเพิ่มโอกาสด้านอาชีพการงานได้มากกว่าคนที่ไม่ยอมปรับตัวแน่นอน! 

 

อ้างอิง: LinkedIn, CNBC, ResumeBuilder