งานไม่เสร็จสักที? ชาวออฟฟิศสมาธิหลุดทุก 2 นาที จากประชุม-งานแทรก

โฟกัสงานแทบไม่ได้! วิจัยจาก Microsoft เผย พนักงานออฟฟิศที่ทำงานรูทีนแบบ 9 to 5 มักจะถูกรบกวนสมาธิทุกๆ 2 นาที จากการประชุม-งานแทรก แนะวิธีดึงสติให้ทำงานเสร็จทันเวลา
KEY
POINTS
- รายงานจาก Microsoft เผยว่าการทำงานรูทีนแบบ 9-5 (09.00-17.00 น.) พนักงานต้องเจอกับสิ่งรบกวนสมาธิ เช่น ข้อความงานด่วน ประชุม เฉลี่ยทุกๆ 2 นาที จนทำงานไม่เสร็จตามกำหนด
- เปิดเคล็ดลับโฟกัสงาน ต้องรู้จักเวลาทองของตัวเอง เลือกช่วงเวลาที่ตัวเองมีสมาธิที่สุดในแต่ละวัน กำหนดไว้ในปฏิทินว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำ ปิดแจ้งเตือน ปิดอีเมล แล้วโฟกัสงานแบบไม่ให้ใครรบกวน
- ไอเดียดีๆ มักเกิดขึ้นนอกโต๊ะทำงาน ดังนั้น การลุกไปเดินเบาๆ ระหว่างวัน ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง คิดไอเดียเด็ดช่วงนี้ด้วยซ้ำ อย่ามองข้าม “เวลาสงบ” แบบเคลื่อนไหว
เชื่อว่าชาวออฟฟิศหลายๆ คนคงเคยเจอเหตุการณ์ที่ว่า กำลังนั่งทำงานอย่างไหลลื่น แต่จู่ๆ ก็มักจะมี อีเมลด่วน ประชุมด่วน(กว่า) งานแทรก แชตเด้งแจ้งเตือนพรึ่บ! คอยสะกิดให้ต้องหลุดโฟกัสจากงานตรงหน้าบ่อยๆ ..เป็นอย่างนี้แทบทุกวัน ไม่แปลกเลยถ้ามันเกิดขึ้นกับคุณเช่นกัน
เมื่อการทำงานในออฟฟิศทุกวันนี้ เต็มไปด้วยสิ่งรบกวนจากรอบทิศทาง จึงส่งผลให้พนักงานไม่มีสมาธิ โฟกัสพัง จดจ่อกับงานไม่ได้ จนบางครั้งก็ทำงานไม่เสร็จตามเดดไลน์ ซึ่งถ้าเกิดขึ้นบ่อยๆ ก็อาจโดนมองว่าขี้เกียจไปอีก เรื่องสมาธิหลุดระหว่างทำงานนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ยืนยันจากรายงานล่าสุด "2025 The Year the Frontier Firm Is Born" ของ Microsoft ที่เปิดเผยว่า พนักงานออฟฟิศยุคนี้มักถูกขัดจังหวะการทำงานทุกๆ 2 นาที โดยเฉพาะออฟฟิศที่มีตารางเวลางานแบบ 9-to-5
อเล็กเซีย แคมบอน (Alexia Cambon) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยอาวุโสของ Microsoft อธิบายว่า อีเมลด่วน โดนเรียกประชุม เจองานแทรก สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็น ‘สัญญาณรบกวน’ ที่บั่นทอนสมาธิและลดประสิทธิภาพในการทำงานโดยไม่รู้ตัว “ยังไม่รวมเวลาที่คุณเปิด WhatsApp, Spotify หรือ YouTube ทิ้งไว้ด้วยซ้ำนะ” เธอ ย้ำ
ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองถูกดึงความสนใจไปหาสิ่งอื่นๆ จนแทบไม่ได้ทำงานจริงจังเลย ลองใช้ 2 เทคนิคเหล่านี้ที่ผู้เชี่ยวชาญแนะนำ เพื่อสร้าง “เวลาสงบ” ให้ตัวเองในแต่ละวัน
รู้จักช่วงเวลาที่ตัวเองมีพลังที่สุด ปักหมุดใส่ตารางไว้ให้เป็น “เวลาทอง” ที่ต้องทำ
วัยทำงานควรเริ่มจากถามตัวเองว่า... ช่วงเวลาไหนที่คุณทำงานได้ดีที่สุด? ซึ่ง วิกกี้ ซาเลมี (Vicki Salemi) ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพจาก Monster แนะนำว่า “บางคนอาจโฟกัสสุดๆ ได้ตอนสายของวัน หรือก่อนมื้อเที่ยง” วิธีการคือให้ลองสังเกตดูว่าช่วงไหนที่คุณรู้สึกว่าสมองแล่นมากที่สุด แล้วตีกรอบเวลานั้นไว้ในปฏิทิน ปักหมุดมันไว้ให้เหมือนเป็นการนัดประชุมสำคัญ ห้ามเบี้ยวเด็ดขาด!
ถ้าจะให้ดี ควรตั้งนาฬิกาปลุกไว้เลยก็ได้ พอถึงเวลาปั๊บ ก็ให้เข้าโหมดลุยงานแบบมีสมาธิสูง โดยห้ามไม่ให้มีสิ่งรบกวนเด็ดขาด อาจแจ้งทีมไว้ เพื่อไม่ให้มีการรบกวน ปิดแจ้งเตือนทุกอย่าง งดประชุม เป็นต้น
นอกจากนี้ ให้คิดด้วยว่า “สถานที่” แบบไหนที่คุณโฟกัสได้ดีที่สุด อาจจะเป็นห้องเงียบๆ ในออฟฟิศ? หรือโต๊ะทำงานพร้อมหูฟังกับเพลงโปรด? หรือถ้าทำงานที่บ้าน ก็บอกคนในบ้านไว้ชัดๆ ว่า “ขอไม่ถูกรบกวน 20-30 นาที” แค่นี้ก็สร้างพื้นที่เงียบให้ตัวเองได้แล้ว
“วิ่ง-เดินเร็ว” ไม่ใช่แค่การออกกำลังกาย แต่ช่วยให้คิดไอเดียดีๆ ได้ด้วย
ซาเลมีเสริมว่า เวลาที่คุณจะมีสมาธิสูงไม่ได้หมายความว่า จะต้องนั่งอยู่หน้าจอคอมฯ เสมอไป “บางครั้งไอเดียดีๆ ก็มาในระหว่างที่คุณเดินเร็วหรือออกกำลังกาย”
ขณะที่ แคมบอนเองก็ใช้เทคนิคนี้เหมือนกัน เธอบอกว่า “ฉันจะกำหนดตารางเวลาไว้ 45 นาทีทุกวัน สำหรับการวิ่ง และฉันทำมันอย่างเคร่งครัด ไม่ใช่แค่เพื่อสุขภาพจิตใจ และเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงเท่านั้น แต่มันยังช่วยให้เกิดความชัดเจนทางความคิด เป็นช่วงเวลาที่ฉันได้ไอเดียดีที่สุดของวัน”
ก่อนออกวิ่ง เธอยังบอกทีมเสมอว่า “ฉันจะออกไปวิ่ง 45 นาทีนะ พวกเธอก็ทำแบบเดียวกันได้เลย” ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ให้คุณค่ากับการดูแลความเป็นอยู่ที่ดีของตัวเอง และช่วยสร้างสมาธิได้อย่างแท้จริง
เอาเป็นว่าหากวัยทำงานไม่อยากหลุดโฟกัสบ่อยๆ จนอาจทำงานไม่เสร็จ ก็ลองนำเทคนิคทั้งสองข้อข้างต้นไปใช้ดู ที่สำคัญ..อย่าปล่อยให้ “เสียงรบกวน” จากรอบๆ ข้างมาควบคุมเวลาทั้งวันของคุณ
สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การหาช่วงเวลาเงียบๆ เท่านั้น แต่คือการ “รู้จักระบุแหล่งเสียงรบกวน” ในวันทำงานของเรา แล้วพยายามจัดการมัน! ก่อนที่มันจะจัดการเรา นี่คือเคล็ดลับง่ายๆ ที่คนทำงานยุคดิจิทัลควรลองทำดูสักครั้ง
อ้างอิง: CNBC make it, Microsoft Index, Monster







