งานไม่ใช่ ใจไม่อยู่ แต่อย่าเพิ่งลาออกถ้ายังไม่ทบทวน 10 สัญญาณนี้

งานไม่ใช่ ใจไม่อยู่ แต่อย่าเพิ่งลาออกถ้ายังไม่ทบทวน 10 สัญญาณนี้

เบื่องาน ท้อแท้ หมดไฟ อยากยื่นใบลาออกให้รู้แล้วรู้รอด? แต่ก่อนจะทิ้งงานปัจจุบันลองถามใจให้ชัด อยากเปลี่ยนสายงานจริงหรือแค่เหนื่อยเกินไป ปรับมุมมองใหม่อาจดีขึ้น

KEY

POINTS

  • แค่เบื่องานหรือหมดไฟ? ก่อนตัดสินใจลาออก ลองถามตัวเองให้ชัดว่าสิ่งที่ไม่เวิร์กคือ “งานนี้” จริงๆ หรือเป็นแค่ช่วงที่เหนื่อยล้า หมดพลัง หรือเจอเจ้านายที่ไม่ถูกจริต
  • อย่ามองข้ามสิ่งดีๆ ที่ยังมีอยู่ การอยากเปลี่ยนงานไม่ใช่เรื่องผิด แต่ควรประเมินข้อดีของงานปัจจุบันด้วย เช่น เวลางานยืดหยุ่น เพื่อนร่วมงานดี หรือได้ใช้สกิลที่ชอบ เปลี่ยนงานใหม่อาจเสียข้อดีเหล่านี้
  • คำถามที่ต้องถามตัวเองก่อนลาออก เช่น เรามีทักษะไหนที่ถ่ายโอนไปได้บ้าง? ฝันอยากทำอะไรจริงๆ หรือแค่หนีปัญหาเดิม?  และสุขภาพกายใจในอาชีพนี้ยังไหวอยู่หรือเปล่า? เป็นต้น 

"เบื่องาน เครียดกับหัวหน้า รู้สึกชีวิตไร้ความหมาย" ถ้านี่คือสิ่งที่คุณกำลังเผชิญ จนอยากลาออกไปให้จบๆ แต่เดี่ยวก่อน! อย่าเพิ่งรีบยื่นซองขาวแบบขาดสติ เพราะไม่ว่าใครก็ย่อมเคยผ่านช่วงที่รู้สึกไม่แฮปปี้กับงานที่ทำอยู่ แต่มันอาจมีวิธีจัดการที่ดีกว่าการลาออกก็ได้

วัยทำงานบางคนอาจรู้สึกว่าทำงานหนักเกินไป รายได้ไม่พอ หรือรู้สึกว่างานที่ทำไม่มีความหมายเลยก็มี ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก่อนจะรีบตัดสินใจเปลี่ยนสายงาน ลองถอยกลับมาทบทวนตัวเองให้ชัดว่า...คุณแค่เหนื่อยชั่วคราว หรืองานนี้มันไม่ใช่สำหรับคุณจริงๆ?

ลาติชา เบิร์ด (Latesha Byrd) โค้ชด้านอาชีพการงาน ผู้เขียนหนังสือชื่อดังเรื่อง Don’t Stay in Your Lane: The Career Change Guide for Women of Color แนะนำว่า “บางครั้งคุณอาจไม่ต้องเปลี่ยนงานครั้งใหญ่โต แค่ปรับเปลี่ยนมุมมองหรือปรับวิธีคิดเล็กๆ น้อยๆ ก็ช่วยให้คุณกลับมามีความสุขกับงานปัจจุบันได้แล้ว”

เธอชวนให้ลองถามตัวเองด้วย 10 คำถามนี้ก่อนตัดสินใจครั้งใหญ่ ดังนี้

1. ตอนนี้คุณให้ความสำคัญกับอะไรในชีวิต?

ชีวิตการทำงานไม่ได้แยกขาดจากเรื่องอื่นๆ ในชีวิต ลองถามตัวเองว่าตอนนี้คุณให้ความสำคัญกับเรื่องไหนมากที่สุด เช่น ความก้าวหน้าในสายงาน รายได้ที่มั่นคง เวลาพักผ่อนกับครอบครัว หรือความรู้สึกเติมเต็มทางจิตใจจากงานสร้างสรรค์? การรู้ตัวชัดเจนว่า เราให้ความสำคัญกับอะไรจะช่วยให้วัยทำงานตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตงานได้ชัดเจนขึ้น และไม่หลงไปกับแรงกระตุ้นชั่วคราว

2. อะไรที่ยังไปได้ดีอยู่ในงานปัจจุบัน?

แม้จะรู้สึกเบื่อหรือท้อ แต่อาจยังมีบางอย่างที่ดีอยู่ในงานปัจจุบัน เช่น ได้ทำงานกับทีมที่สนับสนุนกัน เวลางานยืดหยุ่น หรือได้ใช้สกิลที่ถนัดและสนุก การมองเห็นด้านบวกเหล่านี้ไม่ใช่การหลอกตัวเอง แต่ช่วยให้คุณตัดสินใจได้รอบคอบขึ้น ไม่เผลอ "โยนทิ้งของดี" ไปพร้อมกับสิ่งที่ทำให้คุณไม่แฮปปี้

3. อะไรที่คุณรู้สึกแย่?

ลองลงรายละเอียดให้มากที่สุดว่า สิ่งที่คุณไม่พอใจเกี่ยวกับงานนั้นคืออะไรกันแน่ เป็นเนื้องานที่ไม่ตอบโจทย์ วัฒนธรรมองค์กรที่อึดอัด เจ้านายที่ไม่เข้าใจ หรือค่าตอบแทนที่ไม่คุ้มค่า? การวิเคราะห์ให้ชัดเจนขึ้น จะช่วยให้คุณรู้ว่า ต้อง “เปลี่ยนสายงาน” หรือแค่ “เปลี่ยนที่ทำงาน”

4. ความรู้สึกข้างในของคุณว่าไง?

บางครั้งร่างกายหรือความรู้สึกในใจก็รู้คำตอบ ก่อนที่เหตุผลจะตามทัน ลองนึกภาพตัวเองอยู่ในสายงานเดิมต่อไป กับภาพการเปลี่ยนสายงานใหม่ แบบไหนทำให้คุณรู้สึกโล่งใจหรือมีความหวัง? แบบไหนทำให้คุณเครียดหรือรู้สึกติดกับดัก? ฟังเสียงในใจคุณดูบ้าง อาจได้คำตอบที่ชัดเจนกว่า

5. สัปดาห์ที่ผ่านมา คุณเคยคิดอยากลาออกเกือบทุกวันหรือเปล่า?

ทุกคนมีวันที่เหนื่อยหรือเบื่องานบ้าง แต่ถ้าคุณรู้สึกอยากลาออกแทบทุกวันติดต่อกัน นั่นอาจเป็นสัญญาณว่า “บางอย่างไม่ถูกต้อง” ในระดับลึกลงในจิตใจ อาการแบบนี้ อาจสะท้อนได้ว่าคุณเผชิญภาวะหมดไฟกับงานหรือสายงานนี้แล้วจริงๆ

6. เคยเปลี่ยนบทบาทหรือบริษัทมาแล้ว แต่ยังรู้สึกเหมือนเดิม?

ถ้าคุณเคยลองเปลี่ยนที่ทำงาน ย้ายทีม หรือเปลี่ยนบทบาทในสายงานเดิมมาแล้วหลายครั้ง แต่ความรู้สึกไม่พอใจยังตามมาเหมือนเงา แสดงว่าสิ่งที่ไม่เวิร์กอาจไม่ใช่แค่ที่ทำงาน แต่เป็น “อุตสาหกรรม” หรือ “สายงาน” ทั้งหมดที่อาจไม่เหมาะกับคุณ

7. งานกระทบสุขภาพกายหรือใจหรือเปล่า?

คุณรู้สึกเหนื่อยเรื้อรัง เครียดเกินไป วิตกกังวลง่าย หรือเริ่มมีปัญหาสุขภาพ เช่น นอนไม่หลับ ปวดหัวบ่อย หรือระบบร่างกายรวนเพราะความเครียดจากงานหรือเปล่า? ถ้าใช่.. สิ่งเหล่านี้ไม่ควรถูกมองข้าม เพราะไม่มีงานไหนคุ้มค่าพอให้คุณแลกด้วยสุขภาพกายและใจของตัวเอง

8. คุณเคยฝันอยากทำอะไรที่แตกต่างไปเลยไหม?

คุณเคยแอบค้นหางานในสายอื่นบ่อยๆ ไหม? หรือรู้สึกอิจฉาคนที่ทำอาชีพที่แตกต่างออกไป? ความรู้สึกเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่ "คิดมาก" หรือ "อารมณ์ชั่ววูบ" แต่มันอาจเป็นสัญญาณจากใจลึกๆ ว่าคุณอยากเติมเต็มบางอย่างในชีวิตที่งานปัจจุบันให้ไม่ได้

9. ครอบครัวหรือเพื่อนเคยบอกให้คุณเปลี่ยนงานไหม?

บางครั้งคนรอบตัวอาจเห็นสิ่งที่เราไม่ทันสังเกต เช่น ความเครียดเรื้อรัง ความสามารถที่ถูกมองข้าม หรือบุคลิกที่ไม่เข้ากับองค์กร ถ้าหลายคนที่คุณไว้ใจบอกคุณตรงๆ ว่า “นี่ไม่ใช่ทางของคุณ” ลองฟังพวกเขาดู เพราะมุมมองจากภายนอกอาจช่วยให้คุณตัดสินใจได้เด็ดขาดขึ้น

10. คุณมีจุดแข็งอะไรที่สามารถต่อยอดในสายงานใหม่?

อย่ามองข้ามทักษะ ประสบการณ์ หรือมุมมองเฉพาะตัวที่คุณสะสมมา ไม่ว่าคุณจะเก่งการวางแผน การสื่อสาร หรือเข้าใจความต้องการของคนอื่น ถ้าคุณรู้ว่าตัวเอง “มีอะไรดี” ที่สามารถนำไปใช้ในงานอื่นได้ ก็จะช่วยให้คุณเปลี่ยนสายงานด้วยความมั่นใจ ไม่ใช่เปลี่ยนเพราะแค่ต้องหนีจากสายงานเดิม

สุดท้ายแล้ว...การเปลี่ยนสายงานครั้งใหญ่ในชีวิต อาจไม่ใช่ทางเดียวเสมอไป บางครั้งการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในวิธีคิด หรือปรับปรุงสภาพแวดล้อม ก็ช่วยให้คุณมีความสุขในการทำงานขึ้นอย่างมาก เอาเป็นว่า..ไม่ว่าจะเลือกทางไหน การได้เป็นคนคุมเส้นทางอาชีพของตัวเอง นั่นแหละคือ “ชัยชนะ” ที่แท้จริง

 

อ้างอิง: CNBC, EmbraceChange