หนึ่งปีมีครั้ง 'ประเพณีบวชนาคช้าง' จ.สุรินทร์ วันที่ 10 พ.ค. 68

หนึ่งปีมีครั้ง 'ประเพณีบวชนาคช้าง' จ.สุรินทร์ วันที่ 10 พ.ค. 68

ขอเชิญมาเอาบุญใหญ่ บุญบ้านเฮา ประจำปี 2568 งานประเพณี 'บวชนาคช้าง' ของคนไทย เขมร ลาว เชื่อกันว่า ใครได้มาร่วมงานจะได้บุญมาก

จังหวัดสุรินทร์  ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์{, องค์การบริหารส่วนตำบลกระโพ, หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ร่วมกันจัดงานประเพณี บวชนาคช้าง ประจำปี 2568 อย่างยิ่งใหญ่ เชิญชวนนักท่องเที่ยว ร่วมขบวนแห่ที่มีช้างเข้าร่วมขบวนกว่า 80 เชือก

ขบวนแห่จะเริ่มจากวัดแจ้งสว่าง หมู่บ้านตากลาง ไปยังวังทะลุ หรือ ดอนบวช บริเวณที่ลำน้ำชีไหลมาประจบแม่น้ำมูล ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร เพื่อเช่าศาลปู่ตาตามประเพณี

เมื่อขบวนแห่นาคช้าง ไปถึงดอนบวช ช้างทุกเชือกจะลงอาบน้ำและเล่นน้ำ บริเวณวังทะลุ หรือดอนบวช เพื่อให้ช้างได้เล่นน้ำ กินน้ำ ให้มีอารมณ์สดชื่น เพื่อเข้าพิธี อีกหลายขั้นตอน

หนึ่งปีมีครั้ง 'ประเพณีบวชนาคช้าง' จ.สุรินทร์ วันที่ 10 พ.ค. 68

จากนั้น นาค และช้าง ร่วมพิธีไหว้บอกกล่าวสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลปู่ตา ทายคางไก่ต้ม เครื่องเซ่นไหว้ ตามประเพณีที่ถือปฎิบัติกันมาหลายชั่วอายุคนของชาวตำบลกระโพ

นับเป็นภาพที่มีมนต์ขลัง สวยงาม ประทับใจ แก่นักท่องเที่ยวและผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก

  • ประเพณีบวชนาคช้าง 

เป็นประเพณีเก่าแก่ที่ชาวสุรินทร์ทั้งเขมร ลาว กวยที่นับถือพุทธศาสนา ถือเป็นประเพณีปฏิบัติสืบทอดกันมา

หนึ่งปีมีครั้ง 'ประเพณีบวชนาคช้าง' จ.สุรินทร์ วันที่ 10 พ.ค. 68

เมื่อลูกชายอายุ ครบ 20  ปีบริบูรณ์ ก่อนที่จะมีเหย้ามีเรือน พ่อแม่ต้องจัดการบวชให้ลูกชายเพื่อศึกษาธรรมวินัยเสียก่อน

ประเพณีบวชนาคช้างสมัยก่อน นับว่าเป็นประเพณีที่ยิ่งใหญ่ เพราะชายหนุ่มในละแวกเดียวกันจะนัดวันบวชพร้อมกัน

โดยเชื่อว่าการบวชนี้ ถ้าจะให้ได้บุญมาก จะต้องนั่งช้างแล้วแห่ไปเป็นระยะทางไกล ๆ และมีผู้คนร่วมขบวนแห่นาคเป็นจำนวนมาก

ในอดีตชาวกวยบ้านตากลาง และหมู่บ้านใกล้เคียง จะพร้อมใจกันแห่นาคด้วยช้าง

หนึ่งปีมีครั้ง 'ประเพณีบวชนาคช้าง' จ.สุรินทร์ วันที่ 10 พ.ค. 68

โดยนาคจะมีการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ สวมชฎา สวมเสื้อแขนยาวสีขาวนุ่งโสร่งไหม พร้อมแต่งด้วยผ้า 7 สีอย่างสวยงาม

นั่งบนหลังช้างไปที่วังทะลุ ลำน้ำชี รวมกับแม่น้ำมูล เพื่อทำพิธีเช่นไหว้ศาลปู่ตา และขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านนับถือ

พร้อมประกอบพิธีอุปสมบทบริเวณ ดอนบวช ซึ่งเป็นเนินดินกลางแม่น้ำที่เกิดจากลำน้ำชีไหลมาบรรจบกับแม่น้ำมูล ทำให้เกิดเนินดินกลางแม่น้ำ

ชาวบ้าน เรียกกันว่า สิมน้ำ หรือเรียกว่า ดอนบวช จนกระทั่งปัจจุบัน

...................................

อ้างอิง : ททท. สำนักงานสุรินทร์