แพทย์เตือน 6 อาหารกินแล้วแก่เร็ว สุขภาพพัง อาจอายุสั้นไม่รู้ตัว

ศัลยแพทย์สหรัฐ เผย 6 อาหารที่ไม่แนะนำให้กิน หากกินบ่อยๆ เสี่ยงแก่เร็ว และอาจอายุสั้น ได้แก่ เมนูปิ้งย่างไหม้เกรียม เครื่องดื่มน้ำตาลสูง ขนม นม อาหารเค็มจัด แป้งขัดขาว
KEY
POINTS
- อาหารบางอย่างไม่ได้แค่ทำให้แก่เร็ว แต่ยังเร่งให้ร่างกายเสื่อมไวและอายุสั้น ศัลยแพทย์ผู้มีประสบการณ์กว่า 20 ปีในสหรัฐ เผยว่า หากเลือกกินอาหารผิด อาจส่งผลต่อผิวพรรณ อวัยวะภายใน และอายุขัยในระยะยาว
- เปิด 6 เมนูที่หมอไม่แนะนำให้บริโภคมากๆ ได้แก่ อาหารปิ้งย่างไหม้เกรียม น้ำหวาน ขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์จากนม (ส่วนใหญ่) อาหารรสเค็มจัด และแป้งขัดขาว ทั้งหมดนี้เร่งการเสื่อมของเซลล์ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
- วิธีเลือกกินให้ดีต่อร่างกาย เน้นกินผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี และโปรตีนจากปลา ไข่คุณภาพดี เพื่อชะลอวัย และส่งเสริมสุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก
กินยังไงให้หน้าเด็ก? คำถามนี้อาจต้องเปลี่ยนเป็น “กินอะไรไม่ให้หน้าแก่” แทน เพราะแม้เทคโนโลยีด้านการศัลยกรรมความงามจะล้ำแค่ไหน แต่ก็ช่วยย้อนวัยได้แค่ภายนอกเท่านั้น
ดร.แอนโธนี ยอน (Anthony Yuon) ศัลยแพทย์ตกแต่งที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปีในสหรัฐฯ บอกว่า วิธีที่แท้จริงในการดูแลสุขภาพให้ดีและมีผิวพรรณดีจากภายใน คือการ “กินให้เป็น” เพราะอาหารคือยาที่ทรงพลังที่สุด
เธอย้ำว่าอาหารบางอย่างไม่เพียงแค่ทำให้ผิวพัง แต่ยังทำให้เซลล์ในร่างกายเสื่อมไว และอาจมีผลต่อการทำให้อายุขัยสั้นลงได้โดยตรง นี่คือ 6 เมนูที่ ดร.แอนโธนี แชร์ว่าเธอพยายามหลีกเลี่ยงการบริโภคพวกมันสุดชีวิต และอยากให้ทุกคนเลี่ยงด้วยเช่นกัน!
เปิด 6 เมนูอาหารกินแล้วแก่เร็ว แพทย์แนะอย่าแตะเป็นดี!
1. อาหารไหม้เกรียม
เนื้อย่างบนเตาถ่าน เบคอนบนกระทะร้อนฉ่า ฟังดูน่ากิน แต่รู้ไหมว่า “อาหารที่ไหม้เกรียม” ทำให้เกิดสารที่ชื่อว่า heterocyclic amines ซึ่งเกี่ยวข้องกับมะเร็งและการเร่งความเสื่อมของเซลล์โดยตรง
ถ้าจะกินปิ้งย่างบ้างในบางโอกาสก็ไม่ว่ากัน แต่สำหรับมื้ออาหารที่เรากินในทุกๆ วัน ควรหันไปบริโภคเมนูที่ปรุงผ่านการนึ่ง ต้ม อบไฟต่ำ หรือกินแบบสดไปเลยจะดีกว่า
2. เครื่องดื่มหวานๆ น้ำตาลสูง
ไม่ใช่แค่โค้ก น้ำอัดลม ชาเย็น หรือกาแฟปั่นเท่านั้นที่ควรระวัง แต่รวมถึงน้ำผลไม้หวานๆ และเครื่องดื่มเกลือแร่แบบขวดที่ผู้คนนิยมดื่มหลังเล่นกีฬาอีกด้วย เพราะเครื่องดื่มเหล่านั้น ล้วนเต็มไปด้วยน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตแฝง ที่มีผลต่อการอักเสบและกระบวนการ glycation ที่ทำให้ผิวเสื่อมโทรมลงได้ง่าย
มีข้อมูลว่าชาวสหรัฐโดยเฉลี่ยบริโภคน้ำตาลปีละกว่า 68 กิโลกรัม! และกว่า 20% ของแคลอรี่ต่อวันก็มาจากเครื่องดื่มหวานๆ เหล่านี้ อีกทั้งงานวิจัยหลายชิ้นยังชี้ว่าการดื่มเครื่องเหล่านี้เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคอ้วน หัวใจ เบาหวาน และมะเร็งอีกด้วย
3. ขนมขบเคี้ยวจากโรงงานอุตสาหกรรม
พาย เค้ก โดนัท คุกกี้ ซีเรียลบาร์ ขนมปังกรอบ ฯลฯ ทั้งหมดนี้จัดอยู่ในกลุ่ม “อาหารแปรรูปขั้นสูง” (ultra-processed food) ที่เต็มไปด้วยสารกันบูด แต่งสี และสารเคมีต่างๆ แถมยังแทบไม่มีไฟเบอร์ ซึ่งมีผลเสียต่อแบคทีเรียดีในลำไส้ และทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งแบบฉับพลัน
4. ผลิตภัณฑ์นม (ส่วนใหญ่)
อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับคนรักชีส เพราะแม้ผลิตภัณฑ์นมจะให้แคลเซียม แต่ก็มี “แลคโตส” ที่ร่างกายหลายคนย่อยไม่ได้ และ “เคซีน” ที่อาจกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ดังนั้นถ้าอยากกินนมจริงๆ ดร.ยอนแนะนำให้เลือกโยเกิร์ตที่ไม่เติมน้ำตาลเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
5. อาหารเค็มจัด
การบิรโภคโซเดียมเยอะเกินไปไม่เพียงทำให้ตัวบวม แต่ยังทำให้ผิวโทรมเร็วอีกด้วย ลองสังเกตตัวเองดูว่า เคยตื่นเช้ามาแล้วใต้ตาบวมตุ่ยหลังจากกินอาหารจีนหรืออาหารแช่แข็งไหม? นั่นแหละ.. พิษของโซเดียมและผงชูรสเลย
6. ธัญพืชขัดสี ข้าวขาว ขนมปังขาว
ข้าวขาว แป้งขาว เส้นพาสต้า ขนมปัง ฯลฯ ของพวกนี้ผ่านการขัดเอาไฟเบอร์และสารอาหารออกจนหมด เวลารับประทานมักจะอร่อยนุ่มลิ้น แต่ผลเสียที่ตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือ "น้ำตาลในเลือดจะพุ่งสูง" ส่งผลต่อระดับอินซูลินในร่างกาย
เลือกกินให้ดี ผิวจะสวย ชะลอวัย แถมช่วยให้อายุยืน
แล้วควรกินอะไรดีล่ะ? เพื่อให้ไม่แก่เร็ว ไม่ป่วยง่าย และส่งเสริมอายุขัยให้ยืนยาว ดร.ยอนแนะนำว่า ถ้าอยาก “แก่ช้าแต่สุขภาพดี” ให้เน้นอาหารที่ช่วยกระตุ้นการฟื้นฟูของเซลล์ เช่น
- ผลไม้: แอปเปิล บลูเบอร์รี่ กีวี ส้มโอ เมลอน
- ผัก: อารูกูลา บรอกโคลี แครอท ผักโขม
- ธัญพืชไม่ขัดสี: ข้าวกล้อง ข้าวป่า ข้าวโอ๊ต ควินัว
- โปรตีนคุณภาพดี: ไข่ เนื้อสัตว์เลี้ยงแบบธรรมชาติ ปลาเลี้ยงแบบธรรมชาติ เช่น แซลมอน แมคเคอเรล ซาร์ดีน ค็อด ฮาลิบัต ฯลฯ
แน่นอนว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อกินคลีน 100% เสมอไป ดร.ยอนบอกว่า ในบางโอกาสคนเราก็ควรปล่อยจอยบ้าง ไม่ต้องเคร่งเรื่องการกินตลอดเวลา “หากอยากจะกินเค้กวันเกิดก้อนใหญ่ กินเบอร์เกอร์แบบเต็มปากเต็มคำกับเพื่อนๆ หรือกินไอศกรีมเจลาโต้ริมทะเลตอนเที่ยว ก็ทำได้ ไม่ผิดอะไร” เพราะสุขภาพดีควรมาพร้อมความสุขด้วย
แต่สำหรับในวันปกติส่วนใหญ่ "การเลือกกินดี" จะมีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจอย่างมหาศาล ..รู้แบบนี้แล้ว วันนี้ลองหันมาดูจานข้าวของเราสักนิดว่า เราเลือกให้ดีตั้งแต่มื้อนี้แล้วหรือยัง เพื่อฟื้นฟูร่างกายให้เรากลายเป็นคนที่สดใสสุขภาพดีทั้งภายนอกและภายใน
อ้างอิง: CNBC, Pub Med, ODPHP health, Pub Med2