AI สู้คนไม่ได้ ทักษะคิด-สื่อสารสร้างสรรค์ No.1 นายจ้างต้องการสูง

AI สู้คนไม่ได้ ทักษะคิด-สื่อสารสร้างสรรค์ No.1 นายจ้างต้องการสูง

ทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ คือ ทักษะการทำงานอันดับ 1 ที่จะมีมูลค่าสูงกว่า Generative AI ในปี 2025 แม้ทักษะด้านเทคโนโลยีจะสำคัญ แต่มีแค่นั้นก็อาจไม่รอดในการทำงาน

KEY

POINTS

  • AI เก่งแค่ไหนก็แทนความจริงใจไม่ได้ ในยุคที่คอนเทนต์ออนไลน์มีเนื้อหาคล้ายกันไปหมด คอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ "จริงใจ" และ "แตกต่าง" จะโดดเด่นกว่า เพราะความเชื่อมั่นคือหัวใจของทุกความสัมพันธ์
  • ทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ (คิดวิเคราะห์-คิดสร้างสรรค์) คือคำตอบ ไม่ใช่แค่พูดเก่งหรือเขียนเก่ง แต่ต้องสื่อสารได้อย่างเป็นตัวเอง เข้าใจคนฟัง และเชื่อมโยงด้วยความจริงใจ ให้ผู้ฟัง “เชื่อในสิ่งที่คุณพูด”
  • ใช้ AI ให้เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่มาแทน! อย่าปล่อยให้ AI กลืนเสียงของคุณไป สายงานคอนเทนต์ควรลองคิดเอง เขียนเองก่อน แล้วค่อยให้ AI มาช่วยขัดเกลา จะทำให้คุณโดดเด่นและน่าเชื่อถือในระยะยาว

ในยุคที่เราเริ่มแยกไม่ออกแล้วว่าอะไร “จริง” หรือ “ปลอม” บนโลกออนไลน์ สิ่งที่ยากยิ่งกว่าการรับรู้ความจริง คือการหาคอนเทนต์ที่ "จริงใจ" และเชื่อมโยงกับผู้คนได้อย่างแท้จริง เพราะตอนนี้ Generative AI ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทุกคนใช้ในการเขียน พูด หรือแม้แต่สื่อสารตัวตนบนโซเชียลมีเดีย จนหลายโพสต์เริ่มดูคล้ายกันไปหมด

หลายคนอาจเคยไถผ่าน LinkedIn แล้วรู้สึกว่า “โพสต์นี้น่าจะเขียนโดย AI แน่ๆ” หรือเจอคอมเมนต์ยาวเป็นเรียงความที่ฟังดูสวยหรู แต่ไร้ความรู้สึกและไร้ความเป็นมนุษย์ ใช้ภาษาซ้ำซาก เว่อร์วัง เหมือนเขียนเพื่อขายตัวเอง แล้วปิดท้ายด้วยแฮชแท็กกับอีโมจิตัวเป้ง นี่คืออาการที่หลายคนเริ่มเรียกว่า "AI Content Syndrome" หรือ ภาวะคอนเทนต์ไร้ชีวิตจากการพึ่งพา AI มากเกินไป

AI Content Syndrome (ภาวะคอนเทนต์ไร้ชีวิต) คืออะไร?

ก็อย่างที่คุณคงเห็นบ่อยจนชินตาแล้วว่า เนื้อหาในโลกออนไลน์ใสนยุคนี้เต็มไปด้วยสิ่งที่ดูไร้ชีวิตจิตใจ เนื้อหาในหมวดเดียวกันก็มักจะดูคล้ายๆ กันไปหมด แม้แต่ผู้นำระดับสูงในวงการธุรกิจหลายคน ก็ใช้ prompt ซ้ำๆ ภาษาเดิมๆ จนแค่เห็นผ่านตาก็รู้เลยว่าเป็น AI ทำ ไม่ใช่มนุษย์ทำ

แม้ AI จะช่วยให้เราผลิตงานไวขึ้น สเกลธุรกิจได้ง่ายขึ้น แต่มันก็ทำให้เรายิ่งรู้สึก “ไม่แน่ใจ” ว่าจะเชื่ออะไรได้จริง หรือเชื่อใครได้อีกไหม ซึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะความไว้ใจคือรากฐานของทุกความสัมพันธ์ ถ้าคนมองว่าคุณแค่ลอก หรือเนื้อหาของคุณเหมือนหุ่นยนต์ คุณก็จะเสียโอกาส เสียลูกค้า เสียรายได้ และเสียความน่าเชื่อถือ

AI สู้คนไม่ได้ ทักษะคิด-สื่อสารสร้างสรรค์ No.1 นายจ้างต้องการสูง

ดังนั้น ถ้าคุณอยากโดดเด่นในโลกที่ทุกอย่างดูเหมือนกันไปหมด ไม่ใช่ว่าให้หยุดใช้ AI นะ แต่คุณต้องใช้ Gen AI ให้ชำนาญและแตกต่างจากคนอื่น คุณต้องสร้างความน่าสนใจแบบจริงใจ ไม่ใช่แบบ “เวอร์วัง” (เพราะใช้ AI เยอะเกินไป) แต่เพราะคุณส่งมอบคุณค่า และสร้างความเชื่อมั่นได้จริง

ทักษะอะไร? ที่สำคัญกว่า Generative AI ในปี 2025

เมื่อปีก่อน Indeed จัดอันดับว่า Gen AI คือทักษะสายเทคโนโลยีที่มาแรงที่สุด เพราะสามารถเพิ่มเงินเดือนได้ถึง 47% (ตามการศึกษาของ AWS) แต่สิ่งที่หลายคนมองข้ามคือ AI จะดีได้แค่ไหน ก็ขึ้นอยู่กับ “คนที่ใช้งานมัน” ด้วย

มีรายงานการศึกษาของ AWS ที่สอบถามผู้จ้างงานกว่า 1,300 ราย พบว่า 73% ของนายจ้างไม่ได้โฟกัสแค่ทักษะเทคนิค อย่างการ Coding เท่านั้น แต่ “การคิดวิเคราะห์” และ “การคิดสร้างสรรค์” กลับเป็นสิ่งที่ต้องการมากกว่า ซึ่งทั้งสองทักษะดังกล่าวเคยถูกเรียกว่าเป็น soft skills แต่ตอนนี้มันถูกเรียกว่า power skills แทน เพราะมันคือพลังขับเคลื่อนความสำเร็จในชีวิตการทำงาน

พูดง่ายๆ คือ ถ้าคุณแค่ใส่ prompt ให้ ChatGPT แล้วก็เอาผลลัพธ์มาใช้เลย โดยไม่ปรับอะไรให้เป็นสไตล์ของตัวเองเลย มันก็สะท้อนออกไปว่า “คุณพึ่งพา AI มากเกินไป” ซึ่งจะกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของคุณในฐานะมืออาชีพ

แต่ถ้าคุณมี “ทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์” สิ่งนี้จะทำให้คุณสร้างคอนเทนต์ได้แตกต่างจาก AI แน่นอน ก่อนหน้านี้เคยมีผลสำรวจจาก LinkedIn ระบุไว้ว่า การสื่อสารคือทักษะอันดับต้นๆ ของปี 2024 ด้วย แต่ไม่ใช่การสื่อสารธรรมดา  ต้องเป็น “การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ (Creative Communication)”

ทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ จึงไม่ใช่แค่การพูดหรือเขียนให้ดี แต่คือการสื่อสารได้อย่างมีตัวตนและมีชีวิต, การเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง, ความสามารถถ่ายทอดไอเดียที่สร้างสรรค์และน่าสนใจ และที่สำคัญ ต้องสามารถเล่าเรื่องจากประสบการณ์จริงที่เชื่อมโยงกับคนฟังได้

การใช้ AI อย่างชาญฉลาดไม่ใช่แค่การสั่งให้เขียน แต่คือการใช้มันเป็น “ผู้ช่วย” ไม่ใช่ “ตัวหลัก” เพราะถ้าเรานำเอาผลลัพธ์จาก AI มาใช้แบบดิบๆ โดยไม่ปรับหรือใส่ตัวตนของเราเข้าไปเลย คนอ่านจะรับรู้ได้ทันทีว่านี่ไม่ใช่เสียงจริงของคุณ

AI สู้คนไม่ได้ ทักษะคิด-สื่อสารสร้างสรรค์ No.1 นายจ้างต้องการสูง

5 วิธีพัฒนาทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ให้คุณโดดเด่นกว่า AI

1. กำหนด "น้ำเสียงเฉพาะตัว" ของคุณให้ชัด

เช่น น้ำเสียงเป็นกันเอง จริงใจ สนุก ฯลฯ แล้วเวลาพิมพ์ prompt ให้ ChatGPT ช่วยทำคอนเทนต์ คุณในฐานะเจ้านายก็ต้องให้บริบทไปด้วยว่าอยากให้เขียนด้วยโทนแบบไหน อย่าให้มันกลายเป็นแค่ภาษาหุ่นยนต์แบบที่ใครๆ ก็ใช้กัน

2. เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณต้องการอะไร

ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ ครีเอเตอร์ นักการตลาด ฯลฯ ลองถามตัวเองว่า กำลังเขียนให้ใคร? พวกเขาต้องการอะไร? และอะไรที่ดึงดูดใจพวกเขา? เมื่อเข้าใจสิ่งนี้แล้ว คุณจะหาวิธีสื่อสารได้สร้างสรรค์มากขึ้น

3. เล่าเรื่องส่วนตัวของคุณ

ประสบการณ์ของคุณไม่มีใครลอกได้ แม้คนอื่นจะเจอเรื่องคล้ายกัน แต่ "มุมมอง" ของคุณมีเพียงหนึ่งเดียว ใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ในการเล่าเรื่อง เพื่อให้เนื้อหาของคุณดูจริงใจและจับต้องได้

4. คิดเนื้อหาเองให้ได้ ก่อนใช้งาน AI 

ลองฝึกคิดไอเดียเองก่อน แล้วค่อยให้ AI มาช่วยขยายหรือปรับแต่ง จะช่วยให้คุณไม่กลายเป็น “กระจกสะท้อน” ของเนื้อหาในอินเทอร์เน็ต

5. ฝึกเขียนด้วยตัวเองก่อนใช้ AI

เขียนให้จบก่อน แล้วค่อยใช้ AI ตรวจทานหรือเสริมจุดที่ต้องการ วิธีนี้จะช่วยให้คุณยังคงความคล่องในการสื่อสาร และคงตัวตนของคุณเองไว้ได้ชัดเจน

โดยสรุปคือ เมื่อคุณพัฒนาทักษะการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ได้อย่างแท้จริง คุณจะกลายเป็น "คนที่ขาดไม่ได้" ไม่ว่าจะในฐานะฟรีแลนซ์หรือพนักงานบริษัท
เพราะความเชื่อใจ ความสัมพันธ์ และการสื่อสารที่ดี คือกุญแจที่พาไปสู่โปรเจกต์มูลค่าสูง ลูกค้าประจำ หรือโอกาสที่ยิ่งใหญ่กว่าที่คุณคิด และนั่นคือเหตุผลที่ "การสื่อสารอย่างสร้างสรรค์" จึงเป็นทักษะที่สำคัญที่สุดที่คุณควรเร่งพัฒนาให้ไวในปี 2025 มากกว่าแม้แต่การเรียนรู้ AI เองด้วยซ้ำ

 

 

อ้างอิง: Forbes, indeed, AWS