Gen Z ทำใจยาก! มองงานสายช่างเป็นแค่ ‘ทางผ่าน’ ไม่ใช่อาชีพในฝัน

ผลวิจัย PEW เผย คนทำงานรุ่นใหม่ไม่อินกับสายงานช่าง (Blue Collar) แม้ยุคนี้งานสายนี้เงินเดือนเยอะขึ้นก็ตาม มองว่าเหนื่อย หนัก ไม่มั่นคง และไม่ตอบโจทย์ชีวิตที่ต้องการ
KEY
POINTS
- Gen Z มองงานใช้แรงงานเป็นทางผ่าน ไม่ใช่เป้าหมายระยะยาว แม้จะยอมทำงานสายช่างในช่วงหนึ่ง แต่พวกเขาไม่มองว่างานช่างเฉพาะทาง เป็นอาชีพที่อยากทำไปตลอด เพราะขาดความยืดหยุ่น และโอกาสเติบโตต่ำ
- ความพึงพอใจในงานต่ำ เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ทำให้แรงงานรุ่นใหม่ลังเล กว่า 65% ของ Gen Z มองว่างานที่ทำเป็นแค่ “งานประทังชีวิต” และพวกเขาบอกว่าพึงพอใจในงานน้อยกว่าสายอาชีพอื่น
- คนรุ่นใหม่ไม่อยากถูกเอาเปรียบ Gen Z เติบโตมากับภาพของพ่อแม่ที่ทำงานหนักแต่โดนเลิกจ้างง่ายๆ พวกเขาเลยตั้งคำถามกับระบบงานแบบเดิม และมองหางานที่ให้ความมั่นคง และเคารพแรงงานมากกว่าเดิม
แม้คนรุ่นใหม่จะหันมาเลือกทำงานสายช่าง หรืองานสายอาชีพมากกว่ายุคก่อนๆ แต่ไม่ใช่ทำเพราะรัก พวกเขาแค่ต้องการรายได้ในระยะสั้นเท่านั้น ยืนยันจากรายงานล่าสุดของ Pew Research Center ที่ศึกษาพบว่า คนทำงานรุ่นใหม่กลุ่ม Gen Z ในสหรัฐฯ (ช่วงอายุ 18-29 ปี) จำนวนไม่น้อยหันหน้าเข้าสู่งานสายแรงงานหรือ “Blue Collar” เช่น ช่างไฟฟ้า ช่างประปา ช่างเครื่องยนต์ หรือสายงานก่อสร้าง แต่พวกเขาแทบไม่ได้วางแผนจะอยู่ในสายงานนี้แบบระยะยาว
งานวิจัยชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า ความท้าทายของอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาแรงงานทางกายภาพกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะแม้จะมีการปรับขึ้นค่าแรง (เงินเดือนสูงขึ้นกว่าสมัยก่อน) หรือมีเทคโนโลยีใหม่มาช่วยลดความลำบากของงาน แต่ภาพลักษณ์ที่ว่างาน Blue Collar คือ “งานหนัก รายได้น้อย และโตยาก” ยังคงติดอยู่ในใจของคนทำงานรุ่นใหม่จำนวนมาก
'สายงานช่าง' ก็แค่งานประทังชีวิต ไม่ใช่ความฝันระยะยาว
ผลสำรวจพบว่า 65% ของคนทำงานสายช่างเฉพาะทางวัย 18-29 ปี มองว่า งานของพวกเขาเป็นเพียง “แค่งานที่ทำเพื่อประทังชีวิต” เทียบกับแค่ 49% ของคนที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ส่วนความพึงพอใจในงานก็น้อยกว่าสายอาชีพอื่นอย่างเห็นได้ชัด
มีเพียง 43% ของคนทำงานสายช่างเท่านั้น ที่รายงานว่าตนเอง “พอใจอย่างมาก” หรือ “พอใจมาก” กับงานของพวกเขา และมีถึง 15% ที่บอกว่าตนเอง “ไม่ค่อยพอใจ” หรือ “ไม่พอใจเลย” กับงานสายช่างที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่กลุ่มอาชีพอื่นๆ ในสายงาน White Collar มีความพึงพอใจในงานสูงกว่า นั่นคืออยู่ที่ 53%
*หมายเหตุ: ข้อมูลนี้มาจากการสำรวจความเห็นของกลุ่มตัวอย่าง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ชาวอเมริกันที่มีงานทำ 5,273 คน รวมถึงแรงงานบลูคอลลาร์ 1,004 คน ในเดือนตุลาคม 2024
ศูนย์วิจัย Pew รายงานในผลการสำรวจอีกว่า "เมื่อพิจารณาระดับความพึงพอใจในงานที่ต่ำกว่า อาจไม่น่าแปลกใจที่คนทำงานสายช่าง มีแนวโน้มที่จะมองงานของพวกเขาไม่ใช่เป็นอาชีพมากกว่าคนทำงานสายอื่น แต่เป็นเพียงสิ่งที่จ่ายค่าบิล"
ทำไม Gen Z ถึงไม่อินกับงานสายอาชีพหรืองานสายช่าง?
หนึ่งในคำอธิบายที่น่าสนใจคือเรื่อง “มุมมองต่อความมั่นคง” สำหรับประเด็นนี้ “เควิน ทอมป์สัน” (Kevin Thompson) CEO ของบริษัท 9i Capital Group มองว่า Gen Z เติบโตมากับภาพของงานที่ถูกแทนที่ได้ง่าย ทั้งจากระบบอัตโนมัติและการจ้างคนนอก พวกเขาจึงไม่รู้สึกว่าการทุ่มเทให้กับงานประเภทนี้จะคุ้มค่าในระยะยาว
ขณะที่อเล็กซ์ บีน (Alex Beene) ผู้เชี่ยวชาญด้านความรู้ทางการเงินจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี เสริมว่า “Gen Z ไม่ได้ดูถูกงานช่าง แค่ไม่แน่ใจว่างานเหล่านี้จะตอบโจทย์ชีวิตพวกเขาได้จริงหรือไม่” เพราะชั่วโมงทำงานยาวนาน ตารางไม่แน่นอน แม้จะได้เงินดี แต่ก็แลกมากับพลังชีวิตมหาศาล
ด้าน ไบรอัน ดริสคอลล์ (Bryan Driscoll) ที่ปรึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ เล่าว่า หลายคนใน Gen Z เติบโตมากับประสบการณ์ที่เห็นพ่อแม่หรือปู่ย่าต้องทำงานหนักในระบบที่ไม่ได้ตอบแทนอะไรให้กลับมา “พวกเขาเห็นว่าความจงรักภักดีต่อองค์กรไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้นเสมอไป” เขากล่าว
ดริสคอลล์ยังเสริมอีกว่า งานบลูคอลลาร์ในสายตาของ Gen Z วันนี้ไม่ใช่งานที่ “มั่นคง” อย่างในอดีตอีกต่อไป แต่กลับถูกมองว่าเป็นงานที่ “ใช้แล้วทิ้ง” เพราะระบบก็ปฏิบัติต่อคนทำงานแบบนั้น
ปัจจุบัน คนทำงานในสายงานช่าง คิดเป็นประมาณ 27% ของแรงงานทั้งหมดในสหรัฐฯ แม้บางสายอาชีพอย่างช่างเทคนิค HVAC หรือช่างไฟฟ้าจะมีความต้องการสูง แต่ความท้าทายใหญ่คือการทำให้งานเหล่านี้ “น่าทำ” มากพอจะเป็นเส้นทางอาชีพระยะยาวได้จริง
อ้างอิง: Newsweek, Pew Research Center







