อยากประสบความสำเร็จ ฝึก 4 นิสัยรวย มหาเศรษฐีทั่วโลกทำเป็นประจำ

มหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จ พวกเขามักมีนิสัยบางอย่างที่เหมือนกัน นั่นคือ เรียนรู้จากการล้มเหลว มีวินัยสูง ไม่ยึดติดกับอดีต และไม่กลัวการเผชิญกับความไม่แน่นอน
KEY
POINTS
- รู้หรือไม่? มหาเศรษฐีที่ประสบความสำเร็จ พวกเขามักมีนิสัยบางอย่างที่เหมือนกัน นั่นคือ การเรียนรู้จากการล้มเหลว และไม่กลัวการเผชิญกับความไม่แน่นอน มันคือส่วนหนึ่งของการเติบโตและการปรับตัวให้แข็งแกร่งขึ้น
- อีกหนึ่งข้อสำคัญคือ การมีวินัยสูง สิ่งนี้สามารถฝึกฝนได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป อาจเริ่มจากสิ่งเล็กๆ และทำให้สม่ำเสมอ เช่น ตื่นเช้าขึ้นทีละ 15 นาที หรือใช้เทคนิค "5 นาที" ช่วยพัฒนาวินัยในระยะยาว
- คนรวยหลายคนที่สร้างตัวเองขึ้นมาได้ ทั้งที่สภาพแวดล้อมที่ยากจนหรือมีปัญหาในวัยเด็ก นั่นเพราะพวกเขาเลือกที่จะไม่ให้ปัญหาเหล่านั้นเป็นอุปสรรค แต่กลับใช้เป็นแรงผลักดันเพื่อสร้างชีวิตที่ดีขึ้น
"อยากรวย อยากเก่ง อยากประสบความสำเร็จในชีวิต" เชื่อว่านี่คงเป็นความฝันของวัยทำงานทุกเพศทุกวัยและทุกเจนเนอเรชัน โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีค่านิยมอยากประสบความสำเร็จให้ได้ไวๆ เหมือนกับไอดอลคนโปรดที่พวกเขาชื่นชม แต่หลายๆ คนก็ยังติดอยู่ที่..ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไงดี?
เรื่องนี้มีทางออก เมื่อ "เจมี แคตมัลล์" (Jaime Catmull) ในฐานะนักเขียนผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน และเป็นโฮสต์ของรายการพอดแคสต์ The Richer Way ได้แชร์ประสบการณ์จากการที่เธอได้มีโอกาสสัมภาษณ์คนรวยระดับเศรษฐีและมหาเศรษฐีกว่า 100 คน ตั้งแต่ผู้ประกอบการ ซีอีโอ ไปจนถึงผู้นำในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเธอได้นำข้อคิดดีๆ และความรู้จากคนที่ประสบความสำเร็จระดับสูงเหล่านั้นมาแบ่งปันและแนะนำว่า พวกเขารับมือกับอุปสรรคต่างๆ ในชีวิตแบบไหน และพลิกสถานการณ์กลับมาได้อย่างแข็งแกร่งกว่าเดิมได้อย่างไร
หลังจาก แคตมัลล์ ได้พูดคุยกับมหาเศรษฐีเหล่านั้น สิ่งที่เธอเห็นได้ชัดคือ คนเหล่านี้ไม่ได้พึ่งโชคชะตา แต่กลับมีคุณสมบัติและทักษะที่เหมือนกันบางอย่าง ที่ทำให้พวกเขาเติบโตก้าวหน้าในอาชีพการงานอย่างรวดเร็วและมั่นคง พวกเขามีเสน่ห์ กล้าตัดสินใจ มุ่งมั่น และมีวินัยอย่างเหลือเชื่อ ที่สำคัญคือ พวกเขาไม่เคยนั่งรอโอกาส แต่ลงมือสร้างมันขึ้นมาด้วยตัวเอง
จากประสบการณ์การพูดคุยและได้เรียนรู้คุณสมบัติอันโดดเด่นของผู้คนเหล่านั้น แคตมัลล์ ได้สรุปออกมาเป็น 4 นิสัยสำคัญที่คนเหล่านี้มีเหมือนกัน ได้แก่
1. กล้ายอมรับความล้มเหลวของตนเอง
ในมุมของการกล้ายอมรับความล้มเหลวของตนเองให้ได้นั้น มีมหาเศรษฐีคนดังคนหนึ่ง ซึ่งเขาขึ้นชื่อในเรื่องนี้เป็นอย่างดี นั่นคือ "ริชาร์ด แบรนสัน" (Richard Branson ) ผู้ก่อตั้ง Virgin Group โดยเขาบอกว่า หนึ่งในบทเรียนใหญ่ที่เขาได้เรียนรู้คือ
“คุณไม่ได้เรียนรู้ที่จะเดินด้วยการทำตามกฎ แต่คุณเรียนรู้จากการลงมือทำ และจากการล้มลุกคลุกคลานในเส้นทางอาชีพของคุณต่างหาก”
ขณะที่ "บาร์บารา คอร์โคแรน" (Barbara Corcoran) เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ก็เห็นด้วยกับแนวคิดข้างต้น เธย้ำว่า คนที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องเลิกสงสัยในตัวเอง และเธอมักใช้แนวคิด “แกล้งทำเป็นทำได้จนกว่าจะทำได้จริง” เพื่อเอาชนะความกลัวที่ใหญ่ที่สุดของตัวเอง
ด้าน "คิม คิโยซากิ" (Kim Kiyosaki) ผู้ร่วมก่อตั้ง Rich Dad Company ก็มีจุดเปลี่ยนหลังถูกไล่ออกจากเอเจนซี่โฆษณาแห่งหนึ่ง เธอตัดสินใจไม่หางานใหม่ แต่หันมาโฟกัสกับเส้นทางที่เธอสร้างเองในโลกอสังหาริมทรัพย์ เพราะเธอมั่นใจในเส้นทางที่ตัวเองเลือกและทุ่มเทให้มันอย่างเต็มที่ และในที่สุดเธอก็เป็นอีกคนที่ประสบความสำเร็จสูงในสายงานอสังหาฯ
2. มีวินัยสูงอย่างต่อเนื่อง
ครั้งหนึ่ง แคตมัลล์ มีโอกาสได้พูดคุยกับ "จัสดรีต ซิงห์" (Jaspreet Singh) ซีอีโอของ Briefs Media และผู้ก่อตั้ง Minority Mindset และเธอได้ถามเขาว่า อะไรคือเคล็ดลับของความร่ำรวย คำตอบของเขาคือ คำว่า “วินัย”
“มันต้องใช้วินัยอย่างมากในการตื่นให้ได้แม้ไม่อยากตื่น ไปทำงานก่อนใคร อยู่ต่อหลังสุด และยังทำงานต่อแม้คนอื่นจะบอกว่าคุณทำมากเกินไป แต่ถ้าคุณอยากมีชีวิตในแบบที่คนอื่นได้แค่ฝันถึง คุณก็ไม่สามารถทำเหมือนคนส่วนใหญ่ได้” เขาบอก
ขณะที่ มาร์ก เจ. โคห์เลอร์ (Mark J. Kohler) ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีและกฎหมาย เสริมว่า “แม้คุณจะไม่มีประสบการณ์หรือความรู้มากพอ แต่ถ้าคุณขยันและมีใจรักในสิ่งที่ทำ คุณจะไปได้ไกลกว่าใคร”
คำถามต่อมาคือ แล้วเราจะสร้าง “วินัย” แบบเศรษฐีเหล่านี้ได้อย่างไร? แม้พวกเขาจะดูเหมือนมีวินัยโดยธรรมชาติ แต่ในความจริงคือ วินัยเป็น “ทักษะที่ฝึกได้” และสามารถเริ่มจากสิ่งเล็กๆ ดังนี้
เริ่มจากสิ่งเล็กๆ แต่ทำให้สม่ำเสมอ: อย่าพยายามเปลี่ยนทุกอย่างในคืนเดียว เช่น ถ้าอยากตื่นเช้า ลองขยับเวลาตื่นขึ้นวันละ 15 นาที แล้วทำให้ได้ทุกวัน
วางแผนล่วงหน้า + จัดตารางให้ดี: ลองจดสิ่งที่อยากทำในวันถัดไป เผื่อเวลาสำหรับเรื่องไม่คาดคิด สมองจะได้ไม่เครียดหรือต้องตัดสินใจบ่อยๆ
ใช้เทคนิค “5 นาที” ถ้าอยากเริ่มมีวินัยให้ได้จริง: บอกตัวเองว่า “ทำแค่ 5 นาทีก็พอ” แล้วเริ่มลงมือทำเลย เพราะส่วนใหญ่พอได้เริ่มแล้ว เราจะทำต่อได้เองแบบไม่รู้ตัว
ให้รางวัลตัวเองแบบฉลาดๆ: ทำงานต่อเนื่องได้โดยไม่วอกแวกจนเสร็จ หลังจากงานเสร็จ อาจพักดูคลิปสั้นๆ หรือจิบกาแฟโปรด เพื่อให้สมองเชื่อมโยงนิสัยดีๆ กับความรู้สึกดี
ให้อภัยตัวเองถ้าพลาด แล้วเริ่มใหม่: ทุกคนมีวันที่ไม่ได้ดั่งใจ ล้มได้ แต่อย่าลืมลุกขึ้นมาใหม่ แล้วแค่ “เริ่มใหม่ในวันถัดไป” ก็พอ
3. ไม่ปล่อยให้อดีตมากำหนดอนาคตของตัวเรา
เศรษฐีหลายคนที่เริ่มสร้างฐานะตัวเองจากศูนย์ มักพูดถึงช่วงวัยเด็กที่ยากลำบาก ยกตัวอย่างเช่น "เดอริก เฟย์" (Derik Fay) เขาเติบโตในบ้านพักที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐ และเผชิญกับความยากจนและความรุนแรงในครอบครัว เขาเคยเชื่อว่าอดีตจะเป็นตราบาป แต่สุดท้ายกลับพบว่ามันคือพลังที่เปลี่ยนเขาให้กลายเป็นคนใหม่
ขณะที่ ลิเน็ตต์ คาลฟานี-ค็อกซ์ (Lynette Khalfani-Cox) หรือที่รู้จักในชื่อ The Money Coach เธอเคยเติบโตมาในครอบครัวยากจน พ่อเป็นคนขัดรองเท้า แม่ทำงานเป็นแคชเชียร์ แต่เธอไม่ยอมให้พื้นฐานนั้นจำกัดชีวิต วันนี้เธอคือโค้ชด้านการเงินที่ช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
4. กล้าเผชิญหน้ากับปัญหาที่ท้าทาย ไม่ยอมแพ้
สำหรับตัวอย่างผู้ที่ประสบความสำเร็จและมีทักษะนี้อย่างโดดเด่น ก็คือ "ซูซี่ ออร์แมน" (Suze Orman) เธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและนักเขียนชื่อดัง และยังเผชิญหน้ากับอาการป่วยด้วยเนื้องอกที่กระดูกสันหลังซึ่งสะสมมากว่า 15 ปีในปี 2020 แม้จะกลัว แต่เธอก็เลือกที่จะลงมือรักษา ไม่ปล่อยให้ความกลัวควบคุมชีวิต
ระหว่างที่ แคตมัลล์ สัมภาษณ์เธอในช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิต เธอฝากประโยคหนึ่งที่แคตมัลล์ไม่เคยลืม นั่นคือ “ความกลัว ความอับอาย และความโกรธ คือ 3 อย่างที่ขัดขวางไม่ให้คุณได้เป็นเจ้าของชีวิตที่คุณควรมี”
อ่านมาถึงตรงนี้ หลายคนคงได้เจอคำแนะนำที่โดนใจและช่วยกระตุ้นความฮึกเหิมในการสู้ชีวิตต่อได้ไม่น้อย และสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ย้ำเตือนเราว่า แม้แต่มหาเศรษฐีหลายคนก็ไม่ได้เกิดมาพร้อมทุกอย่าง แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้ดีคือ การเลือกทำสิ่งที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอ มีวินัย ไม่ย่อท้อ แม้ในวันที่ไม่มีแรงบันดาลใจ และนั่นคือแก่นแท้ของการใช้ชีวิตในเส้นทางสู่ความสำเร็จ ที่มันสามารถเปลี่ยนชีวิตพวกเขาได้จริง
อ้างอิง: CNBC, The Richer Way Podcast, jamesclear, charlesduhigg, BehaviorDesign