10 งานเสี่ยงที่ผู้นำต้องทำเอง ไม่ใช่สั่งลูกน้องทำแทนทุกอย่าง

10 งานที่หัวหน้าไม่ควรมอบหมายให้ลูกน้องทำ ถ้าไม่อยากพังทั้งทีม การมอบหมายงานผิดประเภท อาจทำลายความน่าเชื่อถือของผู้นำ ทำให้องค์กรเสียหายหนักแบบคาดไม่ถึง
KEY
POINTS
- ไม่ใช่ทุกงานที่หัวหน้าควร "มอบหมาย" ให้ลูกน้องทำแทน แม้จะมีทีมเก่งแค่ไหนก็ตาม เพราะมี “บางงาน” ที่หัวหน้าต้องทำเองคุณเอง เพราะมันเต็มไปด้วยความเสี่ยง
- การคิดเชิงกลยุทธ์และวางแผนระยะสั้น-ยาว กำหนดทิศทาง วิสัยทัศน์ และพันธกิจขององค์กร และตั้งเป้าหมายระดับยุทธศาสตร์ คือ งานหลักๆ ที่ผู้นำต้องทำเอง คนอื่นมาทำแทนไม่ได้
- การไม่มอบหมายงานทุกงานให้ลูกน้อง ไม่ได้หมายความว่าหัวหน้าไม่ไว้ใจทีม แต่เพราะบางเรื่องผู้นำต้องมี “บทบาทที่ชัดเจน” เพื่อเสริมพลังให้ทั้งงานและคนในองค์กรเดินหน้าไปพร้อมกันอย่างมีพลัง
หัวหน้ามือใหม่ต้องรู้! ไม่ใช่ทุกงานที่ควร "มอบหมาย" ให้ลูกน้องทำแทน แม้จะมีทีมเก่งแค่ไหนก็ตาม จริงอยู่ที่องค์กรควรส่งเสริมให้ผู้นำรู้จักกระจายงานสู่พนักงานใต้บังคับบัญชา เพื่อให้ทีมได้เรียนรู้และเติบโต และเพื่อที่หัวหน้าจะได้ไม่ต้องแบกทุกอย่างไว้คนเดียว
แต่ในโลกความจริง ยังมี “บางงาน” ที่หัวหน้าไม่ควรมอบหมายให้ใครทำแทน แม้แต่ทีมมือทองของคุณเอง เพราะมันเต็มไปด้วยความเสี่ยง อาจส่งผลกระทบในวงกว้าง และต้องอาศัยการตัดสินใจระดับสูงที่คนอื่นทำแทนไม่ได้
โดยงานเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับภาพลักษณ์องค์กร กลยุทธ์ใหญ่ วิสัยทัศน์ในระยะยาว และความสัมพันธ์กับ Stakeholder ระดับบน ซึ่งหากผู้บริหารปล่อยมือ หรือหลีกเลี่ยงที่จะลงมาเกี่ยวข้อง อาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งด้านการเงิน ความเชื่อมั่น และความเป็นผู้นำ
เปิด 10 งานเสี่ยงสูง ไม่ควรส่งต่อคนอื่นหรือสั่งให้ลูกน้องทำแทน
เทรินา อัลเลน (Terina Allen) นักวางแผนกลยุทธ์ ที่ปรึกษา โค้ชผู้บริหาร และวิทยากรระดับนานาชาติ ได้มีคำแนะนำเรื่องนี้ผ่าน Forbes ไว้ว่า ผู้นำควรลองเช็กดูว่างานต่อไปนี้อยู่ในความรับผิดชอบของคุณหรือไม่ ถ้าใช่.. งานเหล่านี้ควรเป็นงานที่คุณได้ลงมือทำเอง ไม่ควรมอบหมายให้คนอื่นทำแทน ได้แก่
1. การคิดเชิงกลยุทธ์และวางแผนระยะสั้น-ยาว
ตั้งแต่แผนประจำเดือน ไตรมาส ไปจนถึงปี เป็นจังหวะสำคัญที่ผู้นำต้องใช้วิสัยทัศน์ สแกนทิศทางขององค์กร และกำหนดเป้าหมายร่วมกัน
2. กำหนดทิศทาง วิสัยทัศน์ และพันธกิจขององค์กร
สิ่งนี้เป็นหัวใจของวัฒนธรรมองค์กร ที่ผู้นำต้องสื่อสารให้ชัดเจนและมีส่วนร่วมจริง ไม่ใช่แค่ฝากใครเขียนสไลด์
3. ตั้งเป้าหมายระดับยุทธศาสตร์
การกำหนดการเติบโตทางรายได้ การขยายธุรกิจ หรือเป้าหมายที่เชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงองค์กร ทั้งหมดนี้คือภาพใหญ่ที่ผู้นำหรือผู้บริหารควรกำหนดเอง
4. การตัดสินใจด้านการเงินและการปฏิบัติงานระดับสูง
งานอย่างอนุมัติงบ การลงทุนขนาดใหญ่ หรือการปรับทิศทางทางธุรกิจ ควรอยู่ในมือผู้นำโดยตรง
5. การตัดสินใจที่ต้องใช้วิจารณญาณสูงและข้อมูลลับ
เช่น เรื่องบุคลากรที่อ่อนไหว หรืองานที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลทางกฎหมาย เพราะหากผิดพลาดครั้งเดียว อาจพังทั้งชื่อเสียงตนเองและชื่อเสียงของบริษัทด้วย
6. สร้างพันธมิตรและเจรจากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนระดับสูง คณะกรรมการ หรือองค์กรพันธมิตรระดับประเทศ สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยตัวผู้นำเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือ
7. งานบริหารโครงสร้างองค์กร ภาพรวมระบบ และวัฒนธรรมองค์กร
เช่น การจัดวางผังองค์กรใหม่ ระบบสืบทอดตำแหน่ง หรือการปลูกฝังค่านิยมองค์กร หัวหน้าหรือผู้นำก็ควรกำหนดสิ่งเหล่านี้ด้วยตนเอง
8. การตัดสินใจในสถานการณ์เลวร้ายและวิกฤตการณ์
เช่น การเลิกจ้าง การปิดสาขา หรือการรับมือกับข่าวลบ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ผู้นำต้องออกหน้าเอง ไม่มีใครทำแทนได้
9. กำหนดแนวทางจัดการเรื่องเร่งด่วนหรือระดับวิกฤติ
ใครจะทำอะไร ต้องแจ้งใครก่อน เรื่องแบบนี้ฝากใครคิดแทนไม่ได้ เพราะอาจเสียเวลาเกินกว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้ทัน
10. ร่วมแสดงความยินดีเมื่อทีมประสบความสำเร็จ
แน่นอนว่าเรื่องนี้ก็สำคัญ! ผู้นำที่หายเงียบในวันฉลองความสำเร็จของทีม แต่กลับปรากฏตัวเฉพาะตอนมีปัญหา ผู้นำแบบนี้จะค่อยๆ สูญเสียความไว้ใจจากทีมโดยไม่รู้ตัว
อย่าเพิ่งคิดว่าการไม่มอบหมายงาน = ไม่ไว้ใจทีม
การไม่มอบหมายงานในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าหัวหน้าไม่ไว้ใจทีม แต่เพราะบางเรื่องผู้นำต้องมี “บทบาทที่ชัดเจน” เพื่อเสริมพลังให้ทั้งงานและคนในองค์กรเดินหน้าไปพร้อมกันอย่างมีพลัง
ถ้าเจอว่างานมันใหญ่เกินจะทำคนเดียว แต่เสี่ยงเกินไปที่จะส่งต่อหรือมอบหมายให้คนอื่นทำแทน อาจลองใช้วิธีที่ดีกว่านั้น คือ “การร่วมมือ” (collaborate) ไม่ใช่แค่โยนงานให้แล้วจบ การร่วมวางแผนหรือเป็นที่ปรึกษาในโครงการสำคัญ อาจสร้างทั้งผลงานดีและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกว่าเดิม
แล้วงานแบบไหนถึงควร “มอบหมาย” ให้ลูกน้องทำ เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า การมอบหมายงานที่ดี ไม่ใช่แค่แบ่งเบาภาระ แต่คือการสร้างโอกาสให้ทีมได้พัฒนา เช่น มอบหมายงานที่ช่วยให้พนักงานได้ฝึกคิด ตัดสินใจ และนำเสนอทางออกของตัวเอง
ผู้นำควรให้กรอบที่ชัดเจนในเรื่องงบประมาณ ระยะเวลา และเป้าหมาย แล้วเปิดโอกาสให้ลูกน้องได้ออกแบบวิธีการทำงานเอง ซึ่งควรเป็นงานที่สำคัญพอสมควร ไม่ใช่แค่เรื่องจุกจิกที่ทีมเบื่อที่จะทำ นอกจากนี้ควรส่งเสริมให้พนักงานมีบทบาทชัดในโปรเจกต์ที่เชื่อมโยงกับเป้าหมายองค์กรจริง ๆ
หัวหน้าควรจำไว้ว่า งานน่าเบื่อไม่ใช่งานที่จะเอาไปเทใส่คนอื่นๆ ในทีม การ "โยน" งานจุกจิกให้ลูกน้องไม่ได้ช่วยให้พวกเขาเติบโตในอาชีพ แต่กลับทำให้พวกเขาหมดไฟ เพราะรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า
หากผู้นำมอบหมายงานได้ดีและเหมาะสม จะพบว่าเกิดผลดีและมีประโยชน์ต่อทีมหลายๆ แง่ ได้แก่ ทีมมีความมั่นใจ กล้าคิด กล้าตัดสินใจมากขึ้น, สมาชิกในทีมเริ่มรับบทบาทนำ และมีศักยภาพจะเป็นผู้นำในอนาคต, งานที่คุณมอบหมายมีผลต่อเป้าหมายจริง, ความไว้วางใจในทีมเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ท้ายที่สุดแล้ว การมอบหมายงานอย่างชาญฉลาดจากผู้นำ จะช่วยพัฒนาองค์กรทั้งระบบ ไม่ใช่ทุกอย่างที่ต้องทำเองหมด แต่ก็ไม่ใช่ทุกอย่างที่ควรมอบหมายไปเสียหมด การเป็นผู้นำยุคใหม่ต้องรู้จังหวะของการ “ปล่อยงาน” และ “ลงมือทำงาน” อย่างถูกที่ถูกเวลา เพื่อให้งานสำเร็จ ทีมเติบโต และตัวคุณเองได้ยืนในจุดที่สร้างอิมแพ็กสูงสุดให้องค์กรได้อย่างภาคภูมิ
อ้างอิง: Forbes







