แรงงานหญิงในออสเตรเลียไม่เติบโต เงินเดือนน้อยกว่าชายเกือบ 20%

ช่องว่างค่าจ้างแรงงานชาย-หญิงในออสเตรเลียยังคงมีอยู่ ผู้หญิงได้เงินน้อยกว่าผู้ชายถึง 18.6% แรงงานหญิงไม่โตในสายงาน ภาคการเงิน เหมืองแร่ และก่อสร้าง เจอหนักที่สุด
KEY
POINTS
- แรงงานหญิงในออสเตรเลียไม่โตในสายงาน ช่องว่างค่าจ้างระหว่างพนักงานหญิงและชายอยู่ที่ 18.6% แม้จะลดลงเล็กน้อยจากปีที่แล้วก็ตาม โดยอุตสาหกรรมการเงิน เหมืองแร่ และก่อสร้าง มีช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศสูงที่สุด
- แม้บางบริษัทจะมีซีอีโอเป็นผู้หญิง แต่ช่องว่างค่าจ้างยังคงกว้าง ในขณะที่อีกหลายบริษัทไม่ดันผู้หญิงขึ้นเป็นซีอีโอ รัฐบาลออกกฎหมายบังคับให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลช่องว่างเงินเดือนระหว่างเพศเพื่อแก้ปัญหานี้
- แม้จะมีการพัฒนาด้านความเท่าเทียมทางเพศอยู่บ้าง แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงเห็นว่าการบรรลุความเท่าเทียมทางค่าจ้างในออสเตรเลีย ยังต้องใช้เวลาและการปรับเปลี่ยนเชิงโครงสร้างในระยะยาว
ประเด็นเรื่องความไม่เท่าเทียมกันของเงินเดือนและการเติบโตก้าวหน้าในสายงานระหว่างแรงงานชายและแรงงานหญิงยังมีให้เห็นอยู่ทั่วโลก หนึ่งในนั้นคือตลาดแรงงานของออสเตรเลีย ล่าสุด..รายงานของรัฐบาลออสเตรเลียระบุว่า แม้ปี 2025 ช่องว่างอัตราเงินเดือนระหว่างชายหญิงจะลดลงเล็กน้อย แต่ผู้หญิงยังคงได้รับค่าจ้างเฉลี่ยต่ำกว่าผู้ชายมากถึง 18.6% โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการเงิน เหมืองแร่ และก่อสร้าง ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความเหลื่อมล้ำมากที่สุด
ผลสำรวจจากสำนักงานความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงาน (Workplace Gender Equality Agency - WGEA) แสดงให้เห็นว่า 72.2% ของนายจ้างมีช่องว่างค่าจ้างที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชาย หมายความว่า ผู้ชายได้รับค่าจ้างสูงกว่าผู้หญิงในตำแหน่งที่คล้ายกัน ขณะที่ 21.3% ของบริษัทมีช่องว่างค่าจ้างอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ (+/- 5%) และมีเพียงส่วนน้อยที่ค่าจ้างเอื้อประโยชน์ต่อวัยทำงานผู้หญิง
ช่องว่างค่าจ้างที่ยังสูง บ่งชี้ความไม่เท่าเทียมทางเพศในโลกการทำงาน
ข้อมูลจากรายงานระบุว่า ช่องว่างค่าจ้างเฉลี่ยของออสเตรเลียในปีสิ้นสุดเดือนมีนาคม 2024 อยู่ที่ 18.6% ซึ่งลดลงจาก 19% ในปีก่อนหน้า โดยพบว่ามี 56% ของบริษัทที่สามารถลดช่องว่างค่าจ้างลงได้ อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างของค่าจ้างยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข
แมรี่ วูลดริดจ์ (Mary Wooldridge) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ WGEA อธิบายว่า เมื่อช่องว่างค่าจ้างของบริษัทใดเกินช่วงมาตรฐาน (+/- 5%) นั่นสะท้อนให้เห็นว่า เพศหนึ่งมีโอกาสได้รับตำแหน่งที่มีค่าตอบแทนสูงมากกว่าอีกเพศหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าแม้ผู้หญิงจะมีศักยภาพเทียบเท่ากับผู้ชาย แต่โอกาสในการเข้าถึงตำแหน่งงานที่มีรายได้สูงยังคงน้อยกว่า
จากการสำรวจพบว่าอุตสาหกรรมที่มี ช่องว่างอัตราเงินเดือนระหว่างชายหญิงสูงที่สุด ได้แก่ สายงานการเงิน เหมืองแร่ และก่อสร้าง ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มักถูกครอบงำโดยผู้ชาย และมีอัตราการจ้างงานผู้หญิงน้อยกว่าอุตสาหกรรมอื่น
ตัวอย่างของบริษัทขนาดใหญ่ที่มีค่าจ้างชายหญิงแตกต่างกันสูงมาก ได้แก่ Macquarie Group ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการลงทุนชั้นนำของออสเตรเลีย โดยมีช่องว่างค่าจ้างสูงถึง 41.8% ขณะที่ Woodside บริษัทผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติมีช่องว่างของเงินเดือนระหว่างชายหญิงอยู่ที่ 25.6% แม้ว่าจะลดลงจาก 30.2% ในปีก่อนก็ตาม
สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้ ทั้ง Macquarie Group และ Woodside จะมีซีอีโอเป็นผู้หญิง แต่ช่องว่างค่าจ้างยังคงกว้างอยู่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการมีผู้นำหญิงในองค์กรไม่ได้หมายความว่าปัญหาความเหลื่อมล้ำทางค่าจ้างจะหมดไปโดยอัตโนมัติ
มุมมองของซีอีโอต่อปัญหาช่องว่างค่าจ้างระหว่างชายหญิง
เมื่อถูกถามถึงช่องว่างค่าจ้างที่สูงผิดปกติในบริษัทของตน เชมารา วิกรามานายาเก (Shemara Wikramanayake) ซีอีโอของ Macquarie Group ระบุว่า บริษัทไม่ต้องการเร่งผลักดันให้ผู้หญิงเข้าสู่ตำแหน่งระดับสูงก่อนที่พวกเธอจะพร้อม “เรื่องนี้ต้องใช้เวลาเท่าที่จำเป็น เราจะไม่บังคับให้ผู้หญิงขึ้นสู่ตำแหน่งบริหาร เพราะนั่นอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี”
ด้าน เม็ก โอนีล (Meg O’Neill) ซีอีโอของ Woodside มองว่าปัญหานี้เป็นเรื่องของเวลาและโครงสร้างองค์กร เธอระบุว่า แม้ว่าบริษัทจะมีนโยบายจ้างงานที่สมดุลระหว่างเพศมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว แต่การที่พนักงานหญิงจะเติบโตขึ้นสู่ตำแหน่งระดับสูงยังต้องใช้เวลา “จำนวนพนักงานของเราเยอะมาก… ดังนั้นผู้หญิงที่เข้ามาทำงานต้องใช้เวลาในการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น”
บริษัทอื่นๆ ก็ประสบปัญหาคล้ายกัน เช่น Thomson Reuters (Professional) Australia ซึ่งเป็นบริษัทในเครือสำนักข่าว Reuters รายงานว่า ช่องว่างค่าจ้างของพนักงานผู้ชายในบริษัทสูงกว่าพนักงานหญิงอยู่ที่ 25% ซึ่งแม้จะลดลง 3.5 จุดจากปีก่อน แต่ก็ยังถือว่ามากอยู่
โฆษกของ Thomson Reuters อธิบายว่า ช่องว่างค่าจ้างของบริษัทไม่ได้เกิดจากการเลือกปฏิบัติทางเพศโดยตรง แต่เป็นผลมาจากโครงสร้างขององค์กรที่มีความไม่สมดุลระหว่างจำนวนพนักงานหญิงและชายในระดับล่างและระดับบริหาร
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ รัฐบาลออสเตรเลียได้ออกกฎหมายในปี 2023 กำหนดให้บริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 100 คนต้องเปิดเผยข้อมูลช่องว่างค่าจ้างระหว่างพนักงานชายและพนักงานหญิง ซึ่งเป็นแนวทางที่คล้ายกับหลายประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ที่มีมาตรการในลักษณะเดียวกัน
แม้ว่ามาตรการนี้จะช่วยเพิ่มความโปร่งใสและกดดันให้บริษัทต่างๆ ลดความเหลื่อมล้ำทางค่าจ้าง แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่ายังต้องใช้เวลาอีกนานกว่าที่ออสเตรเลียจะสามารถปิดช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศได้อย่างแท้จริง
อ้างอิง : South China Morning Post