วิศวกร AI 1 ใน 5 อาชีพมาแรง ตลาดงานต้องการมาก เงินเดือนสูงหลักแสน

วิศวกร AI 1 ใน 5 อาชีพมาแรง ตลาดงานต้องการมาก เงินเดือนสูงหลักแสน

อาชีพวิศวกร AI ตลาดงานต้องการสูง โดยเป็น 1 ใน 5 ตำแหน่งงานมาแรงปีนี้ เงินเดือนสูงหลักแสนดอลลาร์ ส่วนใหญ่ทำงานที่บ้านได้ แถถมบางสายงานก็ไม่จำเป็นต้องมีใบปริญญา

KEY

POINTS

  • ข้อมูลคาดการณ์จาก World Economic Forum ระบุว่า AI จะสร้างตำแหน่งงานใหม่ๆ จำนวนมากกว่าตำแหน่งงานที่มันเข้ามาทดแทน ล่าสุดพบว่า วัยทำงานมีการค้นหางานด้าน AI บน Google พุ่งสูงขึ้น แสดงให้เห็นถึงความสนใจและการปรับตัวของแรงงาน
  • อาชีพสายเทคฯ เอไอที่มาแรง ได้แก่ วิศวกร AI, ที่ปรึกษา AI, นักวิจัย AI, ผู้ฝึกอบรม AI และผู้จัดการผลิตภัณฑ์ AI ซึ่งมีอัตราเงินเดือนที่สูงและสามารถทำงานจากระยะไกลได้
  • บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Meta, Netflix และ Amazon กำลังจ้างงานด้าน AI อย่างต่อเนื่อง โดยบางตำแหน่งเสนอเงินเดือนสูงถึง 900,000 ดอลลาร์ต่อปี
  • แนวโน้มการจ้างงานในยุค AI เน้นทักษะมากกว่าใบปริญญา โดยสายงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้ใบปริญญาสมัครงาน ได้แก่ การเขียนโค้ด พัฒนาซอฟต์แวร์ ฯลฯ 

 

 

 

 

เป็นเวลาเกือบสามปีแล้วหลังจาก ChatGPT เปิดตัว จนตอนนี้ก้าวเข้าสู่ปี 2025 กระแสของปัญญาประดิษฐ์ (AI) ยังคงร้อนแรงในตลาดแรงงานทั่วโลก การพัฒนาเทคโนโลยีนี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ยังมีผลกระทบต่อแทบทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ ทั้งการเงิน การศึกษา สุขภาพ และแม้แต่การค้าปลีก

ข้อมูลจากผลสำรวจของ Google ระบุว่าการค้นหา "อาชีพหรือตำแหน่งงานด้าน AI" เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงต้นปี 2025 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2023 เป็นต้นมา สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทหรือนายจ้างมีความต้องการแรงงานทักษะสูงในสายงานเทคฯ เอไอ จำนวนมาก 

ด้านลูกจ้างเองก็เริ่มตระหนักว่าปัญญาประดิษฐ์จะส่งผลต่ออาชีพของพวกเขาอย่างไร บางคนเปลี่ยนอาชีพจากสายงานเดิม แล้วมุ่งสู่สายงานด้านเทคฯ เลยก็มี เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าสายงานเทคฯ เอไอให้ค่าตอบแทนที่ค่อยข้างสูง นอกจากนี้ พนักงานบางคนก็มองว่า AI อาจช่วยเสริมศักยภาพการทำงานในตำแหน่งปัจจุบันได้ ขณะที่บางคนกังวลว่าหุ่นยนต์และแชตบอทอัจฉริยะอาจเข้ามาแทนที่งานของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม รายงานจาก World Economic Forum ในปี 2020 คาดการณ์ว่า ภายในสิ้นปี 2025 AI อาจทำให้ตำแหน่งงานดั้งเดิมหายไปประมาณ 85 ล้านตำแหน่ง แต่ในขณะเดียวกันก็จะสร้างงานใหม่ถึง 97 ล้านตำแหน่ง ซึ่งหมายความว่าโอกาสการจ้างงานในสายงานนี้อาจมีมากขึ้นกว่าที่หลายคนคิด

เปิดโผอาชีพที่เติบโตเร็วที่สุดในสายงาน AI มีอะไรบ้าง?

จากข้อมูลของ ZipRecruiter และ Indeed ที่ได้แบ่งปันกับ CNBC Make It พบว่าอาชีพที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดในสายงาน AI มีด้วยกัน 5 สายงาน ได้แก่

1. วิศวกร AI (Artificial Intelligence Engineer)

งานของวิศวกร AI คือการออกแบบ พัฒนา และปรับปรุงอัลกอริธึม AI รวมถึงโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) เพื่อนำมาใช้ในแอปพลิเคชันต่างๆ เช่น ระบบแนะนำสินค้า แชตบอทอัจฉริยะ และระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
รายได้เฉลี่ย: 106,386 ดอลลาร์ต่อปี (3,600,000 บาทต่อปี)
รายได้สูงสุดในสายงานนี้: 156,000 ดอลลาร์ต่อปี (5,400,000 บาทต่อปี)

2. ที่ปรึกษา AI (Artificial Intelligence Consultant)

ที่ปรึกษา AI ช่วยบริษัทต่างๆ ในการประยุกต์ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดต้นทุน และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ พวกเขาต้องมีความรู้ด้านเทคนิค และสามารถประเมินผลกระทบของ AI ต่อองค์กรได้
รายได้เฉลี่ย: 113,566 ดอลลาร์ต่อปี (3,900,000 บาทต่อปี)
รายได้สูงสุดในสายงานนี้: 144,000 ดอลลาร์ต่อปี (4,900,000 บาทต่อปี)

3. นักวิจัย AI (Artificial Intelligence Researcher)

นักวิจัย AI ทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ และสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้กับธุรกิจหรือโครงการทางวิทยาศาสตร์ งานของพวกเขามักเกี่ยวข้องกับปัญญาประดิษฐ์เชิงลึก (Deep Learning) และการเรียนรู้เสริม (Reinforcement Learning)
รายได้เฉลี่ย: 113,102 ดอลลาร์ต่อปี (3,800,000 บาทต่อปี)
รายได้สูงสุดในสายงานนี้: 154,000 ดอลลาร์ต่อปี (5,300,000 บาทต่อปี)

4. ผู้ฝึกอบรม AI (Artificial Intelligence Trainer)

บทบาทของผู้ฝึกอบรม AI คือการสอนโมเดล AI ให้เข้าใจข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงการปรับปรุงและแก้ไขข้อผิดพลาดของโมเดลเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำ
รายได้เฉลี่ย: 64,984 ดอลลาร์ต่อปี (2,230,000 บาทต่อปี)
รายได้สูงสุดในสายงานนี้: 93,500 ดอลลาร์ต่อปี (3,200,000 บาทต่อปี)

5. ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ AI (Artificial Intelligence Product Manager)

ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ AI มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาและบริหารผลิตภัณฑ์ที่ใช้ AI ตั้งแต่การออกแบบแนวคิดไปจนถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ในตลาด
รายได้เฉลี่ย: 103,178 ดอลลาร์ต่อปี (3,540,000 บาทต่อปี)
รายได้สูงสุดในสายงานนี้: 175,000 ดอลลาร์ต่อปี (6,000,000 บาทต่อปี)

การจ้างงานยุค AI โอกาสที่มากกว่าความเสี่ยง หลายวงการ

อีกหนึ่งข้อดีของตำแหน่งงานทั้ง 5 อาชีพข้างต้น คือ ส่วนใหญ่นายจ้างจะอนุญาตให้สามารถทำงานจากระยะไกลได้ ไม่เพียงเท่านั้น จาก 3 ใน 5 อาชีพเหล่านี้ ได้แก่ วิศวกร AI, ที่ปรึกษา AI และนักวิจัย AI ยังติดอันดับ "งานที่เติบโตเร็วที่สุด" ของ LinkedIn ซึ่งเป็นรายงานที่บ่งชี้ถึงตำแหน่งงานที่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดระหว่างปี 2022-2024

ทั้งนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก อย่างเช่น Meta, Netflix และ Amazon ได้ขยายทีมพัฒนาและฝึกอบรมโมเดล AI ให้ใหญ่ขึ้น เปิดรับสมัครพนักงานมากขึ้น โดยบางตำแหน่งเสนอเงินเดือนสูงถึง 900,000 ดอลลาร์ต่อปี (ราวๆ 30,870,000 บาทต่อปี) 

จูเลีย โพลแลก (Julia Pollak) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ ZipRecruiter ให้ความเห็นว่า ความเฟื่องฟูของยุค AI ไม่เพียงช่วงสร้างงานสร้างอาชีพให้ลูกจ้างในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังช่วยกระตุ้นการจ้างงานในอุตสาหกรรมอื่นๆ  ด้วย เช่น ค้าปลีก การเงิน การดูแลสุขภาพ และการศึกษา 

ที่น่าสนใจคือ ตำแหน่งงานเกี่ยวข้องกับ AI ที่บริษัทต่างๆ กำลังต้องการพนักงานจำนวนมาก ไม่ได้จำกัดแค่สายงานด้านวิศวกรรมเสมอไป แต่ยังทำให้สายงานด้าน AI เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) เติบโตอย่างมากเช่นกัน ทำให้เกิดตำแหน่งงานใหม่ๆ ที่รองรับการทำงานด้านจริยธรรมและประสิทธิภาพของเทคโนโลยี เช่น นักตรวจสอบข้อเท็จจริง AI (AI Fact-Checker), ผู้ดูแลเนื้อหา (Content Moderator), ผู้ฝึกอบรม (Trainer) และผู้จัดการฝ่ายกำกับดูแล (Compliance Manager)

ตำแหน่งงานสายเทคฯ AI จำนวนมาก ไม่ต้องใช้ใบปริญญาในการสมัครงาน

แม้ว่างานบางประเภท เช่น วิศวกร AI ยังคงต้องการผู้สมัครงานที่จบวุฒิปริญญาตรี แต่ปัจจุบันมีแนวโน้มที่บริษัทส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับทักษะทางเทคนิคและผลงานมากกว่าใบปริญญา ตามข้อมูลของ ZipRecruiter ระบุด้วยว่า สายงานที่ลูกจ้างทักษะสูงสามารถสมัครงานได้โดยไม่ต้องมีใบปริญญา ได้แก่ "การเขียนโค้ด การพัฒนาซอฟต์แวร์ และการเขียนเชิงเทคนิค" 

ไรอัน ซัตตัน (Ryan Sutton) ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัทจัดหางาน Robert Half ให้สัมภาษณ์กับ CNBC Make It ว่า แนวโน้มการจ้างงานโดยพิจารณาจากทักษะเป็นหลัก (ไม่เน้นใบปริญญา) จะยังคงอยู่ในตลาดงาน AI

“โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็วอย่าง AI มีผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมจำนวนมาก ที่เลือกลาออกจากมหาวิทยาลัยก่อนจบ หรือไม่เข้าเรียนเลยเพื่อไปทำงานกับสตาร์ทอัพหรือเข้าสู่วงการโดยตรง” Sutton กล่าว

สุดท้ายนี้เขาย้ำว่า นายจ้างหรือบริษัทต่างๆ ในสายงานเทคฯ ต้องการแน่ใจว่าพวกเขากำลังจ้างบุคลากรด้านเทคโนโลยีที่ดีที่สุด และเปิดโอกาสให้กับบุคคลเหล่านั้น แม้จะไม่มีใบปริญญาก็ตาม

 

อ้างอิง: CNBC, LinkedIn, BusinnessInsiderziprecruiter, indeed