ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ บริษัท 200 แห่งใน UK บังคับใช้จริงแบบถาวร

ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ได้ไปต่อ! ภาวะหมดไฟลดลงถึง 64% บริษัทต่างๆ ใน UK นำมาบังคับใช้จริงแบบถาวร เริ่มแล้ว 200 บริษัท ส่วนใหญ่เป็นสายการตลาด, โฆษณา, ประชาสัมพันธ์
KEY
POINTS
- เทรนด์ 4 Day work week ได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ล่าสุด.. บริษัท 200 แห่งในสหราชอาณาจักร มีนโยบายใช้ระบบทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์แบบถาวร
- กลุ่มธุรกิจที่ใช้นโยบายนี้มากที่สุดคือ บริษัทด้านการตลาด โฆษณา และประชาสัมพันธ์ ตามมาด้วยองค์กรการกุศล และองค์กรด้านเทคโนโลยี ไอที ซอฟต์แวร์
- วิจัยเผย พนักงานรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะต่อต้านรูปแบบการทำงานแบบเดิม โดยคนวัย 18-34 ปีในสหราชอาณาจักรประมาณ 78% เชื่อว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์จะกลายเป็นบรรทัดฐานในอีก 5 ปีข้างหน้า
อัปเดตเทรนด์การทำงานในรูปแบบ "ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์" หรือ 4 Day work week ที่ก่อนหน้านี้ 2-3 ปีที่แล้วมีหลายๆ บริษัททั่วโลกเริ่มทดลองใช้ระบบนี้กับพนักงานและมีการศึกษาวิจัยควบคู่กันไปอย่างต่อเนื่องนานเป็นปีๆ ล่าสุด.. มีรายงานว่าบริษัทหลายแห่งในสหราชอาณาจักร มีนโยบายบังคับใช้การทำงานรูปแบบดังกล่าวอย่างถาวรแล้ว
ย้อนกลับไปดูจุดเริ่มต้นของระบบการทำงานรูปแบบนี้กันหน่อย สำหรับ เทรนด์การทำงาน 4 วัน ต่อสัปดาห์ หมายถึงการลดวันทำงานจาก 5 วันเหลือ 4 วันต่อสัปดาห์ โดยยังคงได้รับค่าจ้างเต็มจำนวน เทรนด์นี้เริ่มได้รับความสนใจมาตั้งแต่ประมาณ ปี 2021-2022 หรือยุคหลังโควิดระบาด วัยทำงานค้นพบว่าสามารถทำงานที่บ้านได้ดีไม่ต่างกับทำงานที่ออฟฟิศ จากนั้นรูปแบบการทำงานเริ่มพัฒนาและพลิกโฉมไปสู่หลากหลายวิธีซึ่งเน้นการทำงานที่ยืดหยุ่น ทำงานแบบไฮบริด ทำงานระยะไกล รวมถึงเทรนด์การลดชั่วโมงทำงานต่อสัปดาห์ก็มาแรงเช่นกัน
ต่อมาในปี 2024 มีรายงานพบว่าเทรนด์ 4 Day work week ได้รับความสนใจมากขึ้นทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก ยืนยันจากผลสำรวจ "Work in America" ของสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน ระบุว่า 22% ของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานว่า นายจ้างของพวกเขามีนโยบายทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจากเดิม 14% ในปี 2022
ขณะที่องค์กรเจ้าภาพหลักอย่าง "4 Day Week Global" ซึ่งดำเนินโครงการทดลองระบบทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ทั่วโลก รายงานว่า บริษัทที่เข้าร่วมทดลองในโครงการพบว่า การลาออกของพนักงานลดลง 42%, รายได้ของบริษัทเพิ่มขึ้น 36% และอัตราภาวะหมดไฟของพนักงานลดลงถึง 64%
บริษัทการตลาด โฆษณา ประชาสัมพันธ์ ใช้ระบบ 4 วันทำงานมากที่สุด
ล่าสุด..ตามรายงานของ The Guardian ระบุว่าในปีนี้ มีบริษัทต่างๆ ในสหราชอาณาจักรถึง 200 บริษัท ครอบคลุมพนักงานประมาณ 5,000 คน ได้นำระบบทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์มาใช้แบบถาวร
โดยกลุ่มธุรกิจที่นำร่องใช้นโยบายนี้มากที่สุดคือบริษัทด้านการตลาด โฆษณา และประชาสัมพันธ์ โดยมี 30 บริษัทที่ปรับใช้ระบบนี้ ตามมาด้วยองค์กรการกุศล 29 แห่ง, องค์กรธุรกิจด้านเทคโนโลยี ไอที ซอฟต์แวร์ 24 แห่ง และบริษัทอีก 22 แห่งในภาคธุรกิจ ที่ปรึกษา และการจัดการ ก็ได้เสนอให้พนักงานทำงานสัปดาห์ละ 4 วันเป็นการถาวรเช่นกัน และยังมีองค์กรในภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย
โจ ไรล์ (Joe Ryle) ผู้อำนวยการฝ่ายรณรงค์ของมูลนิธิ 4 Day Week Foundation เปิดเผยว่า แนวคิดการทำงาน 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นตลอด 5 วันต่อสัปดาห์ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อ 100 ปีก่อน มันเป็นรูปแบบการทำงานดั้งเดิมที่ค้างคามาจากยุคเศรษฐกิจก่อนหน้านี้ และมันไม่ตอบโจทย์การทำงานในยุคปัจจุบันอีกต่อไป เราควรจะต้องปรับเปลี่ยนใหม่มานานแล้ว
"บริษัทในสหราชอาณาจักรหลายร้อยแห่ง รวมถึงหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่ง ได้พิสูจน์แล้วว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์โดยไม่ลดค่าจ้างสามารถสร้างประโยชน์ให้ทั้งพนักงานและนายจ้าง ด้วยเวลาว่างที่เพิ่มขึ้นในแต่ละสัปดาห์ ทำให้วัยทำงานมีอิสระที่จะใช้ชีวิตที่มีความสุขและเติมเต็มมากขึ้น" ผอ.มูลนิธิ อธิบายให้เห็นภาพชัด
ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพงาน แต่อาจไม่เหมาะกับทุกบริษัท
โดยรวมแล้ว บริษัท 200 แห่งเหล่านี้ได้แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการลดเวลาทำงานในแต่ละสัปดาห์ พวกเขาต่างก็บอกว่าระบบนี้เป็นวิธีที่มีประโยชน์ในการดึงดูดและรักษาพนักงานไว้ และปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน โดยสร้างผลงานเท่าเดิมในเวลาทำงานที่น้อยลง จนถึงปัจจุบัน บริษัทที่ตั้งอยู่ในลอนดอนมีความกระตือรือร้นในการเปลี่ยนมาใช้ระบบ 4 Day work week มากที่สุด โดยคิดเป็น 59 บริษัทจากทั้งหมด
งานวิจัยของสมาคมจิตวิทยาอเมริกันชี้ให้เห็นอีกว่า การทำงานสัปดาห์ละ 4 วันช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิต ความพึงพอใจในงานให้แก่พนักงาน และยังช่วยลดต้นทุนบางอย่างขององค์กรได้อีกด้วย ในปี 2024 ผลสำรวจ "Work in America" พบว่า 80% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่า การทำงานเพียง 4 วันต่อสัปดาห์ จะทำให้พวกเขามีความสุขมากขึ้นและยังสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าเดิม
อย่างไรก็ตาม ระบบการทำงานนี้อาจไม่ได้เหมาะกับทุกองค์กร ไมเคิล เบย์นส์ (Michael Baynes) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Clarify Capital เคยให้สัมภาษณ์กับ Newsweek ว่า ในบางอุตสาหกรรม การบีบอัดเวลาทำงานให้น้อยลงอาจส่งผลตรงกันข้าม และยิ่งทำให้เกิดภาวะหมดไฟได้มากขึ้น ดังนั้น สิ่งสำคัญคือต้องมีการจัดการงานที่มีประสิทธิภาพและกระบวนการทำงานที่คล่องตัว
แม้ว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์จะมีข้อดีมากมาย แต่วิธีการที่เหมาะกับทุกองค์กรอาจไม่มีจริง ความสำเร็จของแนวทางนี้ขึ้นอยู่กับการวางแผนอย่างรอบคอบและการปรับให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละธุรกิจ
ในสหรัฐอเมริกา แนวคิดนี้ได้ถูกนำไปทดลองใช้และนำมาใช้จริงในบางบริษัท เช่น Kickstarter, Bolt และ Dolby อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับในประเทศอื่น ๆ ระบบทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยังห่างไกลจากการเป็นมาตรฐานการทำงานทั่วไป
คาดการณ์ 4 Day work week จะกลายเป็นบรรทัดฐานการทำงานใหม่ในอีก 5 ปี
ผลการวิจัยของ Spark Market Research แสดงให้เห็นว่าพนักงานรุ่นใหม่มีแนวโน้มที่จะต่อต้านรูปแบบการทำงานแบบเดิมมากที่สุด โดยคนวัย 18-34 ปีในสหราชอาณาจักรประมาณ 78% เชื่อว่าการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์จะกลายเป็นบรรทัดฐานในอีก 5 ปีข้างหน้า ในขณะที่ 65% กล่าวว่าพวกเขาไม่ต้องการกลับไปทำงานที่ออฟฟิศในรูปแบบดั้งเดิม
ลินซีย์ แคโรแลน (Lynsey Carolan) กรรมการผู้จัดการของบริษัท Spark กล่าวว่า “คนรุ่นใหม่วัย 18-34 ปี ซึ่งจะเป็นกำลังแรงงานหลักในอีก 50 ปีข้างหน้า กำลังแสดงให้ทุกคนเห็นว่า พวกเขาไม่มีความตั้งใจที่จะกลับไปสู่รูปแบบการทำงานแบบเดิมๆ อีกแล้ว”
กลุ่มวัยทำงานคนรุ่นใหม่ยังบอกอีกว่าสุขภาพจิตและการปรับปรุงความเป็นอยู่โดยรวมให้ดีขึ้น ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ดังนั้นการทำงานสัปดาห์ละ 4 วันจึงเป็นประโยชน์อย่างมากและเป็นปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมของพวกเขา
อ้างอิง: Theguardian, Newsweek