เลิกจ้าง! Meta และ Microsoft ปรับลดพนักงานอีกระลอก เน้นคนผลงานต่ำ โดนก่อน

ในภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ปี 2025 ยังคงมีความผันผวนสูง ผู้เล่นรายใหญ่ เช่น Meta และ Microsoft ยังคงดำเนินการปรับ “ลดพนักงาน” เชิงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเป้าการเลิกจ้างไปที่พนักงานที่มีผลงานต่ำ ท่ามกลางการปรับโครงสร้างบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ที่กำลังดำเนินการอยู่ต่อเนื่อง

โดยในฝั่งของ Meta กำลังลดจำนวนพนักงานประมาณ 5% หรือ 3,600 คน ผ่านการประเมินผลการปฏิบัติงานแบบกำหนดเป้าหมาย ตามบันทึกภายในที่ Bloomberg ได้เคยรายงานไว้ก่อนหน้านี้ 

เบื้องหลักการปรับลดพนักงานสายเทคฯ อยากตัดคนที่ผลงานต่ำออกไป

มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของ Meta ระบุในบันทึกถึงพนักงานว่า เขาตั้งใจที่จะย้ายพนักงานที่มีประสิทธิภาพต่ำออกไปจากบริษัทให้เร็วกว่านี้ โดยยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียมีแผนที่จะคัดเลือกบุคลากรใหม่เพื่อมาแทนที่พนักงานที่ถูกปลดออกในปีนี้

พนักงานของสำนักงานสาขาในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว จะได้รับแจ้งสถานะการจ้างงาน (ว่าจะได้อยู่ต่อหรือถูกปลด) ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 ส่วนพนักงานในสำนักงานสาขาต่างประเทศจะได้รับแจ้งหลังจากนั้น

ซักเคอร์เบิร์ก อธิบายถึงเหตุผลของการปลดพนักงานออกอย่างต่อเนื่องในปีนี้ บันทึกภายในถึงพนักงานไว้ว่า “Meta กำลังดำเนินการสร้างเทคโนโลยีที่สำคัญที่สุดในโลกบางส่วน เช่น แว่นตา AI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ และอนาคตของโซเชียลมีเดีย การทำงานของบริษัทปีนี้จะเป็นปีแห่งความเข้มข้นและผมต้องการให้แน่ใจว่าเรามีบุคลากรที่ดีที่สุดอยู่ในทีมของเรา” 

ในขณะที่ รายงานจาก CNBC ระบุว่าอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ของวงการอย่าง Microsoft กำลังเลิกจ้างพนักงาน ประมาณ 1% ในแผนกต่างๆ เกือบทุกแผนก โดยโฆษกของบริษัทกล่าวว่า “เมื่อพนักงานมีผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ทางบริษัทจึงจะต้องดำเนินการที่เหมาะสม”

ย้อนรอยการเลิกจ้างของสองยักษ์ใหญ่บริษัทเทคฯ ไม่กี่ปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา Meta และ Microsoft ได้ลดจำนวนพนักงานลงอย่างมาก ในปี 2022 Meta ได้เลิกจ้างพนักงานประมาณ 11,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ในปีถัดมา 2023 ซึ่ง ซักเคอร์เบิร์ก ขนานนามว่าเป็น “ปีแห่งประสิทธิภาพ” ทาง Meta ได้เลิกจ้างพนักงานเพิ่มอีก 10,000 ตำแหน่ง 

นอกจากนี้ Microsoft ยังลดจำนวนพนักงานลง 10,000 คน ในปี 2023 พร้อมทั้งรวมพื้นที่สำนักงานเข้าด้วยกัน หลังจากที่ได้เข้าซื้อ Activision Blizzard มูลค่า 75,400 ล้านดอลลาร์ 

ไม่เพียงเท่านั้น แผนกเกมของ Microsoft ยังได้เลิกจ้างพนักงาน1,900 ตำแหน่งในช่วงต้นปี 2024 ที่ผ่านมา เพื่อปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดการเลิกจ้างในอนาคต 

สิ่งที่ต้องระวังคือบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Meta และ Microsoft มักทำหน้าที่เป็นผู้นำเทรนด์ในอุตสาหกรรม โดยกำหนดกำลังคน แนวโน้มเชิงกลยุทธ์ที่บริษัทขนาดเล็ก และสตาร์ทอัพรายอื่นๆ จะเลียนแบบในเวลาต่อมา 

เมื่อยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีเหล่านี้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ เช่น การเลิกจ้างตามผลงาน การหยุดจ้างพนักงาน หรือมาตรการลดต้นทุน องค์กรอื่นๆ มักจะทำตามโดยมองว่า การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสัญญาณเชิงกลยุทธ์เกี่ยวกับสภาพตลาดและประสิทธิภาพการดำเนินงาน การกระทำของพวกเขาสามารถส่งผลสะเทือนต่อระบบนิเวศเทคโนโลยีได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อแนวทางการจ้างงานและแนวทางขององค์กรโดยรวมในการบริหารจัดการบุคลากรในภาคส่วนต่างๆ