'ความมีสติ' คือทักษะอันดับ 1 ที่นายจ้างมองหาจากผู้สมัครงานมากที่สุด

'ความมีสติ' คือทักษะอันดับ 1 ที่นายจ้างมองหาจากผู้สมัครงานมากที่สุด

‘ความมีสติ มีประสิทธิภาพ รับผิดชอบสูง’ คือบุคลิกภาพและทักษะอันดับ 1 ที่นายจ้างมักมองหาในผู้สมัครงาน นักจิตวิทยาชี้ คุณลักษณะนี้มีคุณค่าในระดับสากล

KEY

POINTS

  • ในบริบทของการสมัครงาน-สัมภาษณ์งาน มักมีการพูดถึงทักษะหรือบุคลิกภาพของผู้สมัครที่นายจ้างต้องการ เรียกว่า คุณลักษณะบุคลิกภาพ 5 ประการ หรือ Big Five
  • แต่มีลักษณะบุคลิกภาพอันดับ 1 ที่นักจิตวิทยาชี้ว่า เป็นสิ่งที่นายจ้างมองหามากที่สุด นั่นคือ Conscientiousness หรือ ความมีสติ
  • หากลักษณะเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติสำหรับคุณ ก็ไม่เป็นไร คุณสามารถสร้างการสนับสนุนในจุดที่คุณต้องการได้ เช่น หาเครื่องมือหรือระบบแจ้งเตือน มาช่วยให้ติดตามงานง่ายขึ้น เป็นต้น

ในบริบทของการสมัครงาน-สัมภาษณ์งาน นายจ้างย่อมมองหาพนักงานที่ตรงกับความต้องการขององค์กร โดยมักมีการพูดถึงทักษะหรือบุคลิกภาพของผู้สมัครบางประเภท ที่นายจ้างต้องการตัวเป็นอันดับต้นๆ เรียกว่า คุณลักษณะบุคลิกภาพ 5 ประการ หรือ Big Five (Personality Traits) คือ บุคลิกภาพที่กำหนดจากคุณลักษณะที่คนเรามี อันมาจากนิสัยพื้นฐานของแต่ละบุคคล ซึ่งเชื่อมโยงสู่ทักษะการทำงาน โดยนักจิตวิทยาได้แบ่งคุณสมบัติของผู้คนออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่

1. Openness to experience: เป็นคนที่เปิดใจกว้าง อยากรู้อยากเห็นและชอบเปิดรับสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ มักจะสงสัยและสนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ รับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย มีระดับความเปิดกว้างสูง

2. Conscientiousness: ความมีสติ มักเป็นคนที่มีระเบียบวินัยสูง พึ่งพาได้ มีประสิทธิภาพและมีความรับผิดชอบสูง ชอบวางแผนและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ

3. Extraversion: ลักษณะอารมณ์ดี เป็นมิตร ชอบเข้าสังคมพบปะผู้คน และสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นได้อย่างมีพลัง เป็นลักษณะนิสัยของคนคิดบวก และมองโลกในแง่ดี

4. Agreeableness: มีความเข้าอกเข้าใจคนอื่น นึกถึงใจคนรอบข้าง มีจิตใจที่หวังดีต่อผู้อื่นและพร้อมให้ความช่วยเหลือที่ตัวเองสามารถช่วยได้ ชอบทำให้คนรอบข้างสบายใจ

5. Emotional stability: ลักษณะนิสัยแห่งการเตรียมพร้อม เพราะมักจะคิดถึงสิ่งที่ร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้น พร้อมกับวางแผนเตรียมรับมือไว้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม มีลักษณะบุคลิกภาพอันดับ 1 ที่นักจิตวิทยาค้นพบว่า มีความสำคัญเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งที่นายจ้างมองหาจากพนักงานหรือผู้สมัครงานมากที่สุด นั่นก็คือ Conscientiousness หรือ ความมีสติ

นายจ้างต้องการ “ผู้มีความสามารถที่ดี” เสมอ ไม่ว่าโลกการทำงานจะเปลี่ยนไปแค่ไหน

ดร. เบนจามิน เกรนเจอร์ หัวหน้านักจิตวิทยาด้านเกี่ยวกับการทำงานและ workplace และเป็นหัวหน้าฝ่าย EX Advisory Services ของ Qualtrics กล่าวว่า จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมากกว่า 10 ปีในสายงานด้านที่ปรึกษาองค์กรในการดูแลพนักงาน เขาค้นพบว่า ในโลกการทำงานยุคนี้ แม้ว่านายจ้างจะมีความกังวลเกี่ยวกับการเทรนด์ต่างๆ เช่น Quiet quitting อยู่บ้างเป็นครั้งคราว แต่ “ความต้องการจ้างผู้มีความสามารถที่ดี” ยังเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับนายจ้างเสมอ 

เขาบอกอีกว่า แม้ลักษณะบุคลิกภาพแต่ละอย่างข้างต้นทั้ง 5 อย่าง จะมีความสำคัญต่อการงานในบางตำแหน่ง แต่ทักษะ “ความมีสติ” เป็นคุณสมบัติหลักที่นายจ้างมองหาในพนักงานใหม่อยู่เสมอ เนื่องจาก ผู้ที่มีบุคลิกแบบ Conscientiousness สามารถทำนายผลการปฏิบัติงานในหลายๆ งานได้ นั่นทำให้ทักษะนี้มีคุณค่าในระดับสากลสำหรับนายจ้าง 

งานที่ต้องใช้ทักษะความมีสติจะเป็นสกิลที่อยู่เหนือกว่างานเฉพาะด้าน บ่อยครั้งที่บทบาทเริ่มแรกที่คุณได้รับการว่าจ้าง จะเปลี่ยนไปตามความต้องการขององค์กรที่พัฒนาขึ้น (คุณอาจถูกปรับเปลี่ยนสู่ตำแหน่งงานใหม่ซึ่งคุณไม่คุ้นเคย) ดังนั้น พนักงานที่มีคุณสมบัตินี้ จึงมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากขึ้นไม่ว่าจะได้รับมอบหมายให้ทำงานใดก็ตาม 

เมื่อคุณลักษณะนี้สำคัญและทำให้ผู้สมัครงานมีโอกาสได้งานสูง แต่บางคนอาจไม่ได้มีสิ่งนี้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด แล้วมันจะสามารถฝึกฝนได้ไหม และมีวิธีฝึกอย่างไรเพื่อให้พัฒนาทักษะนี้ขึ้นมาได้?

เรียนรู้ ทำความเข้าใจ "ความมีสติ" และลองเอามาปรับใช้ในการสัมภาษณ์งาน

เรื่องนี้ ดร.เบนจามิน บอกว่า มีวิธีง่ายๆ สองสามวิธีที่จะแสดงให้ผู้จ้างงานเห็นว่าคุณมีคุณสมบัติที่สำคัญนี้ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า นายจ้างบางแห่งจะประเมินบุคลิกภาพผู้สมัครงานก่อนการจ้างงาน ซึ่งใช้แบบประเมินที่มีรากฐานมาจาก Big Five เพื่อทำความเข้าใจความรู้ ทักษะ ความสามารถ และคุณลักษณะของผู้สมัครได้ดียิ่งขึ้น

จากนั้นก็มีการนัดสัมภาษณ์งาน ซึ่งผู้สัมภาษณ์ฝ่ายนายจ้างมักจะสังเกตพฤติกรรมที่มีความเฉพาะเจาะจงเกี่ยวข้องกับงาน เพื่อเป็นการวัดทักษะและจรรยาบรรณในการทำงานของคุณ จุดนี้ ผู้สมัครงานควรเตรียมตัวและเตรียมคำตอบที่สอดคล้องกับคุณสมบัติ Conscientiousness เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมีสติของคุณ เช่น 

1. ในช่วงการติดต่อนัดสัมภาษณ์งาน ฝ่ายจ้างงานจะสังเกตการตอบสนองของผู้สมัครต่อการโทรและอีเมลที่ติดต่อไป รวมถึงดูความตรงต่อเวลา และความเป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นสัญญาณที่ละเอียดอ่อน และล้วนเป็นตัวแทนของความมีสติสัมปชัญญะ ดังนั้น โปรดมาตรงเวลาและตรวจทานเนื้อหาที่เป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณสามารถไว้วางใจในการทำงานอย่างจริงจัง

2. ขณะที่สัมภาษณ์งานให้อธิบายบริบทการงานในตำแหน่งก่อนหน้านี้ อธิบายสิ่งที่คุณได้ทำ แบ่งปันผลลัพธ์ และสิ่งที่คุณเรียนรู้จากประสบการณ์ จะทำให้ผู้สัมภาษณ์ฝ่ายนายจ้างเห็นความตั้งใจและความรับผิดชอบต่องานของคุณ

3. สิ่งนี้จะดำเนินต่อไปแม้หลังจากที่คุณได้งานแล้ว นายจ้างและผู้จัดการจะสังเกตพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ที่บ่งบอกถึงความเอาใจใส่ ความพิถีพิถัน และความกระตือรือร้นต่อการทำงานของคุณ ดังนั้นอย่าทำมันแค่ผิวเผิน แต่ต้องฝึกฝนตัวเองอย่างจริงจังเพื่อให้คุณสมบัตินี้ติดตัวไป

รู้ตัวก่อนชัวร์กว่า ลองทดสอบบุคลิกภาพตัวเองก่อนการสัมภาษณ์งานใหม่

สำหรับกรณีที่คุณไม่แน่ใจเกี่ยวกับคุณสมบัติ “ความมีสติ” ของตัวเอง ให้ลองพิจารณาตัวเอง และพูดคุยสอบถามเรื่องนี้กับเพื่อนสนิทหรือเพื่อนร่วมงานที่เชื่อถือได้ หรือทำแบบประเมินบุคลิกภาพ Big Five ทางออนไลน์เพิ่มเติมด้วย คลิกได้ที่ Bigfive-test หากพบว่าตนเองมีคุณสมบัตินี้อยู่แล้วก็ยินดีด้วย ให้ทำงานด้วยความขยันและมีจรรยาบรรณต่อไป

แต่หากลักษณะเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นตามธรรมชาติสำหรับคุณ ก็ไม่เป็นไร คุณอาจสามารถสร้างการสนับสนุนในจุดที่คุณต้องการได้ เช่น หากคุณไม่ใช่คนที่มีการจัดระเบียบตามธรรมชาติ ให้หาเครื่องมือมาช่วยให้คุณไม่พลาดสิ่งต่างๆ ในการทำงานแต่ละวัน ไม่ว่าจะเป็น ระบบการจัดตารางงานดิจิทัล การฝึกสอนการจัดการเวลา หรือการทบทวนปฏิทินรายสัปดาห์

ทั้งนี้ ความมีสติเป็นคุณลักษณะที่คงทนและถ่ายทอดสู่กันและกันได้ สำหรับคนที่จริงจังกับการหางานที่น่าพึงพอใจ สิ่งสำคัญคือต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง ถ้าความมีสติไม่ใช่จุดแข็งของคุณ ก็อย่าเสแสร้งเป็นอย่างอื่น แต่ให้ลองฝึกฝนกับมันดู ซึ่งอาจต้องใช้ความพยายามอยู่สักหน่อย แต่หากทำได้สิ่งนี้จะช่วยให้คุณได้งานที่ดีในอนาคต