‘Nike’ และ ‘Jordan’ จูงมือกันติดโผสนีกเกอร์ขวัญใจชาวอเมริกัน

‘Nike’ และ ‘Jordan’ จูงมือกันติดโผสนีกเกอร์ขวัญใจชาวอเมริกัน

ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดสนีกเกอร์ที่มีผู้เล่นเพิ่มขึ้นหลายแบรนด์ “Nike” ยังคงครองใจผู้บริโภคชาวอเมริกันไว้ได้ นอกจากนี้แบรนด์ในเครือเดียวกัน “Jordan” ก็ติดอันดับมาด้วย ส่วนอีกหนึ่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่ Adidas ตามมาเป็นอันดับ 3

KEY

POINTS

  • สหรัฐอเมริกากลายเป็น “ตลาดรองเท้าผ้าใบ” ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังทำยอดขายได้มากกว่า 22 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 จากการประมาณการของ Statista Market Insights
  • ข้อมูลจาก Statista Consumer Insights เมื่อ 1 มี.ค. 2024 พบว่า “สนีกเกอร์” ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐคือ “Nike” อยู่ที่ร้อยละ 63
  • “Jordan” สนีกเกอร์ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับที่ 5 อยู่ที่ร้อยละ 35 ทำให้ Nike กลายเป็นแบรนด์ที่มีสินค้าในเครือเดียวกันติดมาถึง 2 อันดับ

ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดสนีกเกอร์ที่มีผู้เล่นเพิ่มขึ้นหลายแบรนด์ “Nike” ยังคงครองใจผู้บริโภคชาวอเมริกันไว้ได้ นอกจากนี้แบรนด์ในเครือเดียวกัน “Jordan” ก็ติดอันดับมาด้วย ส่วนอีกหนึ่งแบรนด์ยักษ์ใหญ่ Adidas ตามมาเป็นอันดับ 3

ตลาดรองเท้าผ้าใบที่ใหญ่ที่สุดในโลกล่าสุดเป็นของ “สหรัฐอเมริกา” หลังทำยอดขายได้มากกว่า 22 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023 จากการประมาณการของ Statista Market Insights หลังมียอดจำหน่าย “รองเท้าผ้าใบ” มากถึง 380 ล้านคู่เฉพาะในสหรัฐแค่ที่เดียว เพราะผู้บริโภคมองว่ารองเท้าผ้าใบไม่จำเป็นต้องใส่เพื่อเล่นกีฬาอย่างเดียว แต่คือแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่สามารถสวมใส่ได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน จนกลายเป็นเครื่องแต่งกายที่ขาดไม่ได้อย่างหนึ่งของชาวอเมริกันหลายช่วงอายุและหลากหลายภูมิภาค

จากข้อมูลของ Statista Consumer Insights ที่นำมาอ้างอิงเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2024 พบว่า “สนีกเกอร์” ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐก็คือ “Nike” และยังเคยเป็นสนีกเกอร์ที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดในโลกเมื่อปี 2022 ตามการรายงานของ The World's Most Popular Sneaker Brands 

สำหรับสถิติสนีกเกอร์ยอดนิยมของชาวอเมริกันที่น่าสนใจนอกจาก Nike แล้วก็คือ “Jordan” ที่ได้รับความนิยมตามมาเป็นอันดับ 2 จากทั้งหมด 6 อันดับ (เพราะมีบางแบรนด์ได้รับความนิยมเท่ากัน) โดย Nike และ Jordan ถือว่าเป็นสนีกเกอร์ที่เกิดขึ้นจากบริษัทเดียวกัน เพราะหลังจากที่ Nike เปิดตัวรองเท้า Jordan ก็สร้างความนิยมแบบถล่มทลายไปทั่วโลก ทำให้ Nike แตกไลน์บริษัทย่อยออกมา เพื่อดูแลแบรนด์ “Jordan” โดยเฉพาะ

“Nike” และความได้เปรียบจากตลาดในบ้าน

เหตุผลหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าเป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้ Nike ยังคงเป็นแบรนด์รองเท้าผ้าใบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในสหรัฐ ก็เพราะว่าเป็นแบรนด์ที่ก่อตั้งขึ้นในรัฐโอเรกอนตั้งแต่ปี 1964 โดย ฟิล ไนต์ (Phil Knight) และ บิล โบเวอร์แมน (Bill Bowerman) มีสินค้าครอบคลุมตั้งแต่ เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า หมวก กระเป๋า และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการเล่นกีฬาหลายประเภท โดยในปัจจุบันก็มีเสื้อผ้ารองเท้าแนวไลฟ์สไตล์เพิ่มขึ้นมาและได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เช่น Nike Air Force 1, Nike Air Max และ Nike Cortez เป็นต้น

ด้วยความที่เป็นรองเท้าสัญชาติอเมริกัน จึงไม่แปลกที่จะได้รับความนิยมจากชาวอเมริกันแซงหน้าคู่แข่งตลอดกาลสัญชาติเยอรมันอย่าง “Adidas” ไปได้

จากข้อมูลที่รวบรวมโดย Statista ด้วยการสำรวจจากประชากรชาวอเมริกันทั้งหมด 1,164 คน ตั้งแต่อายุ 18-64 ปี สามารถสรุปแบรนด์ “สนีกเกอร์” ยอดนิยมได้ดังนี้

อันดับ 1 Nike ร้อยละ 63

อันดับ 2 Adidas ร้อยละ 53

อันดับ 3 New Balance ร้อยละ 39

อันดับ 4 Converse ร้อยละ 37

อันดับ 5 Skechers และ Jordan ร้อยละ 35

อันดับ 6 Vans และ Reebok ร้อยละ 31

“Jordan” การแตกแบรนด์สุดปังของ Nike

หากสังเกตดีๆ จะพบว่าในอันดับที่ 5 ปรากฏชื่อของ “Jordan” และบางคนอาจสงสัยว่าทำไมจึงไม่นับรวมไปกับ Nike ตรงนี้ต้องอธิบายเพิ่มจากที่เกริ่นไปข้างต้นว่า ถึงแม้ Jordan จะมีต้นกำเนิดมาจาก Nike ก็จริง แต่สินค้าของแบรนด์ Jordan ที่ส่วนหนึ่งก็เกิดขึ้นมาพร้อมกับนักบาสเกตบอลระดับตำนาน ไมเคิล จอร์แดน (Michael Jordan) ที่แม้ว่าจะวางมือจากวงการกีฬาไปแล้ว แต่สินค้าที่เป็นภาพจำของเขายังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบางครั้งสินค้าเหล่านั้นก็ทำรายได้แซงหน้าสินค้าอื่นๆ ในเครือ Nike ด้วย

หลังจากนั้นจึงทำให้ Nike ยินยอมก่อตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาเพื่อดูแลแบรนด์ Jordan โดยเฉพาะ แม้ว่าจะมี Nike เป็นผู้ถือหุ้นแต่ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน หรือ ค่าสิทธิ (Royaties) ให้กับไมเคิลสำหรับรองเท้าทุกคู่ที่ขายได้ภายใต้แบรนด์ Jordan ไปตลอดกาล หมายความว่าไมเคิลจะได้รับเงินจาก Nike ตลอดไปซึ่งแทบจะไม่เกิดขึ้นกับนักกีฬาคนอื่น เพราะส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแค่การร่วมงานกันด้วยสัญญาชั่วคราวเท่านั้น

อ่านข่าว : 

รู้จัก ‘NIKE Air Jordan 1’ รองเท้า Sneaker ระดับตำนาน

นอกจากนี้ “Jordan” ยังเป็นสนีกเกอร์ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับสองของโลกในปี 2022 อยู่ที่ร้อยละ 11 ตามหลังก็แค่ “Nike” ที่ร้อยละ 18

ด้วยยอดขายรองเท้าทั่วโลกที่ 33 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2023 ที่สิ้นสุดเมื่อ 31 พ.ค. 2023 พบว่า Nike ไม่เพียงแค่เป็นที่นิยมมากที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้จำหน่ายรองเท้ากีฬารายที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วย โดย Adidas ที่เป็นคู่แข่งสำคัญมียอดขายรองเท้าประมาณ 13 พันล้านดอลลาร์ในปี 2022

แม้ว่าทั้ง “Nike” และ “Jordan” ยังคงเป็นเจ้าตลาดอยู่ แต่คู่แข่งสำคัญ “Adidas” ก็น่าจับตามองไม่แพ้กัน หลังรองเท้าสุดฮิตรุ่นคลาสสิก Samba กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ส่วนอีกหนึ่งเจ้าที่ประมาทไม่ได้ก็คือ “New Balance” ที่ได้รับความสนใจจากแวดวงแฟชั่นเพิ่มมากขึ้น จึงต้องดูกันต่อไปว่าในอนาคตความสนใจของชาวอเมริกันไปจนถึงคนทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหน

อ้างอิงข้อมูล : Statista และ Statista Market Insights