ทักษะ Pattern Recognition เคล็ดลับความสำเร็จมหาเศรษฐี บัฟเฟตต์-ไมเคิล รูบิน

ทักษะ Pattern Recognition เคล็ดลับความสำเร็จมหาเศรษฐี บัฟเฟตต์-ไมเคิล รูบิน

นอกจากความร่ำรวยระดับ “มหาเศรษฐี” ที่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ และ ไมเคิล รูบิน มีเหมือนกันแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่พวกเขามีก็คือ ทักษะ “Pattern Recognition” ที่ช่วยให้ตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างชาญฉลาด

Key Points:

  • Michael Rubin ซีอีโอของ Fanatics บริษัทขายสินค้ากีฬาออนไลน์ชื่อดังในสหรัฐ เขาบริหารบริษัทจนประสบความสำเร็จ และกลายเป็น 'มหาเศรษฐี' ระดับหมื่นล้าน
  • หนึ่งในวิธีบริหารงานและเลือกคนเก่งๆ มาร่วมงานกับเขาก็คือ การใช้ทักษะ “Pattern Recognition” หรือ ทักษะการมองหาและจดจำรูปแบบ ซึ่งมันเป็นทักษะที่สามารถทำนายอนาคตได้
  • ขณะที่ Warren Buffett ก็ใช้ทักษะในการทำงาน จนนำพาบริษัทรอดพ้นจากการลงทุนที่สุ่มเสี่ยงได้

หากพูดถึง “มหาเศรษฐี” ในวงการธุรกิจออนไลน์ที่เชื่อมโยงกับวงการกีฬา คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “ไมเคิล รูบิน (Michael Rubin)” ซีอีโอของ “ฟานาติกส์ (Fanatics)” บริษัทจำหน่ายสินค้ากีฬาทางออนไลน์ชื่อดังในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้มีรายงานว่ามูลค่าของบริษัท Fanatics นั้นสูงถึง 31,000 ล้านดอลลาร์หลังจากการระดมทุนในปี 2022 นั่นทำให้ไมเคิลกลายเป็นบุคคลที่มีความมั่งคั่งสุทธิ (Net Worth) มากถึง 11,500 ล้านดอลลาร์ พูดง่ายๆ ว่าเขาเป็นผู้ที่มีความมั่งคั่งสูงคนหนึ่งในสหรัฐ

ในฐานะที่เป็นเจ้าของธุรกิจผู้ร่ำรวย ไมเคิลจึงมักถูกถามถึงวิธีการบริหารธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยเขาก็ได้มาแชร์ประสบการณ์การทำงานของตนเองผ่านรายการพอดแคสต์ “On Purpose” ของไลฟ์โค้ชชื่อดัง “เจย์ เชตตี้” ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ เขามีทักษะอย่างหนึ่งที่ช่วยให้คาดการณ์ผลลัพธ์ของสถานการณ์ก่อนที่มันจะเกิดขึ้นได้ นั่นคือ ทักษะ “Pattern Recognition” หรือ ทักษะการมองหาและจดจำรูปแบบ

 

  • ทักษะ “Pattern Recognition” คืออะไร? 

ข้อมูลจาก Scimath อธิบายไว้ว่าโดยทั่วไป ทักษะ Pattern Recognition เป็นแนวคิดเชิงคำนวณทางคอมพิวเตอร์ (Computational Thinking) ใช้ในกระบวนการวิเคราะห์ปัญหา เพื่อให้ได้แนวทางหาคำตอบอย่างเป็นขั้นตอน อีกทั้งเป็นกระบวนการแก้ปัญหาในหลากหลายลักษณะ เช่น การจัดลำดับเชิงตรรกศาสตร์ การวิเคราะห์ข้อมูล การคิดวิธีแก้ปัญหาไปทีละขั้น รวมถึงการย่อยปัญหาให้เป็นหลายๆ ส่วนเพื่อแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีการนำทักษะนี้มาประยุกต์ใช้ทำงานสาขาอื่นๆ ในยุคดิจิทัลอย่างหลากหลาย

ขณะที่ทางด้าน ไมเคิล รูบิน ก็สะท้อนมุมมองด้วยว่า ทักษะ Pattern Recognition เป็นทักษะที่คนที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงมักนำไปใช้ โดยเขาให้เครดิตกับทักษะนี้อย่างมากในการที่ช่วยให้เขาสร้างทีมและบริหารบริษัท Fanatics ได้จนประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้

“มันเป็นทักษะที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ และผมคิดว่ามันเป็นทักษะที่สามารถทำนายอนาคตได้ ทักษะการจดจำรูปแบบคือทุกสิ่ง ผมใช้ทักษะนี้กับทุกสิ่งที่ทำ” ไมเคิล รูบิน กล่าว

 

  • ยกตัวอย่างการใช้ทักษะ Pattern Recognition ในการทำงานของ ไมเคิล รูบิน

ทั้งนี้ เขายกตัวอย่างการใช้ทักษะนี้ในการคัดเลือกพนักงานที่มีศักยภาพ นั่นคือ การรวบรวมข้อมูลภูมิหลังของพนักงานคนนั้นๆ นอกเหนือจากประวัติย่อและการสัมภาษณ์งาน

“หลังจากการสัมภาษณ์งาน หากผมชอบผู้สมัครงานคนนี้ ทันทีที่เขาจากไป ผมจะออกไปข้างนอกและเริ่มโทรหาคนที่ผมรู้ว่ามีลักษณะนิสัยหรือบุคลิกที่เหมือนกันเพื่อจดจำรูปแบบต่างๆ การพิจารณาส่วนตัวผมคือ ดูภาพรวมขณะสัมภาษณ์ 50% และหาข้อมูลภูมิหลังของคนๆ นั้นอีก 50% 

จากการค้นหารูปแบบของคนๆ หนึ่ง มันทำให้พบว่า แม้ในเบื้องหน้าคนๆ นี้อาจดูห่วยหรือเป็นคนพูดน้อย แต่ข้อมูลภูมิหลังกลับพบว่าเขามีผู้ติดตามจำนวนมาก เขาฉลาดมาก เขามีจรรยาบรรณในการทำงานอย่างไม่ลดละ” ไมเคิล อธิบาย และนั่นทำให้เขาได้พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูง

 

  • วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก็เป็นอีกคนที่ใช้ทักษะนี้ได้อย่างดี

ไม่ใช่แค่ไมเคิล รูบิน เท่านั้นที่มีทักษะนี้ แต่นักลงทุนระดับตำนานอย่าง “วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)” ก็ใช้ทักษะนี้ในการเอาตัวรอดจากการลงทุนที่สุ่มเสี่ยงด้วย โดยหากย้อนกลับไปในปี 2016 ในการประชุมประจำปีของ Berkshire Hathaway ซึ่งบริษัทของบัฟเฟตต์ เขาได้หารือในที่ประชุมถึงแนวทางที่จะใช้ขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตต่อไปได้ดี ซึ่งก็ได้ข้อสรุปว่าพวกเขาจะใช้แนวทางทักษะ “Pattern Recognition” เข้ามาช่วยในการทำงาน

โดยทักษะดังกล่าวได้ช่วยให้เขาหลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทยาที่ชื่อว่า Valeant Pharmaceuticals หรือ Bausch Health Companies (ชื่อในปัจจุบัน) ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายไปได้ บัฟเฟตต์กล่าวว่า เขาได้รับคำแนะนำให้ซื้อหุ้น Valeant เพื่อสร้างผลกำไร เนื่องจากนักลงทุนเห็นว่ามันให้ผลตอบแทนที่ดีเมื่อราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้น แต่บัฟเฟตต์กลับเห็นสัญญาณอันตราย เพราะเมื่อเช็กข้อมูลภูมิหลังแล้วพบว่ามี “รูปแบบ” ธุรกิจที่มีข้อบกพร่องอย่างมาก และไม่ใช่ธุรกิจที่สร้างขึ้นเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว 

ปรากฏว่าสัญชาตญาณของเขาถูกต้อง เพราะเพียงไม่นาน ก็มีข่าวว่า CEO ของ Valeant ได้ลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากบริษัทถูกสำนักงาน ก.ล.ต. กล่าวหาบริษัทโก่งราคาหุ้น และภายใน 30 วัน หุ้นของบริษัทผลิตยาดังกล่าวก็ดิ่งลงถึง 85% นี่เป็นอีกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าการรู้รูปแบบของหุ้นที่พุ่งสูงระยะสั้น ส่วนใหญ่มักจะจบลงอย่างเลวร้าย 

 

  • วิธีฝึกฝนตนเองให้มีทักษะ Pattern Recognition

อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นำหรือพนักงานทั่วไป คุณสามารถฝึกฝนทักษะนี้ได้เช่นกัน โดยอาจเริ่มจากการเล่นหมากรุกและหมากฮอส หรือฝึกร่วมงานกับผู้ที่มีมุมมองและพื้นฐานความเข้าใจที่แตกต่างกับตัวเราเอง เพื่อมองหารูปแบบของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง 

ทั้งนี้ ทักษะการมองหาและจดจำรูปแบบเป็นทั้งศิลปะและวิทยาศาสตร์ โดยนำมาประยุกต์ใช้กับการบริหารธุรกิจได้ เช่น

ให้กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจและความท้าทายที่ต้องแก้ไข จากนั้นก็จัดหาข้อมูล รวบรวมชุดข้อมูลที่หลากหลาย และใช้เครื่องมือทางสถิติ และ/หรือ การวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น อัลกอริธึม AI เพื่อประมวลผลข้อมูลเหล่านั้น ก็จะช่วยให้ตัดสินใจในการทำงานหรือทางธุรกิจได้อย่างเฉียบคม