เปิดลิสต์ ‘หนังสือไทย’ ที่อุ๊งอิ๊ง เตรียมไปโชว์ระดับอินเตอร์ใน ‘ไต้หวัน’

เปิดลิสต์ ‘หนังสือไทย’ ที่อุ๊งอิ๊ง เตรียมไปโชว์ระดับอินเตอร์ใน ‘ไต้หวัน’

ล่าสุด “หนังสือไทย” กลายเป็นอีกหนึ่ง “Soft Power” ที่พรรคเพื่อไทยเร่งผลักดันสู่สากล ด้วยการส่งไปจัดแสดงในงาน Taipei International Book Exhibition 2024 งานหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

Key Points:

  • “อุ๊งอิ๊ง” ประกาศรายชื่อ “หนังสือไทย” ทั้งหมด 60 เล่ม ที่ได้รับคัดเลือกโดย คณะอนุกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติด้านหนังสือ ให้ไปจัดแสดงในงาน Taipei International Book Exhibition 2024 (TIBE) ที่ไต้หวัน
  • TIBE เป็นงานหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย และใหญ่เป็นลำดับที่ 4 ของโลก ที่นอกจากจะมีหนังสือให้เลือกซื้อแล้ว ยังมีนิทรรศการ, การประชุม และการสัมมนา เกี่ยวกับ “อุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์” อีกด้วย
  • หนังสือไทยที่ได้รับคัดเลือกให้ไปจัดแสดงใน TIBE ครอบคลุมเกือบทุกหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น นวนิยาย เรื่องสั้น ชีวประวัติ ประวัติศาสตร์ วัฒธรรม รวมถึง “นิยายวาย” ทั้ง Boy Love และ Girl Love

ความพยายามผลักดัน “Soft Power” ของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติของพรรคเพื่อไทย ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่องโดย อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยในฐานะรองประธานกรรมการ ซึ่งที่ผ่านมามีการดำเนินการไปบ้างแล้วบางส่วน เช่น อาหารไทย กีฬาไทย หรือ ภาพยนตร์ไทย

สำหรับในหมวด “หนังสือ” ที่ได้รับจัดสรรงบประมาณไว้ 69 ล้านบาทนั้น ล่าสุดมีความคืบหน้า โดยแพทองธารเผยว่า เตรียมส่ง “หนังสือไทย” ไปสู่เวทีโลก ด้วยการเปิดลิสต์หนังสือ 60 เล่มที่จะได้ไปจัดแสดงในงาน “Taipei International Book Exhibition 2024” ระหว่างวันที่ 20-25 ก.พ. 2024 ที่ไต้หวัน เพราะนอกจากจะเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้ชาวต่างชาติรู้จักงานเขียนของไทยเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการเตรียมความพร้อมในเรื่องของ “การแปล” อีกด้วย ซึ่งจะเน้นไปที่การแปลหนังสือไทย ไปเป็นภาษาอื่นๆ ทั่วโลกโดยตรงแบบไม่ต้องผ่านการแปลเป็นภาษาอังกฤษก่อนเหมือนที่ผ่านมา

ก่อนที่จะไปรู้จักกับหนังสือไทยที่เตรียมโกอินเตอร์ กรุงเทพธุรกิจจะพาไปทำความรู้จัก Taipei International Book Exhibition 2024 กันก่อนว่ามีความสำคัญอย่างไร ทำไมจึงกลายเป็นหมุดหมายแรกของการส่งหนังสือไทยไปสู่สายตาชาวโลก

  • “Taipei International Book Exhibition 2024” งานแสดงหนังสือใหญ่ที่สุดในเอเชีย

สำหรับ Taipei International Book Exhibition 2024 (TIBE) หรือ นิทรรศการหนังสือนานาชาติไทเป ถือเป็นงานแสดงสินค้านานาชาติด้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียและใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก โดยในปีที่ผ่านมามีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้าทั้งหมด 470 ราย จาก 33 ประเทศทั่วโลก มีผู้เข้าชมงานทั้งชาวไต้หวันและต่างชาติรวมทั้งหมด 505,000 คน จึงเรียกได้ว่าเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญที่ผู้รักในหนังสืออยากจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนสักครั้ง โดยภายในงานจะมีนิทรรศการ 3 ห้อง ได้แก่ หนังสือทั่วไป หนังสือการ์ตูน และหนังสือเด็ก

ไม่ใช่แค่เหล่านักอ่านเท่านั้น แต่งานนี้ยังดึงดูดผู้จัดพิมพ์ บรรณาธิการ ผู้จัดการสิทธิ์ ผู้จัดจำหน่าย ผู้จำหน่ายหนังสือ และบรรณารักษ์ให้เลือกหนังสือไปจัดแสดงอีกด้วย และยังมีการประชุมและการสัมมนาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมการพิมพ์ในหัวข้อต่างๆ ให้ผู้ที่สนใจเข้าร่วมอีกด้วย เช่น การออกแบบหนังสือ การพิมพ์ดิจิทัล และการวิเคราะห์จำนวนผู้อ่านในประเทศแถบเอเชีย เป็นต้น

ในส่วนภาพรวมของงานในครั้งนี้มาในธีม “Catch the Reading Wave.” หรือ การจับคลื่นแห่งการอ่าน ออกแบบโดย Li Jheng-han ศิลปินเจ้าของรางวัลแกรมมี่อวอร์ดสาขาการออกแบบบรรจุภัณฑ์อัลบั้มยอดเยี่ยมปี 2022

ที่มาของธีมงานครั้งนี้ก็คือการใช้ “คลื่นทะเล” เป็นภาพหลัก เพื่อสื่อถึงความมีชีวิตชีวาก็ยังมีความสับสน ขณะเดียวกันก็มีความสงบมาเป็นระยะ และภาพของคลื่นที่ม้วนตัวอยู่ในทะเลในช่วงรุ่งเช้าและพลบค่ำ เหมือนกับ “หนังสือ” ที่พลิกกลับสะท้อนสีสันที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา สื่อถึงความสวยงามและซับซ้อนที่การอ่านสร้างขึ้นจนผู้อ่านรู้สึกอยากติดตามอยู่ตลอด

“นิทรรศการหนังสือนานาชาติไทเป” จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ซึ่งถือว่าเป็นงานทางวัฒนธรรมที่นักเขียน นักวาด ไปจนถึงผู้ผลิต และผู้อ่านหลากหลายช่วงวัยมารวมตัวกัน จึงเป็นการผลักดัน “การอ่าน” ให้ไปสู่การการสร้างจินตนาการและความรู้ในอนาคต

โดยงานในปีนี้จะจัดขึ้นที่ Taipei World Trade Center (TWTC) เมืองไทเป สาธารณะประชาชนจีน (ไต้หวัน) ตั้งแต่วันที่ 20-25 ก.พ. 2024 และครั้งนี้ “หนังสือไทย” ก็ได้ไปจัดแสดงถึง 60 เล่ม

  • เปิดลิสต์ตัวอย่างหนังสือไทยได้ไปไต้หวัน 10 เล่ม จากทั้งหมด 60 เล่ม

นิทรรศการหนังสือนานาชาติไทเปในครั้งนี้ มีหนังสือไทยได้รับเลือกให้ไปจัดแสดงมากถึง 60 เรื่อง ครอบคลุมทั้ง นวนิยาย หนังสือเด็ก เรื่องราวเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย เรื่องสั้น การ์ตูน รวมถึง นิยาย Girl Love/Yuri และ นิยายวาย Boy Love /Yaoi หรือที่เรียกกันว่า “นิยายวาย” ที่เกี่ยวกับความรักของผู้มีความหลากหลายทางเพศ

หนังสือทั้งหมด 60 เล่ม ได้รับการคัดเลือกจาก “คณะอนุกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติด้านหนังสือ” โดยแพทองธารได้โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ไม่ได้ต้องการนำหนังสือไปจัดแสดงอย่างเดียว แต่อยากส่งเสริมการแปลหนังสือออกไปในภาษาที่หลากหลายมากขึ้น เพราะหนังสือคือต้นทางของทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นต้นทางความคิด ต้นทางบทภาพยนตร์/โทรทัศน์ และเกม หากสามารถผลักดันหนังสือที่เป็นต้นทางไปสู่สากลได้ กระบวนการสร้างสรรค์ด้านอื่นก็จะตามมา

สำหรับหนังสือที่ได้รับคัดเลือกไปโชว์ที่ไต้หวัน  ยกตัวอย่างเช่น 

1. Rules of horror กฎการเป็นผู้ดูแลวังจิรกิตติ์ เล่ม 1

เขียนและจัดพิมพ์ โดย Tai Tea Frappe Low Sugar เป็นหนังสือในหมวดหมู่ “นิยายวาย Boy Love” เล่าถึงเรื่องราวของ “มิวนิค” เข้ามาทำงานเป็นผู้ดูแลวังจิรกิตติ์ เพราะมองว่าเป็นงานสบายมีสวัสดิการดี ก่อนที่จะรู้ว่าภายในวังมีวิญญาณของ “ม.ร.ว. ฉัตรเทพ จิรกิตติ์” ผู้เคยก่อเหตุสังหารโหดยกครัวสิงสถิตอยู่ จึงมีกฎว่า “อย่าออกจากห้องนอนหลังเวลาเที่ยงคืน…”

2. 13 หมูป่าติดถ้ำ ปฏิบัติการสะท้านโลก

เขียนโดย หมูป่าตัวแรก และ บริษัท พาส เอ็ดดูเคชั่น จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่าย เป็นหนังสือที่อยู่ในหมวด “หนังสือเด็ก” เพื่อเสริมทักษะชีวิต โดยการถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ 13 หมูป่าติดถ้ำ เหมาะสำหรับเด็กอายุ 4-10 ปี เน้นให้เด็กเรียนรู้การมีน้ำใจ รู้จักวางแผนงาน ทำงานเป็นทีม และพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ในการใช้ชีวิต

3. 50 เมนูขนมไทย และขนมไทยประยุกต์ : 50 Tasty Thai Dessert Recipes

เขียนโดย สุมล ว่องวงศ์ศรี จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นหนังสือในหมวดหมู่ งานอดิเรก งานฝีมือ และ อาหาร ซึ่งเมนูทั้งหมดรวบรวมโดยนิตยสาร Gourmet & Cuisine คัดเลือกเฉพาะขนมไทยที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน มีทั้งสูตรดั้งเดิม และสูตรที่ประยุกต์ให้เข้าอุปกรณ์เครื่องใช้สมัยใหม่

4. 543BC ปวงเมธีแห่งอารยกาล

เขียนโดย นำชัย ชีววิวรรธน์ จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน อยู่ในหมวดหมู่ ปรัชญา และ ประวัติศาสตร์ เล่าถึงชีวิต ผลงาน และเรื่องราวของเหล่านักคิดคนสำคัญในแวดวงนักคิดนักปรัชญา เช่น วิทยาศาสตร์ รัฐศาสตร์ ลัทธิศาสนา และปรัชญา เช่น เธลีส นักวิทยาศาสตร์คนแรก ผู้แยกแยะปรากฏการณ์ธรรมชาติออกจากกิจของเทพเจ้า, พีธาโกรัส ยูโดซัส อาร์คิมีดีส และยุคลิด ผู้ใช้ตัวเลขและเรขาคณิตไขความลับจักรวาล, โสเครตีส เพลโต และอริสโตเติล อาจารย์ศิษย์ 3 รุ่นผู้เป็นเสาหลักปรัชญากรีก และ พระพุทธเจ้า พระมหาวีระ เหลาจื่อ จวงจื่อ และขงจื่อ ต้นธารแห่งปัญญาญาณตะวันออก เป็นต้น

5. ไส้เดือนตาบอดในเขาวงกต

เขียนโดย วีรพร นิติประภา จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์มติชน อยู่ในหมวดหมู่วรรณกรรม และ เรื่องสั้น โดยเล่มนี้ถือว่ามีชื่อเสียงมากพอสมควรเนื่องจากได้รับ “รางวัลซีไรต์” เมื่อ พ.ศ.2558  มีจุดเด่นอยู่ที่การเลือกใช้ภาษาและลีลาในการเขียนที่สวยงาม พร้อมกับคำศัพท์เชิงสัญลักษณ์ผ่านเรื่องราวของรักสามเส้าธรรมดาๆ และยังเต็มไปด้วยบรรยากาศร่วมสมัย

6. The Man Who Travels To Find His Own Voice

มีชื่อภาษาไทยว่า ชายผู้ออกเดินทางตามเสียงของตัวเอง เขียนโดย สะอาด จัดพิมพ์โดย Let’s comic จัดอยู่ในหมวด “หนังสือการ์ตูน” เล่าถึงเรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ทิ้งทุกอย่างในชีวิตเพื่อเดินทางตามความฝันในการเป็นนักดนตรีแม้ว่าเขาจะไม่มีทักษะในด้านนี้เลยก็ตาม โดยผลงานเรื่องนี้ได้รับรางวัล silver award จาก 5th international manga award และได้รับการดัดแปลงเป็นซีรีส์เรื่อง Good Old Days

7. After Stormy Day กาลครั้งหนึ่งเมื่อโลกหยุดหมุน

เขียนและจัดพิมพ์โดยต้นหญ้าทอฝัน อยู่ในหมวดหมู่นิยายวาย Boy Love เรื่องราวของ ‘แพทริก’ ที่กำลังเริ่มใช้ชีวิตใหม่ เพื่อรักษาโรคที่ครอบงำชีวิตเขา ทำให้ได้พบเจอรักครั้งใหม่ แต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีรอยแผลเดิมๆ จากอดีตไปได้

8. After The Rain Is YOU เล่ม 1

เขียนโดย Hyd.ran จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ CandyPub อยู่ในหมวดหมู่นิยายวาย Boy Love เล่าถึงเรื่องของ “นิวเยียร์” นักศึกษาปี 4 ที่เผลอตกหลุมรักจิตแพทย์หนุ่มมาดนิ่ง “ไต้ฝุ่น” ผู้เกลียดการสร้างมนุษยสัมพันธ์และเข้าสังคม

9. Almost But Not Quite เพียง (ไม่) รักคุณ

เขียนโดย wonderstruck จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์ CandyPub อยู่ในหมวดหมู่ “นิยายวาย Girl Love” เรื่องราวของเด็กสาวปีสองกับพี่พนักงานพาร์ทไทม์ ที่แม้จะเป็นความสัมพันธ์ที่เรียบง่ายแต่ก็ไม่เคยมีความชัดเจน

10. Behide the BeautiFool Story เบื้องหลังเรื่องราวที่สวยงามมีความ......ซ่อนอยู่

เขียนโดย Kim Gail 김가일 หรือ เตย จัดพิมพ์โดย KimGail จัดอยู่ในหมวดหมู่ “ชีวประวัติ” หนังสือบันทึกประสบการณ์เล่มแรกของเตยผู้ตั้งคำถามต่อโลกและตัวเองว่าทุกวันนี้เราแต่งแต้มให้ชีวิตดูสวยงามเกินไปเพื่อให้สังคมยอมรับหรือไม่ แล้วเมื่อไรจะมีโอกาสได้เป็นตัวเอง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “หนังสือไทย” จากทั้งหมด 60 เล่ม ที่ได้ไปจัดแสดงใน “นิทรรศการหนังสือนานาชาติไทเป” ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า เมื่อหนังสือเหล่านี้ได้ออกไปสู่สายตาชาวโลกแล้ว จะเกิดความเปลี่ยนแปลงต่อพฤติกรรมการอ่านและอุตสาหกรรมสิ่งพิมพ์ของไทยอย่างไร

คลิกที่นี่ เพื่อดูรายชื่อหนังสือทั้งหมด

อ้างอิงข้อมูล : TIBE, Trade Fair Dates และ DITP