‘สายฉีดชำระ’ ของที่ทุกบ้านต้องมี แต่ฝรั่งงง

‘สายฉีดชำระ’ ของที่ทุกบ้านต้องมี แต่ฝรั่งงง

เปิดประวัติ “สายฉีดชำระ” อุปกรณ์ทำความสะอาดคู่คนไทยมายาวนาน และกลายเป็นหนึ่งในสินค้าที่ชาวตะวันตกซื้อกลับไปใช้ที่บ้าน

สายฉีดชำระ” เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ต้องมาติดบ้านคนไทยแทบทุกหลัง ใช้แล้วรู้สึกสะอาดกว่าการใชั “กระดาษชำระ” แต่ชาวตะวันตก โดยเฉพาะชาวอังกฤษและสหรัฐกลับไม่รู้จัก และงงว่าใช้ทำอะไร เพราะด้วยวัฒนธรรมการทำความสะอาดที่แตกต่างกัน

 

  • วัฒนธรรมการทำความสะอาดหลังขับถ่าย

ย้อนกลับไปช่วงศตวรรษที่ 18 ฝรั่งเศสได้คิดค้นอ่างชำระล้างสิ่งสกปรกหลังจากขับถ่าย ที่เรียกว่า “Bidet” (บิเด) หรือ “อ่างล้างก้น” ซึ่งเป็นเครื่องใช้ราคาแพงมีใช้กันในหมู่ราชวงศ์และขุนนาง และเริ่มแพร่หลายไปยังประเทศต่าง ๆ ในยุโรป โดยในช่วงแรกนิยมวางในห้องนอน ก่อนที่จะย้ายไปในห้องน้ำในภายหลัง

ถัดมาในยุคศตวรรษที่ 20 Bidet ก็ถูกพัฒนาต่อมาอย่างต่อเนื่อง จากเป็นอ่างใส่น้ำใช้มือวักน้ำ กลายเป็นแบบมีก๊อกเปิดปิด ต่อมามีการวิธีการนำโถส้วมเข้ามารวมกับ Bidet ได้สำเร็จ และเป็นต้นแบบให้ TOTO บริษัทสุขภัณฑ์ของญี่ปุ่น คิดค้นโถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ หรือ “Washlet” ที่ใช้ปุ่มกด สามารถปรับแรงดัน ทิศทาง และความแรงของน้ำได้

แม้ชาวยุโรปจะคุ้นชินกับการทำความสะอาดหลังปลดทุกข์ด้วยการใช้น้ำ จน Bidet กลายเป็นสุขภัณฑ์มาตรฐานที่โรงแรมส่วนใหญ่ในยุโรปจำเป็นต้องมี แต่การใช้ชีวิตประจำวัน คนหลายชาติในยุโรปและสหรัฐยังนิยมใช้ “กระดาษชำระ” ประเภทใช้แล้วทิ้ง ในการทำความสะอาดหลังเสร็จธุระ ซึ่งพัฒนามาจากการใช้ซังข้าวโพดและกระดาษแข็ง

ส่วนชาวมุสลิมที่ต้องชำระร่างกายให้สะอาดทุกส่วนด้วยน้ำ ก่อนทำพิธีกรรมทางศาสนา จึงมีการคิดค้น “Shattaf” หรือ “สายฉีดชำระ” ขึ้น และได้รับความนิยมในกลุ่มประเทศโลกอาหรับ จนแพร่หลายเข้ามาในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และหลายประเทศเขตร้อน รวมถึงในกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ เช่น ฟินแลนด์ เอสโตเนีย ก็ใช้สายฉีดชำระด้วยเช่นกัน

  • สายฉีดชำระของไทย

ประเทศไทยเป็นหนึ่งประเทศที่ใช้ฉายฉีดชำระมาอย่างยาวนาน กลายเป็นของที่ทุกบ้านต้องมี มักถูกเรียกว่า “สายฉีดก้น” โดยข้อมูลจากเฟซบุ๊กเพจ Hang Sanitary Products ระบุถึงต้นกำเนิดสายฉีดชำระของไทยถูกออกแบบและผลิตโดย ณรงค์ กูลมงคลรัตน์ ในนามของ หจก.ณรงค์ โลหะกิจ ตั้งแต่ปี 2515 และกลายมาเป็นแบรนด์สุขภัณฑ์ “Hang” ในเวลาต่อมา 

ข้อมูลของ Hang ระบุว่า นับจนถึงปัจจุบันทางแบรนด์ได้ผลิตสายฉีดชำระมากกว่า 50 ล้านเส้น สำหรับวางจำหน่ายในไทยและต่างประเทศ

คนไทยนิยมใช้นิยมใช้ในการทำความสะอาดหลังขับถ่าย ต่อให้ไม่มีสายฉีดชำระก็สามารถใช้ขันตักน้ำทำความสะอาดได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความเคยชิน และมองว่ากระดาษชำระไม่สะอาดเท่ากับการใช้น้ำ ดังนั้นคนไทยจึงหงุดหงิดเวลาที่เข้าห้องน้ำแล้วพบว่าไม่มีฉายฉีดชำระ บางคนถึงขนาดยอมอั้นเอาไว้ เพื่อกลับไปขับถ่ายที่บ้านแทน ขณะที่คนไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศแล้วมีแต่กระดาษชำระต่างโอดครวญและคิดถึงสายฉีดชำระกันทั้งสิ้น มีหลายคนขอร้องให้คนใกล้ตัวส่งสายฉีดชำระตามไปให้เลยทีเดียว

ในทางกลับกันชาวต่างชาติที่มาเมืองไทยแล้วได้ลองใช้สายฉีดชำระ ก็ต่างติดใจในศักยภาพการทำความสะอาด จนหลายคนซื้อเป็นของฝาก และจริงจังถึงขนาดทำคู่มือการใช้งานสายฉีดชำระ โดยระบุว่า 

“หลักสำคัญของการใช้สายฉีดก้น คือ ให้ลองฉีดน้ำก่อนใช้งาน เพื่อดูความมีความแรงขนาดไหน เพราะแต่ละที่มีแรงดันน้ำ (และอุณหภูมิ) ไม่เท่ากัน ดังนั้นหากไม่ทดสอบก่อนอาจเป็นปัญหาต่อจุดซ่อนเร้นของคุณได้”

  • ใช้น้ำล้างก้นสะอาดกว่าใช้กระดาษ

การใช้สายฉีดชำระทำความสะอาดหลังจากขับถ่ายเสร็จสะอาดกว่าการใช้กระดาษชำระเช็ดเพียงอย่างเดียว โดยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเมืองซันโยโอโนดะ ในญี่ปุ่น ที่ทำการเปรียบเทียบการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ที่มือระหว่างการใช้และไม่ใช้ระบบสายฉีดชำระ พบว่า จำนวนแบคทีเรียบนมือ (ที่สวมถุงมือ) ของผู้ที่ใช้การฉีดน้ำ มีน้อยกว่าคนที่ใช้กระดาษชำระเพียงอย่างเดียว

ดร.ทิชา ปาศรีชา จากศูนย์มะเร็งขององค์กรไม่แสวงผลกำไรอาซาเนียมิชชัน เปิดเผยกับ The Washington Post ว่าการใช้ Bidet และสายฉีดชำระสะอาดมากกว่าการใช้กระดาษชำระทบสองชั้นมาก 

“ฉันแนะนำให้คนไข้หันมาทำความสะอาดด้วยน้ำ ไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยลำไส้แปรปรวนที่ถ่ายเหลว เพราะการใช้กระดาษชำระไปเรื่อย ๆ จะทำให้ผิวหนังบางลง แดงและแห้งได้ รวมถึงคนที่ไม่สามารถใช้กระดาษชำระเช็ดได้ เช่น เป็นโรคริดสีดวงทวาร มีแผลที่ทวารหนัก และคุณแม่หลังคลอด”

แม้จะสะอาดกว่าการใช้กระดาษชำระ แต่ชาวอังกฤษและสหรัฐไม่นิยมใช้การทำความสะอาดแบบน้ำ รวมถึงใช้สายชำระ หรือ Bidet เนื่องจากความเคยชินที่มีมาตั้งแต่อดีต ทำให้พวกเขารู้สึกสบายใจที่จะใช้กระดาษมากกว่า รวมถึงมองว่าการเสียเงินซื้อสุขภัณฑ์เพิ่มเติม เป็นค่าใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือย และเข้าใจว่าเสียค่าติดตั้งแพง ทั้งที่ในปัจจุบันสามารถติดตั้งได้ง่ายและให้เลือกมากมาย เพราะยังยึดติดว่า Bidet เป็นของหรูหราเหมือนในอดีต ส่วนสายชำระมีลักษณะเหมือนกับก๊อกอ่างล้างจาน (Kitchen faucet) จึงไม่รู้ว่าคืออะไร ใช้งานอย่างไร แต่ถ้าลองได้ใช้แล้วจะได้พบประสบการณ์ใหม่ จนอาจไม่อยากกลับไปใช้แค่กระดาษชำระอีกเลย

 

ที่มา: Brand CaseHealth LineNew York PostSaubenViceWashington Post