3 'ทัศนคติ' แห่งความสำเร็จ คิดบวก-ฝันใหญ่-รู้สึกขอบคุณ คนรวยเขาทำกัน!

3 'ทัศนคติ' แห่งความสำเร็จ คิดบวก-ฝันใหญ่-รู้สึกขอบคุณ คนรวยเขาทำกัน!

"ทัศนคติที่ดี" คือ ปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้บรรดา "คนรวย" และเศรษฐีทั่วโลกประสบความสำเร็จในชีวิต ทัศนคติที่ดีเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต เพราะมันเป็นตัวกำหนดการกระทำ และการกระทำกำหนดความสำเร็จ

Key Points: 

  • จัสติน อัลดริดจ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพของผู้คน เผยว่า  การมี "ทัศนคติที่ดี" เป็นสิ่งสำคัญของชีวิต ช่วยให้คนเราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข สมหวัง และประสบความสำเร็จ
  • การประสบความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปหากทำความเข้าใจว่าทุกๆ ความสำเร็จล้วนมีพื้นฐานมาจากทัศนคติที่ดี
  • 3 ทัศนคติที่ดี ที่วัยทำงานควรฝึกฝนตนเองเป็นประจำ ได้แก่ ทัศนคติเชิงบวก, ทัศนคติแห่งการรู้สึกขอบคุณสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต, ทัศนคติแห่งความยิ่งใหญ่

จริงอยู่ว่าการที่คนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น ต้องประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงการศึกษาที่ดี อยู่ในสังคมที่ดี ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว มีความมุ่งมั่นตั้งใจไม่ย่อท้อ แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน ก็คือ การมี “ทัศนคติที่ดี” ว่ากันว่าสิ่งนี้เปรียบเสมือนกุญแจสู่ความสำเร็จของมหาเศรษฐีทั่วโลก 

จัสติน อัลดริดจ์ นักเขียนและวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาศักยภาพของผู้คน อธิบายเรื่องนี้ผ่าน LifeHack ไว้ว่า  การมีทัศนคติที่ถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญในทุกด้านของชีวิต คนเราสามารถฝึกทัศนคติสำคัญบางประการเพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข สมหวัง และประสบความสำเร็จ

 

  • ทำไมทัศนคติจึงสำคัญมากในการใช้ชีวิต?

คำตอบคือ นั่นเป็นเพราะว่าคนเราไม่สามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกนี้ได้ เราจึงต้องเรียนรู้ที่จะควบคุมบางอย่างที่ควบคุมได้ และรู้จักปล่อยวางและไม่ต้องกังวลกับบางสิ่งบางอย่างที่เราควบคุมไม่ได้ 

โดยหนึ่งในสิ่งที่คนเราควบคุมได้เสมอก็คือ “ทัศนคติ” มันสำคัญอย่างยิ่งที่เราต้องฝึกการมีทัศนคติที่ดี เพราะทัศนคตินั้นมีอิทธิพลต่อการกระทำของตัวเรา และการกระทำก็เป็นตัวกำหนดความสำเร็จของตัวเราเอง เรามีทัศนคติแบบไหนก็จะใช้ชีวิตแบบนั้น  

 

  • ทัศนคติดี VS ทัศนคติไม่ดี ส่งผลกระทบต่างกันอย่างไร?

โดยปกติแล้วหากใครมีทัศนคติไม่ดี มันจะแสดงออกผ่านการกระทำของพวกเขา เช่น ปิดใจ ชอบปฏิเสธ สงสัยในตัวเอง มองโลกในแง่ลบ พวกเขามักจะผ่านความผิดหวังมาจึงมีความหงุดหงิดจากการขาดผลลัพธ์และความสำเร็จในชีวิตของตนเอง และพลังงานเชิงลบก็จะหมุนวนอยู่รอบตัว 

ในทางกลับกัน หากคนเรามีทัศนคติที่ดี ก็จะเปิดใจกว้าง มองเห็นความเป็นไปได้ในหลากหลายแง่มุม ซึ่งมีแนวโน้มให้ทำสิ่งต่างๆ ได้สำเร็จมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น การมีทัศนคติเชิงบวกยังทำให้คุณมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนผู้อื่นและช่วยเหลือพวกเขาในทุกสิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่อีกด้วย

จัสตินเล่าเพิ่มเติมอีกว่า ในบรรดาเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีหลายๆ คนที่เขารู้จักนั้น ไม่มีใครที่ใช้ชีวิตด้วยทัศนคติที่ไม่ดี ในทางตรงกันข้าม เศรษฐีเหล่านั้นมักจะมีศนคติที่ดีในชีวิต ซึ่งทำให้พวกเขาก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ ไม่ได้บอกว่ามันง่าย แต่จะบอกว่าทุกๆ ความสำเร็จล้วนมีพื้นฐานมาจากทัศนคติที่ดี

 

  • 3 ทัศนคติดี ที่วัยทำงานควรฝึกฝนเป็นประจำ

ทั้งนี้ เขาได้แนะนำถึงการฝึก 3 ทัศนคติที่ดี ที่คนเราควรมีเป็นพื้นฐานเพื่อนำไปปรับใช้ชีวิตให้มุ่งสู่ความสำเร็จได้ นั่นคือ 

1. ทัศนคติเชิงบวก

ลองจินตนาการถึงทัศนคติของคุณให้มีรูปร่างเหมือนพีระมิด โดยตรงฐานพีระมิดจะกำหนดให้มีแต่ความคิดเชิงบวก เพราะการคิดบวกเป็นข้อกำหนดเบื้องต้นสำหรับทัศนคติอื่นๆ และมันมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเปิดโอกาสความเป็นไปได้ทั้งหมดชีวิต นำไปสู่กรอบความคิดแบบเติบโตและยืดหยุ่น (Growth Mindset) เปิดรับสิ่งใหม่ๆ รอบตัว ชอบเรียนรู้และประยุกต์ใช้ได้ดี จึงมองเห็นลู่ทางความสำเร็จอยู่เสมอ ตรงข้ามกับทัศนคตเชิงลบที่มักจะปิดกั้นโอกาสความเป็นไปได้ มีกรอบความคิดตายตัว (Fixed Mindset) ไม่ปรับตัว ไม่ยืดหยุ่น จึงมองไม่เห็นหนทางสู่ความสำเร็จ

2. ทัศนคติแห่งความกตัญญู (รู้สึกขอบคุณสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต)

หากมองดูโลกในสังคมโซเชียลมีเดียทุกวันนี้ เราปฏิเสธไม่ได้ว่ามันก่อให้เกิดการเปรียบเทียบ สร้างแรงกดดัน และความเครียดมหาศาล ซึ่งมันเป็นกับดักที่ทำให้หลายคนตกหลุมพรางได้ง่าย ทำให้บางคนรู้สึกโกรธที่ชีวิตของตนเอง “ไม่โชคดี” เหมือนคนอื่นๆ ในโลกออนไลน์ หรืออาจเริ่มรู้สึกเหมือนเป็นคนตัวเล็กที่ไร้อำนาจในการควบคุมชะตากรรมของตนเอง จึงไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนคนอื่น และนั่นทำให้หลายคนยอมแพ้ในการแสวงหาเป้าหมาย ความฝัน หรือแรงบันดาลใจของตนเอง

แต่เรื่องนี้แก้ไขได้ เพียงแค่ต้องฝึกให้ตนเองมีทัศนคติในการรู้สึกขอบคุณสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิต มันจะทำให้คุณไม่ต้องมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่คุณไม่มี (เช่น การติดอยู่ในโหมดเปรียบเทียบและทัศนคติเชิงลบ) แต่จะช่วยให้คุณมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่คุณมีอยู่ และมองเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้นและจะส่งผลเชิงบวกต่อทุกด้านของชีวิต แล้วคุณจะค้นพบ “จุดแข็ง” ในตัวเอง ค้นพบโอกาสที่ซ่อนอยู่ และกำหนดรูปแบบชีวิตของคุณตามเงื่อนไขของคุณเอง 

3. ทัศนคติแห่งความยิ่งใหญ่

“ทัศนคติที่ดี” เป็นสิ่งที่คุณจะต้องเลือกทำด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่ามันเกิดขึ้นได้เอง เนื่องจากมนุษย์เราเกิดมาพร้อมกับสัญชาตญาณการเอาตัวรอด (กลไกการเอาชีวิตรอดจากสัตว์ร้าย-ภัยธรรมชาติ) จิตใจของเราจึงมีแนวโน้มไปทางลบโดยธรรมชาติ ดังนั้นการคิดเชิงบวกจึงต้องฝึกฝนอย่างมีสติ ทั้งนี้ การมีแนวคิด “อยากทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง” ก็เป็นการฝึกทัศนคติที่ดีอีกอย่างที่เราเลือกทำได้เช่นกัน

เนื่องจากการตั้งเป้าหมาย “ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ยิ่งใหญ่” เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความมั่นใจ ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่อทัศนคติของคุณ เมื่อคนเราตั้งเป้าหมายว่าอยากทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่อะไรสักอย่างให้สำเร็จ ระหว่างทางที่พุ่งสู่เป้าหมายนั้น จะเกิดกระบวนการเปิดรับความเป็นไปได้ใหม่ๆ ซึ่งทำให้คุณมีแรงผลักดันที่จะยิ่งใหญ่มากขึ้น สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้คุณ และจะทำให้เข้าใกล้ความสำเร็จโดยรวมได้มากขึ้นนั่นเอง