‘ช็อกมินต์-กาแฟส้ม-ประชาช็อค’ ปรากฏการณ์เมนูดัง เมื่อการเมืองดื่มได้

‘ช็อกมินต์-กาแฟส้ม-ประชาช็อค’ ปรากฏการณ์เมนูดัง เมื่อการเมืองดื่มได้

เมื่อ “เครื่องดื่ม” ที่มีขายอยู่ตามร้านกาแฟทั่วไปอย่าง “ช็อกมินต์” และ “กาแฟส้ม” ถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ทางการเมือง จนถึงล่าสุด “ประชาช็อค” เมนูใหม่ที่กลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน เพราะนัยยะทางการเมืองที่ซ่อนอยู่ในส่วนผสมของเมนูนี้

แม้ตอนนี้จะผ่าน “การเลือกตั้ง 2566” มาเกือบ 3 เดือนแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ทำให้ประชาชนต้องจับตาดูทุกการกระทำของนักการเมือง ไม่เว้นแม้แต่ “เครื่องดื่ม” แก้วโปรดของนักการเมือง ก็ถูกโยงกลายเป็นกระแสถูกพูดถึงด้วยเช่นกัน

กรุงเทพธุรกิจรวบรวมเครื่องดื่มของนักการเมืองที่กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีด้วยกันดังนี้

 

  • ประชาช็อค

ประชาช็อค” (Pracha-Choc) เมนูใหม่ของ “Sol Bar” คาเฟ่ของพรรคก้าวไกล เป็นการนำ ช็อกโกแลตเย็น มาผสมกับ “น้ำแดงปลอม” ซึ่งก็คือ “นมชมพู” หรือ “นมเย็น” บาริสต้าของร้านได้อธิบายในรายการ “คุยนอกจอ” ประจำวันที่ 10 ส.ค. ถึงสาเหตุที่เรียกว่าน้ำแดงปลอม เพราะว่าอันที่จริงแล้วนมชมพูก็ทำมาจากน้ำหวานเข้มข้นกลิ่นสละมาผสมกับนม ไม่ใช่น้ำแดงเพียว ๆ นั่นเอง

‘ช็อกมินต์-กาแฟส้ม-ประชาช็อค’ ปรากฏการณ์เมนูดัง เมื่อการเมืองดื่มได้

โดยบาริสต้าของร้านแนะนำวิธีการดื่มไว้ว่าจะต้องเริ่มดื่มจากส่วนของนมชมพูที่อยู่ด้านล่างก่อน เพื่อให้ได้รับความหวานหอม แล้วค่อยไล่ระดับขึ้นมาด้านบนจะเจอกับความขมของโกโก้ หลังจากนั้นคนให้เข้ากันก็จะได้รสชาติทั้งหวานและขมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว เหมือนกับคนไทยที่ต้องใช้ชีวิตแบบหวานอมขมกลืน

นอกจากนี้ยังมีเมนู “พิธา Limited” เครื่องดื่มอิตาเลียนโซดาคลายร้อน ที่มีพีช สตรอว์เบอร์รีไซรัป และแอปเปิลโซดาเป็นส่วนผสม สะท้อนถึงความหลากหลายของผู้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคม รวมถึง “ความหวังของด้อมส้ม” หรือ Sunshine เครื่องดื่มที่ทำให้ตาสว่างจากความเปรี้ยวของน้ำส้มยูสุผสมกับลิ้นจี่โซดา เป็นเมนูคู่กับ “ประกายแห่งความหวัง” หรือ Sunrise ที่มีผสมกันระหว่างน้ำส้มกับสตรอว์เบอร์รี และใส่กลิตเตอร์เพิ่มประกายระยิบระยับให้เครื่องดื่มอีกด้วย

  • ช็อกมิ้นต์

อีกหนึ่งเครื่องดื่มที่มาแรงในช่วงการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาก็คือ “มินต์ช็อกโกแลต” หรือที่คนไทยเรียกย่อ ๆ ว่า “มินต์ช็อก” หรือบางทีก็สลับเป็น “ช็อกมินต์” เป็นเมนูโปรดของ “อุ๊งอิ๊ง - แพทองธาร ชินวัตร” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย จนกลายเป็นเครื่องดื่มประจำตัว ปลุกกระแส “มินต์ช็อกฟีเวอร์” ชาวโซเชียลหลายคนแห่ตามไปลองลิ้มรสของเครื่องดื่มนี้ 

ขณะเดียวกัน มินต์ช็อกกลายเป็นสัญลักษณ์หนึ่งของพรรคเพื่อไทย และใช้รับรองนักการเมืองจากพรรคต่าง ๆ ที่เข้าหารือการจัดตั้งรัฐบาล ด้วยเหตุนี้เองทำให้ประชาชนและร้านกาแฟนหลายแห่งประกาศแบนเมนูมินต์ช็อก เมื่อแกนนำพรรคเพื่อไทยชนแก้วกับพรรคภูมิใจ และถูกขนานนามว่าเป็น “เมนูหักหลังเพื่อน”

อันที่จริงช็อกมิ้นต์ก็ไม่ใช่เมนูที่มีคนชื่นชอบมากเท่าไหร่นัก เพราะหลายคนบูลลี่ว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีรสชาติเหมือนยาสีฟัน  ซึ่งก็ยากที่จะเถียงเนื่องจากมินต์ถูกใช้เป็นส่วนประกอบของยาสีฟันมาตั้งแต่ในช่วงปลายทศวรรษ 1800 แต่ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนที่ชื่นชอบช็อกมิ้นต์ออกมาออกโรงปกป้อง อยากให้ลองเปิดใจลองชิมดูสักครั้ง

นอกจากช็อกมิ้นต์แล้ว ล่าสุดอุ๊งอิ๊งยังได้สั่ง “น้ำแดงมะนาวโซดา” ดื่มในวันที่เข้าเจรจาให้พรรคก้าวไกลยกมือสนับสนุนแคนดิเดตนายกของพรรคเพื่อไทย (วันที่ 9 ส.ค. 2566) ซึ่งต้องรอดูว่าจะสร้างปรากฏการณ์ได้หรือไม่

‘ช็อกมินต์-กาแฟส้ม-ประชาช็อค’ ปรากฏการณ์เมนูดัง เมื่อการเมืองดื่มได้

  • กาแฟส้ม

อีกหนึ่งเมนูที่ตีคู่มากับช็อกมินต์ก็คือ “กาแฟส้ม” เครื่องดื่มแก้วโปรดของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยกระแสนี้เริ่มมาจากวิดีโอพาทัวร์ร้าน Sol Bar ซึ่งก็ทำเอาประชาชนอยากไปลิ้มลองรสชาติเมนูนี้ของกาแฟส้มกันทั่วประเทศ

อันที่จริงแล้ว กาแฟส้ม เกิดจากการรังสรรค์ของ “แก้ว-นวลอนงค์ กอสัมพันธ์สุข” บาริสต้าร้าน Ultra Adapt เจ้าของรางวัล Thailand Indy Barista Championship 2018 โดยนำมะนาวไซรัปและส้ม ผสมกับช็อตกาแฟ 

กาแฟส้มถือว่าเป็นเครื่องดื่มประเภท “ค๊อฟเทล” (Cofftail) มาจากคำว่า Coffee รวมกับ Mocktail เป็นกาแฟที่ส่วนผสมของน้ำผลไม้ น้ำเชื่อม น้ำหวานเข้มข้นนั่นเอง

‘ช็อกมินต์-กาแฟส้ม-ประชาช็อค’ ปรากฏการณ์เมนูดัง เมื่อการเมืองดื่มได้

นอกจากส้มและผลไม้ตระกูลซิตรัสจะถูกนำมาผสมกับกาแฟแล้ว ผลไม้เมืองร้อน (Tropical fruit) เช่น มะม่วง ลิ้นจี่ และมะพร้าว และผลไม้รสเปรี้ยวอุดมไปด้วยวิตามินอย่างเสาวรส สับปะรด แอปเปิล และองุ่นแดง ก็นิยมนำมาผสมกับกาแฟด้วยเช่นกัน

การผสมน้ำผลไม้กับกาแฟมีมานานและเป็นที่แพร่หลาย ยกตัวอย่างเช่น “เอสเพรสโซ่โรมาโน” (Espresso Romano) เมนูฮิตของเมืองกัมปาเนีย ทางตอนใต้ของอิตาลี  เป็นช็อตเอสเพรสโซกับมะนาวซอร์เลนโต้ สายพันธุ์ขึ้นชื่อของอิตาลี (แต่ถ้าไม่มี สามารถใช้เลมอนฝานบาง ๆ หนึ่งชิ้น หรือจะเป็นน้ำมะนาวก็ได้) โดยสามารถดื่มทั้งแบบร้อนและแบบเย็น

ขณะที่ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน เคยพูดถึงเครื่องดื่มแก้วโปรดไว้ เมื่อครั้งที่ถูก BNK48 เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังถามว่า “ไม่รู้เหมือนกัน ทานได้หมด แต่ถ้าให้มีน้ำมะนาว หวาน ๆ เปรี้ยว ๆ เย็น ๆ ก็คงดี” แต่ในตอนนั้นน้ำมะนาวไม่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์แทน พลเอกประยุทธ์ เหมือนกับนักการเมืองคนอื่น ๆ ในปัจจุบัน

ก่อนหน้านี้มีเครื่องดื่มที่เกาะกระแสทางการเมืองมาแล้ว ย้อนกลับไปช่วงปี 2558 ในช่วงที่ประเทศไทยอยู่ในยุคของ “กีฬาสี” ทางการเมือง ได้ถือกำเนิดเครื่องดื่มชูกำลังชื่อว่า “ทักษิณ สู้” ขึ้นมา โดยบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มดังกล่าวระบุว่า ต้องการจับกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรัก ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นกลุ่มประชาชนกลุ่มรากหญ้า เกษตรกร คนขับรถแท็กซี่ และกรรมกร  แต่สุดท้ายแล้วก็ไปไม่รอด ต้องปิดตัวไปอย่างเงียบ ๆ 

‘ช็อกมินต์-กาแฟส้ม-ประชาช็อค’ ปรากฏการณ์เมนูดัง เมื่อการเมืองดื่มได้

จะเห็นได้ว่าในการเมืองยุคปัจจุบัน เครื่องดื่มได้ถูกนำไปผูกกับบุคคลทางการเมือง จนกลายเป็นสัญลักษณ์บางอย่างไป หลายคนเริ่มแบนเครื่องดื่มบางอย่าง ไม่กล้าดื่มเครื่องดื่มบางชนิด ไม่แตกต่างจากสีเสื้อต่าง ๆ ที่ถูกแปะป้ายไว้ว่า ถ้าใส่เสื้อสีนี้ จะเป็นคนแบบนี้ ทั้งที่ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะดื่มอะไร หรือ ใส่เสื้อสีอะไรก็ได้