เจน “Zillennials” โตแล้ว มีรายได้ แต่ขอเกาะพ่อแม่ เงินเหลือช้อป เป้าหมายแบรนด์ดัง

เจน “Zillennials” โตแล้ว มีรายได้ แต่ขอเกาะพ่อแม่ เงินเหลือช้อป เป้าหมายแบรนด์ดัง

กว่า 48% ของชาว “Zillennials” หรือผู้ที่เกิดระหว่างช่วงกลางยุค 90 ถึงช่วงต้นยุค 2000 ยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ทำให้ไม่ต้องเสียค่าที่อยู่อาศัย และมีอำนาจในการใช้จ่ายกลายเป็นเป้าหมายของหลายแบรนด์อยากดึงดูดให้พวกเขาหันมาซื้อสินค้าของตน

ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกที่อาจจะเกิดขึ้นในปีนี้ ทำให้คนในหลาย ๆ ช่วงวัยไม่กล้าที่จะจับจ่ายใช้สอยได้อย่างเต็มที่ ทำให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ เริ่มมองหากลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อมาทดแทนกำลังซื้อที่ขาดหายไป ซึ่งกลุ่มที่เป้าหมายหลักของแบรนด์ต่าง ๆ ในตอนนี้คงจะหนีไม่พ้นชาว “Zillennials

  • Zillennials” เป็นใคร

Zillennials” หรือ "Zennials" เป็นชื่อเรียกกลุ่มคนที่เกิดในช่วงต้นยุค 90 จนถึงช่วงต้นยุค 2000 หรือที่เป็นเทรนด์ฮิตอยู่ในขณะนี้ ที่เรียกว่า “Y2K” ซึ่งเป็นช่วงคาบเกี่ยวกันระหว่างยุคมิลเลนเนียลและเจน Z ทำให้คนเจนนี้มีความคิดผสมผสานกันทั้งแบบคนวัยมิลเลนเนียลและเจน Z ซึ่งมีค่านิยมที่จะทำให้ทุกวันเป็นวันที่ดีที่สุดเสมอ ไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น 

ชาว Zillennials ในบางครั้งก็รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Generation MZ หรือ เจน MZ เป็นกลุ่ม “วัยรุ่น” แรกที่เติบโตมาในยุคหลังการก่อเหตุวินาศกรรม 911 ซึ่งแนวคิดและทัศนคติของคนยุคนี้ถูกหล่อหลอมขึ้นมาจากวิกฤตการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกหลังจากนั้น ไม่ว่าจะเป็นภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหญ่ในสหรัฐ (The Great Recession) รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยจะเรียนจบระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในช่วงทศวรรษที่ 2010 และเป็นลูกของคนยุคเบบี้บูมเมอร์ตอนปลาย หรือ คนเจน X

ชาว Zillennials เติบโตมาในช่วงการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี อันเป็นช่วงที่อินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามามีอิทธิพล แต่ก็ยังทันความรุ่งเรืองของยุคแอนาล็อก คนรุ่นนี้จะต้องทันการใช้โทรศัพท์จอขาวดำ ก่อนจะพัฒนามาเป็นโทรศัพท์ฝาพับ และก้าวสู่สมาร์ทโฟนแบบในปัจจุบัน รวมถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่ต้องเผชิญการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์บ้าน ที่มีเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด ตามมายุคของการซื้อชั่วโมงอินเทอร์เน็ต ก่อนที่จะมาเป็นไวไฟ 3G 4G และ 5G ในปัจจุบัน

 

  • กำลังซื้อหลักของสินค้าฟุ่มเฟือย

นอกจาก ชาว Zillennials จะเป็นกลุ่มที่มีการติดต่อสื่อสารระหว่างกันมากที่สุดเมื่อเทียบกับคนวัยอื่นๆ แล้ว พวกเขายังกำลังจะกลายเป็น “กำลังซื้อหลัก” ที่มีอำนาจการใช้จ่ายที่เหนือกว่าคนในช่วงวัยอื่น ตามรายงานล่าสุดจาก PYMNTS สื่อสิ่งพิมพ์ด้านบริการทางการเงิน

PYMNTS ประมาณการว่า ราวหนึ่งในสามของชาว Zillennials ในสหรัฐ หรือประมาณ 11 ล้านคนยังคงอาศัยอยู่กับสมาชิกในครอบครัว ซึ่งตัวเลขดังกล่าวใกล้เคียงกับตัวเลขการประมาณการของสำนักสำรวจสำมะโนประชากรของสหรัฐ ที่ระบุว่า 48% ชาวอเมริกันประมาณ ที่มีอายุระหว่าง 18-29 ปีอาศัย ยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1940

เช่นเดียวกับในสหราชอาณาจักร ที่คนหนุ่มสาวยังคงอาศัยอยู่กับพ่อแม่ถึง 42% ซึ่งถือว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2539

นั่นหมายความว่า ผู้บริโภควัยหนุ่มสาวส่วนใหญ่ไม่ได้จ่ายค่าเช่าหรือผ่อนค่าที่อยู่อาศัย ทำให้พวกเขามีเงินเหลือพอที่จะจับจ่ายสินค้าฟุ่มเฟือยและความบันเทิงเพื่อหาความสุขให้ตัวเอง ชาว “Zillennials” จึงกลายเป็นกลุ่มคนที่มีกระแสเงินที่สามารถใช้จ่ายได้จริง (disposable cash)

นักวิเคราะห์ของ Morgan Stanley บริษัทด้านการเงินชื่อดัง ระบุว่า ผู้บริโภครุ่นใหม่เหล่านี้กลายเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนตลาดสินค้าหรูหรา เพราะพวกเขาสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ จากการอยู่ร่วมบ้านกับพ่อแม่ ไม่ว่าจะเป็นค่าที่พัก ค่าสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน โดยนักวิเคราะห์กล่าวว่า นี่เป็นเทรนด์ที่จะสร้างผลดีต่ออุตสาหกรรมอย่างยิ่งยวด

ตามรายงานล่าสุดของบริษัทที่ปรึกษาด้านการจัดการ Bain & Company คาดการณ์ว่าในปี 2566 ตลาดสินค้าลักชูรีจะเติบโตขึ้น 21% โดยได้รับแรงหนุนส่วนใหญ่มาจากขาช้อปวัยหนุ่มสาวที่เริ่มเข้าสู่วงการสินค้าแบรนด์เนมเร็วกว่าคนรุ่นก่อนหน้า 3-5 ปี

Burberry แบรนด์หรูของอังกฤษรายงานยอดขายประจำไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ LVMH บริษัทเจ้าของแบรนด์เมนชื่อดังอย่าง Dior, Tiffany, Moet Hennessy และ Louis Vuitton รายงานว่ารายได้เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นจากยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่น

นอกจากนี้ Quartz สำนักข่าวด้านธุรกิจ ระบุว่าภายในปี 2568 ผู้บริโภคราว 70% ของตลาดสินค้าลักชูรีจะเป็นชาวมิลเลนเนียลและเจน Z ซึ่งเพิ่มขึ้นราว 30% เมื่อเทียบกับสัดส่วนของคนยุค Zillennials ในตลาดสินค้าลักชูรีเมื่อปี 2561 ที่มีเพียง 44% เท่านั้น นี่จึงเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมหลาย ๆ แบรนด์ถึงหันมาจับตลาดคนกลุ่มนี้

จอห์น โดนาโฮ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของ Nike กล่าวว่า แบรนด์กำลังเจาะตลาดกลุ่มผู้บริโภควัยหนุ่มสาว ด้วยนวัตกรรมใหม่ล่าสุดและมีความเป็นสากลทั่วโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญมากที่สุด

ขณะที่ JD Sports ร้านขายรองเท้าผ้าใบและสินค้ากีฬาแบรนด์เนมเปิดเผยว่า ผู้บริโภคกลุ่ม Zillenials เพิ่มยอดขายช่วงเทศกาลวันหยุดยาว กว่า 20% ด้วยการซื้อรองเท้า “Nike Air Force 1” มากกว่า 2 ล้านคู่ ในราคา 110 ดอลลาร์ หรือราว 3,590 บาท ซึ่งเป็นไอเท็มฮิตที่คนรุ่นใหม่ขาดไม่ได้

เรจิส ชูลท์ซ ซีอีโอของ JD Sports กล่าวกับสำนักข่าว Reuters ว่า “ในตอนนี้กลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่มีกำลังซื้อมากที่สุดตั้งแต่ที่เคยมีมา เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าที่พักหรือสาธารณูปโภคต่าง ๆ”

นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเริ่มทำการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่จะกลายเป็น “ผู้บริโภครายใหญ่” ซึ่งอีกไม่นานทุกแบรนด์จะต้องหันมาให้ความสนใจกับผู้บริโภคชาว Zillennials มากขึ้น เหมือนกับที่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทุกคนต่างให้ความสนใจกับ “เด็กยุค 90” ทั้งสิ้นเพราะเป็นกำลังซื้อหลักในตอนนั้นนั่นเอง

ที่มา: Insider1, Insider2, Insider Intelligence, PYMNTS1, PYMNTS2, QZ