"กลิ่นหอมแดด" ความทรงจำบนราวตากผ้า กับคำถามที่ว่าหอมนี้มีจริงหรือ?

"กลิ่นหอมแดด" ความทรงจำบนราวตากผ้า กับคำถามที่ว่าหอมนี้มีจริงหรือ?

ทำความรู้จักที่มาของ "กลิ่นหอมแดด" กลิ่นหอมหลังจากการซักผ้าที่ยังอยู่ในความทรงจำ และเป็นหนึ่งในคำโฆษณาที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ซักผ้า กับการตอบข้อสงสัยว่าแดดมีกลิ่นด้วยหรือ?

สำหรับคนที่ต้องซักผ้าเอง ความพอใจของกิจกรรมนี้คงไม่มีอะไรมากไปกว่าการได้เห็นผ้าที่ตัวเองซักแห้งสะอาด มีกลิ่นหอมบางๆ เชื้อเชิญให้รีบดึงเก็บจากไม้แขวน รอวันสวมใส่

กลิ่นมีผลต่อความรู้สึกอย่างไม่ต้องสงสัย ผ้าที่มีกลิ่นหอมให้ความรู้สึกสะอาดกว่าการไม่มีกลิ่น และเหตุนี้ในท้องตลาดจึงมีผลิตภัณฑ์ซักผ้าซึ่งมีกลิ่นหอมจำนวนมาก ทั้งกลิ่นหอมสดชื่นแบบดอกไม้ กลิ่นน้ำหอมที่ได้อารมณ์ความหอมแบบหรูหรา กลิ่นหอมอ่อนโยนที่เหมาะสำหรับเสื้อผ้าเด็ก แต่ถึงเช่นนั้นกลิ่นหลังจากการซักผ้าที่ถูกพูดถึงในทุกๆครั้ง คือกลิ่นหอมบางๆที่เราเรียกกันว่า “กลิ่นหอมแดด

กลิ่นหอมแดด คืออะไร? นิยามได้ว่าคือกลิ่นที่ได้หลังจากการซักผ้าซึ่งถูกตากแดดไว้จนแห้งสนิท บางคนนิยามว่า นี่คือกลิ่นที่มีส่วนผสมของผงซักฟอก น้ำยาปรับผ้านุ่ม เนื้อผ้า และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่นั้นๆผสมอยู่ด้วย ซึ่งทั้งหมดนั้นก็ทำให้กลิ่นหอมแดด ขึ้นอยู่กับความทรงจำของแต่ละคน

อย่าลืมว่า แต่ละบ้านมีพื้นฐานในการซักผ้าแตกต่างๆกัน ใช้ผลิตภัณฑ์ซักผ้าแตกต่างกัน ตากผ้าในพื้นที่แตกต่างกัน กลิ่นหอมแดดจึงเป็นเรื่องแบบของใครของมัน ทว่าสิ่งที่คล้ายกันของกลิ่นที่ว่านี้คือการเป็น “ความทรงจำด้านบวก” นั่นเพราะกลิ่นของการซักผ้าทำให้เรานึกถึงคนในครอบครัว นึกถึงบรรยากาศของความผูกพัน ยิ่งเฉพาะในซักผ้าที่อากาศแจ่มใส ฟ้าฝนเป็นใจพอที่จะทำให้ผ้าที่ตากไว้แห้งสนิท ไร้กลิ่นอับ

อย่างไรก็ดี แม้กลิ่นแดดจะเป็นกลิ่นที่เรียกความทรงจำ แต่ถ้าอธิบายในเชิงวิทยาศาสตร์ก็ต้องเข้าใจว่า “แสงแดด” นั้น “ไม่มีกลิ่น”

แล้วกลิ่นหอมที่เราเรียกว่า กลิ่นแดดคืออะไร?  นั่นก็ต้องอธิบายว่า แดดประกอบไปด้วยรังสีความร้อน เช่น รังสีอุลตราไวโอเลต (UV rays) และรังสีอินฟราเรด (IR rays)  ซึ่งรังสีเหล่านี้ นอกจากจะให้ความร้อนเพื่อเร่งทำให้น้ำที่อยู่บนผ้าเกิดการระเหยอย่างรวดเร็วแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการเจริญเติบโตของสารพัดเชื้อจุลินทรีย์ที่ปะปนในเสื้อผ้าให้ตายไป ทั้งยังช่วยป้องกันการสร้างสารที่ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์จากความสกปรกออกมา

รังสีและแสงในแดดยังทำให้เกิดปฏิกิริยากับสารอินทรีย์ในเนื้อผ้า เช่น สารที่ให้ความหอมในอุตสาหกรรมการผลิตเสื้อผ้า ผลิตภัณฑ์ซักผ้า อย่างกลิ่นในกลุ่มแอลดีไฮด์ (Aldehyde) ซึ่งเป็นกลุ่มกลิ่นสังเคราะห์ทางธรรมชาติ  กลิ่นจากสารเคมีประเภทฟอร์มัลดีไฮน์ (Urea formaldehyde) ซึ่งฝังอยู่ในผ้า เพื่อให้เสื้อผ้าใหม่มีสีสดใส คงรูป  โดยที่เมื่อแสงแดดถูกผ้า สารในกลุ่มนี้ก็ถูกทำลายไปพร้อมกันด้วย  เหตุนี้เมื่อเราซักผ้าและนำไปตากแดด สีของผ้าก็จะซีดลง และสารโมเลกุลเล็กๆที่เกิดขึ้นจากการแตกหักนี้ก็จะทำให้เกิดกลิ่นที่มีลักษณะเฉพาะ และเป็นส่วนผสมอยู่ใน“กลิ่นหอมแดด” นั่นเอง

ถึงตรงนี้ จึงแน่ชัดว่า “กลิ่นหอมแดดไม่ใช่กลิ่นที่มาจากแดดโดยตรง แต่คือกลิ่นที่มาจากการหายไปของเชื้อจุลินทรีย์บนผ้าที่มาจากเหงื่อ ไคล ความสกปรกของการสวมใส่นั่นเอง ดังนั้นหลังจากการซัก ตากผ้าแห้งให้แห้ง เราจึงได้กลิ่น ผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ตกค้างอยู่ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น และเมื่อความหอมของสารสังเคราะห์เหล่านี้ ผสมปนเปกับสารบนเนื้อผ้าที่ถูกทำลาย เราจึงนิยามรวมๆ ว่า นี่คือ “กลิ่นหอมแดด”

ทุกวันนี้ “กลิ่นหอมแดด” คือคีย์เวิร์ดสำคัญของโฆษณาผลิตภัณฑ์ซักผ้า และไม่ว่ามันจะถูกสังเคราะห์ด้วยรูปแบบใด มีความหอมหรูหราในรูปแบบไหน หากกลิ่นที่ว่านี้ก็ยังฝังอยู่ในใจของผู้ใช้ พร้อมๆกับที่ ทุกๆครั้งของการซักผ้า เราก็มักจะไม่ลืมดมทดสอบว่าผ้าที่ซักแล้วมีกลิ่นสะอาดหอมแดด แบบที่อยู่ในความทรงจำของเราหรือไม่

อ้างอิง : เฟสบุ๊คเคมีฟิสิกส์ของสิ่งทอ อาหาร และของรอบตัวThailandindustry