เมสซี่สมหวัง อาร์เจนตินา แม่นโทษชนะ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 สุดดราม่า

เมสซี่สมหวัง อาร์เจนตินา แม่นโทษชนะ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 สุดดราม่า

ผลฟุตบอลโลก 2022 นัดชิงชนะเลิศระหว่าง อาร์เจนตินา vs ฝรั่งเศส เป็นการไล่ล่าดาวดวงที่ 3 มาแปะที่หน้าอกของทั้งสองชาติ หลังทั้งคู่เคยได้แชมป์โลกมาแล้วฝั่งละ 2 สมัย

ผลฟุตบอลโลก 2022 นัดชิงชนะเลิศระหว่าง อาร์เจนตินา vs ฝรั่งเศส ที่สนามลูเซล ไอคอนิก สเตเดี้ยม ประเทศกาตาร์ เป็นการไล่ล่าดาวดวงที่ 3 มาแปะที่หน้าอกของทั้งสองชาติ หลังทั้งคู่เคยได้แชมป์โลกมาแล้วฝั่งละ 2 สมัย

ครึ่งแรกช่วง 20 นาทีแรกรูปเกมยังตึงๆ แต่ฝั่ง อาร์เจนตินา เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า โดยได้โอกาสจบสกอร์สองครั้งจาก อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ และ อังเคล ดิ มาเรีย แต่ทั้งสองครั้งยังไม่เป็นประตู

จากนั้นในนาที 21 กลายเป็น อาร์เจนตินา มาได้จุดโทษ จังหวะที่ อุสมาน เดมเบเล่ ไปสะกิด ดิ มาเรีย ล้มลงก่อนผู้ตัดสิน ชีมอน มาร์ซีเนียค ชาวโปแลนด์จะเป่าชี้เป็นลูกโทษทันที ลีโอเนล เมสซี่ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ทัพฟ้าขาวขึ้นนำก่อน 1-0 พร้อมขึ้นมาเป็นผู้นำดาวซัลโวเดี่ยวๆ ที่ 6 ประตู

 

เมสซี่สมหวัง อาร์เจนตินา แม่นโทษชนะ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 สุดดราม่า

 

ทัพฟ้าขาว ยังคงเล่นได้อย่างคึกคัก ก่อนที่มาได้ประตูที่ 2 ในนาที 36 จากจังหวะสวนกลับเริ่มจาก เมสซี่ กระดกให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ จ่ายจังหวะเดียวให้ แม็ค อัลลิสเตอร์ หลุดเข้าไปตบกลับต่อมาให้ ดิ มาเรีย วิ่งเข้ามายิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย อาร์เจนตินา นำ ฝรั่งเศส 2-0

หลังจากเสียประตู ฝรั่งเศส แก้เกมด้วยการเปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 2 คนโดยเอา โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ และ อุสมาน เดมเบเล่ ออก และเอาตัวสำรองอย่าง มาร์คัส ตูราม และ ร็องดาล โคโล มูอานี่ ลงมาเล่นแทน 

โดยที่ครึ่งแรกนั้นมีการทดเวลาถึง 7 นาที แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จบครึ่งแรก อาร์เจนตินา นำ 2-0 โดยที่แชมป์เก่ายังไม่มีโอกาสลุ้นประตูเลยแม้แต่หนเดียว

 

เมสซี่สมหวัง อาร์เจนตินา แม่นโทษชนะ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 สุดดราม่า

ครึ่งหลังในช่วง 15 นาที แชมป์เก่า ฝรั่งเศส พยายามเร่งเครื่องเต็มที่หวังทำประตูไล่คืน แต่ก็ยังหาจังหวะจบจั๋งๆไม่ค่อยจะได้ ซึ่งเกมผ่านมากว่า 1 ชม. ก็ยังหาโอกาสยิงครั้งแรกยังไม่ได้ ต่างจาก อาร์เจนตินา ที่ได้โอกาสสวนกลับมาเรื่อยๆ และมีโอกาสยิงจากทั้ง อัลวาเรซ รวมถึง เมสซี่ ด้วย แต่ก็ยังเป็นแค่จังหวะหวาดเสียว ไม่มีประตูเพิ่ม 

นาที 71 โอกาสของทีมฟ้าขาวยังมาเรื่อยๆ เมสซี่ จ่ายให้ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ได้ปั่นด้วยขวา อย่างไรก็ตามบอลไปเข้ามือของ อูโก้ โยริส รับไว้ได้สบาย 

นาที 79 ฝรั่งเศส ได้จุดโทษคืนบ้าง ตัวสำรอง มูอานี่ โดนผู้เล่นฟ้าขาวทำฟาวล์ในเขตโทษ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ รับหน้าที่ยิงไม่พลาด แชมป์เก่าไล่มาเป็น 1-2 และทำให้เวลาที่เหลือนั้นเข้มข้นสุดๆ 

และ 2 นาทีต่อมา ฝรั่งเศส ทำช็อกแฟนบอลฟ้าขาว จังหวะที่ เมสซี่ เสียบอลกลางสนาม ฝรั่งเศส ต่อบอลก่อนที่ มาร์คัส ตูราม จะกระดกบอลให้ เอ็มบั๊ปเป้ คนเดิมล้มตัววอลเลย์ตุงตาข่ายให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 2-2 และทำให้ดาวเตะวัย 23 ปีแซงนำดาวซัลโวแบบเดี่ยวๆที่ 7 ประตู 

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีฝั่งไหนทำประตูเพิ่มได้ จบเกมเสมอกัน 2-2 ต้องต่อเวลาไปอีก 30 นาที

 

เมสซี่สมหวัง อาร์เจนตินา แม่นโทษชนะ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 สุดดราม่า

 

เมสซี่สมหวัง อาร์เจนตินา แม่นโทษชนะ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 สุดดราม่า

 

ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรก โอกาสทองของ อาร์เจนตินา 2 ครั้งติดจากตัวสำรอง เลาตาโร มาร์ติเนซ ที่ได้หลุดเข้าไปยิงแต่ปรากฏว่ากลายเป็นกองหลังอย่าง อูปาเมกาโน่ ที่เข้ามาบล็อกได้ทั้ง 2 ครั้ง ช่วยชีวิตทีมชาติฝรั่งเศสได้อย่างหวุดหวิด ทำให้ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกสกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 2-2  

ช่วงต่อเวลาพิเศษครึ่งหลังนาที 108 กลายเป็น อาร์เจนตินา ได้ประตูแซงนำอีกครั้ง 3-2 เลาตาโร มาร์ติเนซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดเต็มข้อ โยริส ปัดได้ แต่บอลเข้าทาง เมสซี่ ที่ซ้ำบอลข้ามเส้นไปแล้ว กองเชียร์ฟ้าขาวได้เฮกันลั่น โดย เมสซี่ ยิงประตูที่ 7 ในฟุตบอลโลกครั้งนี้เท่ากับ เอ็มบั๊ปเป้ แต่จำนวนแอสซิสต์ของดาวเตะฟ้าขาวนั้นเยอะกว่า

นาที 116 ฝรั่งเศส ได้จุดโทษที่ 2 ในเกมนี้ กอนซาโล มอนเทียล ไปทำแฮนด์บอล ซึ่งคนรับหน้าที่สังหารเป็น คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ และก็ไม่พลาด เป็นแฮตทริกของเจ้าตัว พร้อมขยับขึ้นนำดาวซัลโวเดี่ยวๆที่ 8 ประตู สกอร์ระหว่าง อาร์เจนตินา กับ ฝรั่งเศส ณ ตอนนี้อยู่ที่ 3-3

ช่วงเวลาที่เหลือเกมเปิด ทั้งอาร์เจนตินา และฝรั่งเศส ต่างมีโอกาสทองทั้งสองฝั่ง แต่ก็พลาดอย่างเหลือเชื่อ จบเกม 120 นาทีเสมอ 3-3 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ

สุดท้ายเป็น อาร์เจนตินา ที่แม่นจุดโทษกว่าเอาชนะ ฝรั่งเศส ได้ 4-2 คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 ได้อย่างยิ่งใหญ่

11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้ง 2 ทีม

อาร์เจนตินา : เอมิเลียโน่ มาร์ตีเนซ (GK) , นาอูเอล โมลิน่า , คริสเตียน โรเมโร่ , นิโกลัส โอตาเมนดี้ , นิโกลัส ตาญาฟีโก้ , โรดริโก้ เดอ ปอล , อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ , เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ , อังเคล ดิ มาเรีย , ลีโอเนล เมสซี่ , ฮูเลียน อัลวาเรซ

สำรอง : มาร์กอส อคูน่า นาที 64 , กอนซาโล มอนเทียล นาที 91 , เลอันโดร ปาเรเดส , เลาตาโร มาร์ติเนซ นาที 103 , เคร์มัน เปซเซลลา นาที 116 , เปาโล ดีบาล่า นาที 120 

ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (GK) , ฌูลส์ กุนเด้ , ราฟาแอล วาราน , ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ , เตโอ แอร์กน็องเดซ , โอเรเลียง ชูอาเมนี่ , อาเดรียง ราบิโอต์ , อุสมาน เดมเบเล่ , อองตวน กรีซมันน์ , คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ , โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์

สำรอง : มาร์คัส ตูราม , ร็องดาล โคโล มูอานี่ นาที 41 , คิงสลีย์ โกมาน , เอดูอาร์โด้ คามาวินก้า นาที 71 , ยุสซุฟ โฟฟาน่า นาที 96 , อิบราฮิมา โกนาเต้ นาที 113 , อักเซล ดิซาซี นาที 120

เปิดทำเนียบแชมป์ฟุตบอลโลก 

- บราซิล 5 ครั้ง (1958 , 1962 , 1970 1994 และ 2002)

- อิตาลี 4 ครั้ง (1934 , 1938 , 1982 และ 2006)

- เยอรมนี 4 ครั้ง (1954 , 1974 , 1990 และ 2014)

- อาร์เจนตินา 3 ครั้ง (1978 , 1986 และ 2022)

- อุรุกวัย 2 ครั้ง (1930 และ 1950)

- ฝรั่งเศส 2 ครั้ง (1998 และ 2018)

- อังกฤษ 1 ครั้ง (1966)

- สเปน 1 ครั้ง (2010)

 

เมสซี่สมหวัง อาร์เจนตินา แม่นโทษชนะ ฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกสมัยที่ 3 สุดดราม่า