ไบร์ท วชิรวิชญ์ แจงปมถูกโยง Forex-3D พร้อมแจงสัมพันธ์ อภิรักษ์ หลังคลิปว่อน

ไบร์ท วชิรวิชญ์ แจงปมถูกโยง Forex-3D พร้อมแจงสัมพันธ์ อภิรักษ์ หลังคลิปว่อน

"ไบร์ท วชิรวิชญ์" ดาราชื่อดัง แจงปมถูกโยงเอี่ยว Forex-3D ยันเป็นเพียงเหยื่อ พร้อมแจงความสัมพันธ์กับ "อภิรักษ์" หัวโจกแก๊ง Forex-3D

ความคืบหน้าคดี Forex-3D ที่มีดารานักแสดง นักร้อง และผู้มีชื่อเสียงจำนวนมากเข้าไปเกี่ยวข้อง ล่าสุดมีชื่อของ "ไบร์ท วชิรวิชญ์" ถูกโยงเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ ดีเอสไอ เผยว่าเตรียมออกหมายเรียกครั้งที่ 2 ดาราชาย "ป." มารับทราบข้อหาในข้อหา "ฟอกเงิน" คดี Forex-3D โดยขีดเส้นสิ้นเดือนตุลาคม 2565 นี้ หากไม่มาพร้อมออกหมายจับทันที ส่วน "ดีเจแมน" และนักร้องดัง "ใบเตย" ภรรยา แจ้งขอเลื่อนนัดเข้าพบเหตุเอกสารยังไม่พร้อม

 

 

ล่าสุดในโลกออนไลน์ได้มีการเปิดชื่อดาราชายอีกรายว่าเข้าไปเกี่ยวพันกับคดี Forex-3D ซึ่งหลายคนก็พุ่งเป้าไปที่ "ไบร์ท วชิรวิชญ์" โดยล่าสุดวันนี้(30 กันยายน 2565) เจ้าตัวก็ได้ออกมาเปิดใจถึงกรณีที่เพจ "รวบรวมผู้โดนโกง จาก Forex 3d" อ้างว่ามีชื่อเป็นผู้ลงทุนใน Forex-3D ด้วย อีกทั้งยังมีคลิปที่ถ่ายร่วมกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้บริหารแชร์ลูกโซ่ Forex 3d

 

โดย ไบร์ท วชิรวิชญ์ เปิดใจเล่าว่า ตอนนั้นตนอายุประมาณ 15-16 ปี ช่วงนั้นทำรายการทีวีรายการหนึ่ง ซึ่งตนมีรุ่นพี่คนหนึ่ง ที่เป็นพิธีกรด้วยกันชื่อว่า "นิโก้" ซึ่งเป็นคนพาไปรู้จักกับพี่รักษ์ หรือนายอภิรักษ์ ซึ่งในช่วงนั้นเวลาทำงานเลิกดึก บ้านอยู่ที่นครปฐม บางทีรถตู้หมด 3 ทุ่มจึงกลับบ้านไม่ทัน ก็เลยไปอาศัยนอนบ้านนิโก้ ซึ่งนิโก้อาศัยอยู่บ้านเดียวกันกับอภิรักษ์ ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มารู้จักกับอภิรักษ์ 

 

ไบร์ท วชิรวิชญ์ เผยต่ออีกว่า ส่วนคลิปขณะร้องเพลงร่วมกับนิโก้และอภิรักษ์ที่มีการนำมาเผยแพร่นั้น ตอนนั้นตนอยู่ ม.4 โดยในคลิปที่เห็นเป็นวันแรกที่ได้เจอกันกับอภิรักษ์ ไปนอนบ้านพี่นิค (นิโก้) ครั้งแรก ก็เลยอัดคลิปร้องเพลงกันเท่านั้นเอง

 

ไบร์ท วชิรวิชญ์ แจงปมถูกโยง Forex-3D พร้อมแจงสัมพันธ์ อภิรักษ์ หลังคลิปว่อน

 

 

ในส่วน Forex-3D จุดเริ่มต้นต้องยอมรับว่าเริ่มมาจากตัวเอง ด้วยความที่ตอนนั้นทุกคนที่อยู่รอบตัวลงทุนตรงนี้กันหมด และตนก็เห็นมาสักพัก และเห็นว่าทุกคนได้เงินจริง ๆ ก็รู้สึกว่ามันน่าจะโอเค ซึ่งวันนั้นตนยังไม่ได้มีเงิน เงินก้อนแรกที่เอามาลงทุนก็ขอแม่มา 50,000 บาท พอลงไปมันก็ได้จริง ๆ ได้มาเรื่อย ๆ ก็รู้สึกว่ามันโอเค จากนั้นก็พยายามเก็บเงิน งานทุกชิ้นที่ทำ รายได้ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ส่วนใหญ่ผมก็จะยัดกลับคืนเข้าไป เพราะคิดว่ามันคือการลงทุน เป็นการออมเพื่ออนาคต

 

"วันนั้นที่ลงทุนไปยังไม่มีชื่อเสียงแบบนี้ ตอนนั้นเอาเงินจากการเล่นโฆษณา แคสงาน เงินบางส่วนก็เป็นเงินเก็บของแม่ เรียกว่าเป็นเงินทั้งชีวิตของครอบครัวเลย นั่นคือเงินก้อนใหญ่ก้อนเดียวที่บ้านมี แล้วเราก็เสียไปกับตรงนั้นทั้งหมด จำนวน 775,000 บาท เยอะมาก ๆ ณ วันนั้นมันคือเงินทั้งครอบครัว วันนั้นเราเครียดกันมาก ๆ เพราะเงินสำรองครอบครัว เงินที่เราจะต้องเอาไว้ใช้ในอนาคตมันหายไปหมดแล้ว แล้วเราต้องมานั่งนับหนึ่งใหม่ แล้วจะต้องยังไง แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงโควิดด้วย ถ้าอะไร ๆ มันไม่ได้เป็นแบบทุกวันนี้ ผมน่าจะแย่มาก ๆ คงไม่รู้จะใช้ชีวิตยังไงเลย"

 

ไบร์ท วชิรวิชญ์ เผยต่อว่า ช่วงแรก ๆ ก็ยังติดต่อเขาได้ ตอนที่คนยังไม่ได้มั่นใจว่ามันคือยังไงกันแน่ ก็ยังติดต่อถามไถ่เขาตลอด เขาก็จะพูดให้เรามั่นใจตลอดว่ามันอยู่ในกระบวนการ มันมีปัญหา เราก็เชื่อสนิทใจ เขาคือพี่ที่เรารู้จัก เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก เรายิ่งอยู่ใกล้เรายิ่งไม่เห็นความจริง ผมน่าจะเป็นคนที่รู้ช้ามาก ๆ เหมือนเรามีโอกาสได้อยู่ใกล้เขา คนอื่นมองเข้ามาอาจจะเห็นภาพรวมว่าความจริงมันคือการหลอกหลวง ฉ้อโกง แต่สำหรับผม ๆ รู้สึกว่า เขาแค่มีปัญหาเดี๋ยวก็จัดการได้ หรือจะเรียกว่าความโลภบังตาก็เป็นได้ หากใครจะลงทุนอะไรก็อยากจะให้ลงทุนในสิ่งที่ตรวจสอบได้ ไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก

 

"ผมคือเหยื่อที่มาลงกับเขาตรงนี้ ถามว่าชักชวนใครไหม ไม่ได้มีการชักชวนเกิดขึ้นเลยครับ แต่คนที่เล่นตามคือคนใกล้ตัวทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นแม่ เพื่อนสนิท หากรู้ว่ามันคือการฉ้อโกง การหลอกลวง ก็คงไม่มีทางปล่อยให้แม่ให้คนที่ผมรักมาเสียหายตรงนี้ด้วย ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนครั้งสำคัญ เป็นความพลาดของผม ไม่ได้อยากจะไปกล่าวโทษใคร เพราะไม่ได้มีใครชักชวน คือผมเห็นเขาทำแล้วมันได้ผมก็พุ่งเข้าไปเอง ทั้งนี้หากทางเจ้าหน้าที่ทางดีเอสไอหรือหน่วยงานใดก็ตามจะเรียกไปให้ข้อมูลผมก็พร้อมร่วมมือเต็มที่"

 

ไบร์ท วชิรวิชญ์ แจงปมถูกโยง Forex-3D พร้อมแจงสัมพันธ์ อภิรักษ์ หลังคลิปว่อน

 

ไบร์ท วชิรวิชญ์ แจงปมถูกโยง Forex-3D พร้อมแจงสัมพันธ์ อภิรักษ์ หลังคลิปว่อน