"บุญเดือน 9 ข้าวประดับดิน" อุทิศส่วนกุศลแก่วิญญาณผู้ล่วงลับ ตามความเชื่อชาวอีสาน

สืบสานประเพณีโบราณ "บุญเดือน 9 ข้าวประดับดิน" อุทิศส่วนกุศลแก่วิญญาณผู้ล่วงลับ ตามความเชื่อชาวอีสาน เสริมสิริมงคลแก่ครอบครัว

 "บุญเดือน 9 ข้าวประดับดิน" วันนี้ 26 สิงหาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่หน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตั้งแต่เวลา 04.00 น. เป็นต้นมา มีพุทธศาสนิกชนในพื้นที่ ต่างเดินทางนำเครื่องสักการะบูชา ได้แก่ ข้าวปลา อาหาร คาวหวาน ผลไม้ หมาก พลู บุหรี่ ห่อด้วยใบตอง นำไปวางตามโคนต้นไม้ใหญ่หรือตามพื้นดินบริเวณรอบๆเจดีย์ หรือโบสถ์ 

โดยการทำบุญข้าวประดับดินนี้ ชาวบ้านเชื่อว่า เป็นการทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว รวมถึงอุทิศส่วนกุศลให้กับสัตว์นรก หรือเปรต ตามประเพณีความเชื่อ บุญเดือนเก้า หรือห่อข้าวประดับดิน โดยสืบทอดมาแต่โบราณ ที่จัดขึ้นทุกปี ในวันแรม 14 ค่ำ เดือน 9 

\"บุญเดือน 9 ข้าวประดับดิน\" อุทิศส่วนกุศลแก่วิญญาณผู้ล่วงลับ ตามความเชื่อชาวอีสาน

ด้วยการนำอาหารคาวหวานจัดวางถวาย ตามสถานที่สำคัญๆ อาทิ หน้าวัด กำแพงวัด รวมถึงหน้าบ้านเรือน ตามความเหมาะสม เชื่อกันว่าจะเป็นวันที่วิญญาณบรรพบุรุษผู้ล่วงลับ รวมถึงเทวดาอารักษ์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ภูตผี จะมารับส่วนบุญที่จัดเตรียมถวาย ส่งผลดีเป็นสิริมงคลแก่ลูกหลาน มีความเจริญรุ่งเรือง

จากการสอบถาม ชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ระบุว่าประเพณีบุญเดือน 9 ห่อข้าวประดับดิน เป็นประเพณีภาคอีสานที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ ยึดถือปฏิบัติกันมาหลายชั่วอายุคน เชื่อกันว่า เป็นวันที่จะได้มีโอกาสนำเครื่องเซ่นไหว้ อาหาร คาวหวาน แล้วแต่จะจัดหามาโดยนำไปวางตามสถานที่ต่างๆ ตามความเชื่อ

\"บุญเดือน 9 ข้าวประดับดิน\" อุทิศส่วนกุศลแก่วิญญาณผู้ล่วงลับ ตามความเชื่อชาวอีสาน

ในส่วนของ อ.ธาตุพนม ชาวบ้านส่วนใหญ่จะนำมาจัดเรียงไว้ที่หน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ถือเป็นสถานที่สำคัญ เชื่อว่าจะเกิดอานิสงค์ผลบุญ วิญญาณบรรพบุรุษ จะได้ออกมารับส่วนบุญที่จัดเตรียมมา พร้อมตั้งจิตอธิษฐาน ถวายเครื่องสักการบูชาต่อเทวดาอารักษ์ ที่ดูแลปกปักษ์รักษาองค์พระธาตุพนม พร้อมขอพรองค์พระธาตุพนม ให้มีความร่วมเย็นเป็นสุข เจริญรุ่งเรือง

สาเหตุที่ต้องทำพิธีตั้งแต่เช้ามืดเพราะเชื่อว่า พญายมราชปล่อยผีเปรตให้มีเวลาอยู่บนโลกมนุษย์เพียง 2 ชั่วโมง จากตี 4 ถึง 6 โมงเช้า และที่ต้องวางเครื่องไทยทานไว้กับพื้นดินนั้นเพื่อให้เปรตรับเอาง่ายๆ โดยไม่ต้องมีพิธีรีตอง เดียวจะกลับไม่ทันเวลา

สำหรับประเพณีการทำบุญข้าวประดับดิน เกิดจากความเชื่อตามนิทานธรรมบทว่า ญาติของพระเจ้าพิมพิสาร ได้ยักยอกเงินวัดไปเป็นของตนเอง ครั้นตายไปแล้วได้ไปเกิดเป็นเปรตในนรก และเมื่อพระเจ้าพิมพิสารถวายทานแด่พระพุทธเจ้าแล้วมิได้อุทิศให้ญาติที่ตาย

\"บุญเดือน 9 ข้าวประดับดิน\" อุทิศส่วนกุศลแก่วิญญาณผู้ล่วงลับ ตามความเชื่อชาวอีสาน

กลางคืนพวกญาติที่ตายมาแสดงตัวเปล่งเสียงน่ากลัวให้ปรากฏใกล้พระราชนิเวศน์ รุ่งเช้าได้เสด็จไปทูลถามพระพุทธเจ้า พระพุทธองค์ทูลเหตุให้ทราบ พระเจ้าพิมพิสารจึงถวายทานอีก แล้วอุทิศส่วนกุศลไปให้ ญาติที่ตายไปจึงได้รับส่วนกุศล ดังนั้น การทำบุญข้าวประดับดิน คือการทำเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่ญาติผู้ตายแล้ว ถือเป็นประเพณีที่ต้องทำเป็นประจำทุกปี