‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ’ ร้าน ‘เจ๊ง้อ’ ราชวัตร ขายมา 70 ปี

“ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊ง้อ” ราชวัตร ขายมา 70 ปี ปัจจุบัน “เจ๊ง้อ” รุ่น 4 วัย 66 ปียังคงปรุง “ก๋วยเตี๋ยว” อยู่หน้าร้าน เธอเล่าว่าเตี่ยหาบขายตั้งแต่ชามละ 6 สลึง วันนี้ 80-100 บาท จุดเด่นคือใช้เนื้อสามชั้นส่วนท้อง นุ่ม ชุ่มลิ้น น้ำซุปกลมกล่อมหอม “อร่อย”

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊ง้อ ตั้งแต่รุ่นเตี่ย 70 ปี เจ๊ง้อ พัชรินทร์ แซ่ลี้ เล่าว่าเตี่ยมาจากเมืองจีน เสื่อผืนหมอนใบ มากับน้องชาย เริ่มจากทำงานแบกหาบ

พอไปหม่ำ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ร้าน อร่อย ก็เลยลองทำ ก๋วยเตี๋ยวให้ลูกหลานกิน ต่อมาคิดเปิดร้าน ก๋วยเตี๋ยว ทว่าตึกแถวยังไม่ว่าง

ก็เลยขายหาบทองเหลือง เร่ไปแถวๆคลองประปา ซอยอารีย์ ขณะนั้นพี่ชาย และพี่สาวของ เจ๊ง้อ ก็เดินตามพ่อไปช่วยขายก๋วยเตี๋ยว

“หาบอยู่นานเหมือนก่อน เพราะว่าบ้านเช่ายังไม่วาง พอบ้านเช่าว่างก็มาเปิดขายเลย ตอนแรกเช่า 2 ห้อง ตอนหลังมีคนมาซื้อไปก็เลยเหลือห้องเดียว

ก็คือห้องนี้มาตลอด และเราก็นอนอยู่ที่นี่ นอนเรียงกันเป็นแถวเลย (หัวเราะ) ข้างล่างเป็นพื้นไม้ ตอนนี้ปรับปรุงพื้นเทปูน เป็นที่ของทรัพย์สินฯ ดัดแปลงเยอะไม่ได้ อะไรที่พังเราก็ทำไปนิดๆหน่อยๆ”

เจ๊ง้อ พัชรินทร์ แซ่ลี้ เล่าว่า ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ รุ่นเตี่ย(คุณพ่อ) ขายชามละ 6 สลึง ถึง 2 บาท เริ่มแรกพี่สาวคนโต (รุ่น2) รับช่วงขายก๋วยเตี๋ยวจากเตี่ย

ต่อมาพี่สาวสอนสูตรให้กับน้องชาย (รุ่น3) พอน้องชายได้งานทำก็เลยส่งต่อให้ เจ๊ง้อ (รุ่น 4) เป็นคนรับช่วง

“พี่สาวกับพี่ชายก็ช่วยกันสอนให้เราทำต่อ บอกสูตรว่าเตี่ยทำแบบนี้ๆๆนะ ตัวเราเองก็ชอบกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ไปลองกินร้านอื่นแล้วมา แล้ว

ดัดแปลงเข้ากับสูตรของเตี่ยอีกที ต้นตำรับของเตี่ยเราก็ยังคงอยู่นะเขาบอกให้ใส่โน่นใส่นี่เน้นเครื่องยาจีนตัวไหนๆเพราะกลัวจะไม่หอม

เราใช้ยาจีนประมาณ 20 อย่าง เคล็ดลับความอร่อยของเราอยู่ตรงน้ำซุป ใส่กระดูกเยอะถ้าร้านขายเนื้อเขาไม่ให้เยอะอเราก็ต้องซื้อเพิ่ม

เพราะใส่กระดูกน้อยจะไม่อร่อย กันชง กัญชา เราไม่กล้าใส่ (หัวเราะ) ลูกค้าก็บอกให้ใส่สิคนจะได้ติด โอ้โห แค่นี้ก็ทำจะไม่ไหวแล้ว

อายุก็มาก 65 จะ 66 แล้ว จะยกให้ลูกสาว (น้องมิลค์) มารับช่วงแทนเนี่ย”

‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ’ ร้าน ‘เจ๊ง้อ’ ราชวัตร ขายมา 70 ปี ภาพโดย : กอบภัค พรหมเรขา

‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ’ ร้าน ‘เจ๊ง้อ’ ราชวัตร ขายมา 70 ปี ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเจ๊ง้อ ราชวัตร ต้องตื่นเช้าตี 4 อาบน้ำแต่งตัวลงมาปรุง ก๋วยเตี๋ยว บางครั้งลูกค้ามาเร็ว 6 โมง น้ำยังไม่เดือดก็ยังขายไม่ได้

พร้อมขาย ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ประมาณ 7 โมงเช้า เจ๊ง้อเล่าว่า “กว่าจะต้มเนื้อ เอาเนื้อขึ้น น้ำซุปต้องเดือดเต็มที่ถึงจะขาย ถ้าไม่เดือดเต็มที่เราจะไม่ขาย

‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ’ ร้าน ‘เจ๊ง้อ’ ราชวัตร ขายมา 70 ปี ลูกค้าก็บ่นว่าป่านนี้ยังไม่ขายอีกเหรอ เราก็บอกว่าน้ำยังเดือดไม่เต็มที่นั่งรอก่อนละกัน เราขายถึงสามโมงครึ่ง สี่โมงก็เก็บร้าน แต่ถ้าหมดก่อนก็เก็บก่อน

‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ’ ร้าน ‘เจ๊ง้อ’ ราชวัตร ขายมา 70 ปี ส่วนมากเสาร์-อาทิตย์จะหมดไว บ่ายสองโมงครึ่ง สามโมง ก็หมดแล้วเพราะเราสั่งเนื้อมาวันต่อวัน เราไม่ค้างเลย วันไหนหมดก็คือหมด

อีกวันก็มาเริ่มใหม่ ลูกค้าบอกทำไมไม่ทำมาเยอะๆ โอ้โหไม่ไหวหมดแรง คนที่ช่วย 3 คนก็เป็นญาติๆเราไม่กล้าใช้คนอื่น”

‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ’ ร้าน ‘เจ๊ง้อ’ ราชวัตร ขายมา 70 ปี จุดเด่นความ อร่อย ร้าน ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เจ๊ง้อ “พัชรินทร์ แซ่ลี้” ก็คือ ใช้ เนื้อสามชั้น ส่วนท้อง มีกลิ่นหอม นุ่ม ชุ่มลิ้น ขอบกระด้ง ม้าม ไส้ เครื่องในสุดฮิต

‘ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ’ ร้าน ‘เจ๊ง้อ’ ราชวัตร ขายมา 70 ปี “ขอบกระด้ง กับไส้ จะทำยากหน่อยเราต้องล้างให้สะอาด ล้าง เปิดน้ำตลอด ถ้าขอบกระด้งล้างไม่ดีเวลาเราต้มลงไปน้ำซุปจะเสียหมด