"วันหยุดยาว" 28-31 ก.ค.65 ก่อนขับรถทางไกลต้องรู้! วิธีแก้ง่วงและเช็กรถยนต์

"วันหยุดยาว" 28-31 ก.ค.65 ก่อนขับรถทางไกลต้องรู้! วิธีแก้ง่วงและเช็กรถยนต์

ใครจะขับรถทางไกลในช่วง "วันหยุดยาว" 28-31 ก.ค. 65 นี้ ก่อนจะขับรถต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งรถทั้งคนขับ กรมควบคุมโรคเผยวิธี "แก้ง่วง" ระหว่างเดินทางไกล

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เคยให้ข้อมูลไว้ว่าในช่วง "วันหยุดยาว" ต่างๆ ของไทยจะเป็นช่วงที่ประชาชนออกเดินทางเป็นจำนวนมาก ทำให้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้บ่อย กรมควบคุมโรค จึงมีคำแนะนำถึงประชาชนเพื่อการเตรียมความพร้อมทั้งคนทั้งรถก่อนการเดินทาง

โดยเฉพาะการเตรียมตัวสำหรับคนขับถือว่าสำคัญมาก เพราะนอกจากต้องเพิ่มความระมัดระวังให้กับตัวเองแล้ว ยังต้องมีความรับชอบต่อเพื่อนร่วมทางคนอื่นๆ ด้วย สำหรับวิธีเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขับรถทางไกล และวิธี "แก้ง่วง" ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ในระหว่างเดินทาง ได้แก่

  • ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดและไม่รับประทานยาที่ทำให้ง่วง ทั้งก่อนการขับรถและขณะขับรถ เช่น ยาลดน้ำมูก ยาภูมิแพ้ ยาแก้ไอ เป็นต้น
  • พักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ก่อนขับรถ
  • ตรวจเช็คความพร้อมของยานพาหนะ โดยตรวจเช็คลมยาง ไฟส่องสว่าง ไฟเลี้ยว ระบบเบรก ฯลฯ
  • คาดเข็มขัดนิรภัย หรือ สวมหมวกนิรภัยทุกครั้งขณะขับรถ และขับรถด้วยความระมัดระวัง ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด
  • ใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ เพื่อลดความแออัดบนท้องถนน
  • หาเครื่องดื่มช่วยเพิ่มความสดชื่นและทำให้ตื่นตัวได้เป็นอย่างดีขณะขับรถ
  • หาของทานเล่นระหว่างขับรถ เช่น มันฝรั่ง ลูกอม หมากฝรั่ง ช่วยให้ร่างกายตื่นตัวอยู่ตลอด ไม่ง่วงซึม
  • ลดอุณหภูมิด้วยการปรับความเย็นแอร์ลง หรือเร่งพัดลมแรงขึ้น หรือลดกระจกลงเพื่อรับอากาศจากภายนอกรถ และควรเตรียมผ้าชุบน้ำไว้เช็ดหน้าด้วย
  • เปิดเพลงฟัง จะช่วยสร้างความครื้นเครงและทำให้ตื่นตัวขณะขับรถ
  • ขยับร่างกายเปลี่ยนแปลงอิริยาบถ เพราะการขับรถนานๆ จะทำให้มีอาการง่วง และช่วยลดการเมื่อยล้าได้

นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำเกี่ยวกับการ "ตรวจสภาพรถ" เบื้องต้นด้วยตัวเองที่ควรรู้ สำหรับเป็นเช็กลิสต์ในการตรวจเช็กสภาพรถก่อนเดินทางไกล กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว ดังนี้

ล้อรถ/ยางรถยนต์ : ก่อนเดินทางควรเติมลมยางเพิ่ม 3-5 ปอนด์/ตร.นิ้ว เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและช่วยประหยัดเชื้อเพลิง

แบตเตอร์รีรถยนต์ : ถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบน้ำจะต้องคอยเติมน้ำกลั่นอยู่เสมอไม่ให้ขาด ถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบแห้งไม่ต้องดูแลอะไรมาก และถ้าเป็นแบตเตอรี่แบบกึ่งแห้ง จะต้องเติมน้ำกลั่นปีละ 1-2 ครั้ง

ระบบเบรก/น้ำมันเบรก : ให้ลอง “เหยียบเบรกแล้วฟัง” สังเกตดูว่ามีเสียงดังผิดปกติหรือไม่ หากมีเสียงผิดปกติควรเข้าอู่โดยด่วน ในส่วนของน้ำมันเบรกต้องใส่เติมให้อยู่ระดับปกติ

ระบบไฟส่องสว่าง : ควรตรวจเช็คระบบไฟทุกส่วน ทั้งไฟหน้าสูง-ต่ำ ไฟท้าย ไฟเบรก ไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง ไฟตัดหมอก ไฟฉุกเฉิน ฯลฯ ต้องใช้งานได้ครบทุกจุด

ที่ปัดน้ำฝน : ต้องอยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ตัวยางต้องแน่น ลองเปิดใช้งานต้องไม่มีเสียงขูดขีดผิดปกติ

น้ำมันเครื่อง/หม้อน้ำ : น้ำมันเครื่องต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ตรวจเช็กได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง ส่วนหม้อน้ำต้องตรวจดูว่ายังมีน้ำอยู่ไหม ถ้าน้ำลดหายไปเยอะ ควรเติมเข้าไปให้ต่ำว่าขีด Max เล็กน้อย