"อุทยานแห่งชาติตาดหมอก" ผืนป่าที่จะบอกว่าคุณก็มีชีวิตดีๆ ได้

"อุทยานแห่งชาติตาดหมอก" ผืนป่าที่จะบอกว่าคุณก็มีชีวิตดีๆ ได้

ถ้าในเมืองมันวุ่นวายมาก ไหนจะฝนตก แล้วรถติด ถ้าไม่มีภารกิจอะไร ไป "อุทยานแห่งชาติตาดหมอก" แล้วจะรู้ว่าชีวิตที่ติดธรรมชาติ มันมีเสน่ห์เพียงใด...

ผมมีความสุขทุกครั้ง ที่ได้ขับรถมา เที่ยวเพชรบูรณ์ (เพิ่งจะเริ่มไม่มีความสุขก็ตอนน้ำมันแพงนี่เอง) เพราะ เพชรบูรณ์ มีธรรมชาติที่ถูกจริตกับผมอย่างมาก ถ้าขับรถไป เม่อเลยวิเชียรบุรี เริ่มตั้งแต่แยกบึงสามพัน ให้สังเกตว่า ทั้งซ้ายและขวาของถนนที่เรามุ่งหน้าไปตัวเมืองเพชรบูรณ์นั้น มันจะถูกขนาบไปด้วยภูเขาสองแนว แต่ถ้าดูให้กว้างขึ้นอีก ก็จะเห็นว่าด้านเหนือของที่ราบ ก็เป็นภูเขาเช่นกัน เลยกลายเป็นพื้นที่ของเพชรบูรณ์นั้นเหมือนรูปตัวยู U คว่ำลง ที่ราบก็จะยาวขึ้นไปจนถึงหล่มสัก-หล่มเก่า   เพราะมีเทือกเขาเพชรบูรณ์แทบจะโอบล้อมหมด

เพชรบูรณ์ส่วนภูเขาทางซ้าย ที่ไปเขาค้อ ไปทุ่งแสลงหลวง ไปพิษณุโลกเข้าใจว่าท่านผู้อ่านก็คงไปกันจนปรุแล้ว จุดหมายปลายทางเราวันนี้จึงเป็นส่วนทางขวามือ แน่นอนว่า อุทยานแห่งชาติตาดหมอก อยู่กับภูเขาฝั่งขวานี่แหละ

\"อุทยานแห่งชาติตาดหมอก\" ผืนป่าที่จะบอกว่าคุณก็มีชีวิตดีๆ ได้

ไปไม่ยากเลยครับ เดี๋ยวนี้ถนนหนทางดี รถทุกชนิดไปได้หมด โดยเข้าไปในตัวเมืองเพชรบูรณ์ แล้วแล่นไปทางด้านตะวันออก ไปทางบ้านเฉลียงลับซึ่งมันจะมีป้ายบอกไปเรื่อยๆ ถึงบ้านเฉลียงลับ เลยหมู่บ้านไปอีกไม่ไกล จะเจอถนนท้องถิ่นอีกเส้น เลี้ยวขวาไปอีกไม่ไกลก็จะเห็นป้าย "อุทยานแห่งชาติตาดหมอก" ทางขวา ทีนี้ก็เลี้ยวเข้าไปเลย ไปหน่อยเดียวก็จะเห็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติ ด้านล่าง จ่ายค่าธรรมเนียมอะไรเสร็จสรรพก็ขับรถขึ้นเขาไปเลยครับ จะมีจุดชมวิวระหว่างทาง ถ้าแวะดูก็จะเห็นที่ราบของเพชรบูรณ์ เห็นบ้านเฉลียงลับ และอีกฝั่งเขาทางด้านเขาค้อ 

ขับรถขึ้นไปจนสุดเนินจะพบป้อมยามและสามแยก ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปลานกางเต็นท์ชมดาว แต่ถ้าไปทางขวาจะไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและจุดกางเต็นท์อีกแห่ง จากแยกมาไม่ไกล จะเห็นทางแยกเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ แต่ให้เราขับไปตามทางลาดยางจนถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตรงนี้เหมือนจะมีบ้านพักของอุทยานฯด้วย แต่ผมไปทีไร มักชอบไปกางเต็นท์ที่นี่ทุกที ที่นี่สงบเงียบ บรรยากาศป่าเขาล้อมรอบ ใครคิดแค่จะไปนอนบรรยากาศป่าๆ หลีกหนีความวุ่นวาย ที่นี่ละเหมาะมาก บอกไปแล้วว่ารถทุกชนิดไปถึงง่าย เพราะทางลาดยางอย่างดี

\"อุทยานแห่งชาติตาดหมอก\" ผืนป่าที่จะบอกว่าคุณก็มีชีวิตดีๆ ได้

แต่...สำหรับผม ถ้าไปแล้วไม่พอแค่นี้ เพราะผมชมชอบการได้เดินเที่ยวป่า เพื่อไปน้ำตกสองนาง และน้ำตกตาดหมอก ที่นี่ถือว่าสุดยอดน้ำตกของเพชรบูรณ์กันเลยทีเดียว

พื้นที่ป่าในอุทยานแห่งชาติตาดหมอกนั้น เป็นผืนที่ต่อเนื่องกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าตะเบาะ-ห้วยใหญ่ ลักษณะป่าจะเป็นเบญจพรรณ ดงดิบแล้ง ตามซอกเขา ริมลำธารจะเป็นพืชพรรณแบบดงดิบชื้นบ้าง  ซึ่งป่าแบบนี้ ถ้าป่ายังคงมีพื้นที่กว้างใหญ่ ไม่มีใครไปแผ้วถางด้านใน ก็จะเป็นป่าต้นน้ำ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี น้ำตกตาดหมอกและน้ำตกสองนางนี้ก็เช่นกัน มีน้ำไหลทั้งปี และถ้าลำห้วยลำธารไหนไหลลงมาทางด้านตัวเมืองเพชรบูรณ์  ก็จะไหลลงทางลพบุรี ไปรวมเป็นแม่น้ำป่าสัก แต่ในป่าผืนเดียวกันนี้ ถ้ามีลำธารน้ำไหลไปทางฝั่งชัยภูมิ ก็จะกลายเป็นต้นแม่น้ำชี

\"อุทยานแห่งชาติตาดหมอก\" ผืนป่าที่จะบอกว่าคุณก็มีชีวิตดีๆ ได้

คนที่จะไปเที่ยวน้ำตกตาดหมอกนั้น จะต้องเดินได้ เพราะเส้นทางก็เหมือนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติในป่า คนสูงอายุ หรือผู้พิการนั่งรถเข็น อาจเป็นข้อจำกัด โดยจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ผมบอกจะมีทางลาดยางเข้าไปอีกน่าจะร่วม 10 กม. กระมัง อันนี้ไม่แน่ใจ แต่ทางดี รถไปถึงลานจอดรถด้านใน เมื่อหลายปีก่อน เมื่อเลยจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวมาราว 4-5 กม. น้ำป่ากัดเซาะจนถนนพัง รถผ่านไม่ได้ ผมต้องจอดรถไปตรงถนนขาด แล้วเดินเท้าไปบนถนนนั่นแหละไปจนถึงลานจอดรถ ต้องไปนอนพักแรมกันที่ลานจอดรถหนึ่งคืน จึงเดินเที่ยวน้ำตกในวันรุ่งขึ้น แต่ถ้ารถถึงก็ไม่ต้องพักแรมด้านใน

ตรงลานจอดรถด้านใน จะมีต้นพระเจ้าห้าพระองค์ สูงใหญ่ อยู่ราว 2-3 ต้น มีห้องน้ำ มีป้อมยามของเจ้าหน้าที่ แต่นักท่องเที่ยวมักไม่เยอะ เจ้าหน้าที่เลยเข้ามาแค่ทำความสะอาดห้องน้ำเท่านั้น จากตรงนี้จะเป็นจุดเริ่มเดินเท้า ระยะทางผมคาดคะเนว่าราว 2 กม. เป็นทางเดินในป่า เลาะริมลำห้วยบ้าง ข้ามลำธาร เดินข้ามขอนไม้ มีธรรมชาติให้ดูไปตลอดทาง เหนื่อยก็นั่งพัก จนไปถึงป้ายด้านใน ซึ่งจะมองเห็นสายน้ำตกตาดหมอก  ตกลงมาจากหน้าผาสูง แต่ให้เดินตรงไปอีกราว 60 เมตร จะถึงน้ำตกสองนาง

\"อุทยานแห่งชาติตาดหมอก\" ผืนป่าที่จะบอกว่าคุณก็มีชีวิตดีๆ ได้

น้ำตกสองนางนี้ น่าจะเป็นลำธารน้ำที่มาจากลำห้วยที่อยู่อีกซอกเขาหนึ่ง ไหลตกลงมาเป็นชั้นๆราว 12 ชั้น แต่ละชั้นห่างกันบ้าง ใกล้กันบ้าง สูงตั้งแต่ 2-7 เมตร บางชั้นเป็นลักษณะตกดิ่งลงมา บางชั้นก็ลาดเอียง ตรงชั้นล่างสุดจะเป็นแอ่งน้ำ ในฤดูฝนจะมีลำธารอีกสายตกลงมาสมทบตรงแอ่งน้ำชั้นล่างสุดนี้พอดี น้ำตกสองนางนี้ ผมเคยเลาะไล่ขึ้นไปแค่ 2-3 ชั้น แค่นั้น กลัวลื่น ไม่กล้าไปต่อ เพราะมันต้องเลาะไปตามก้อนหินในลำธาร 

ให้ย้อนกลับมาที่ป้ายน้ำตกที่มองเห็นน้ำตกตาดหมอกไกลๆ จะมีทางเดินขึ้นเขาทางขวามือของป้าย เดินไปตามทาง ซึ่งจะชันหน่อย ขึ้นไปแล้วจะมีทางเดินเลาะเลียบเขาไปอีกราว 100 เมตร ก็จะเป็นทางลงเขา ลงไปก็ไปอยู่หน้าน้ำตกตาดหมอกพอดี

\"อุทยานแห่งชาติตาดหมอก\" ผืนป่าที่จะบอกว่าคุณก็มีชีวิตดีๆ ได้

น้ำตกตาดหมอกนี้ เป็นน้ำตกที่สูงใหญ่ ตกลงมาชั้นเดียวจากหน้าผาที่สูง 320เมตร เรียกว่าสูงจนเมื่อไปอยู่ใกล้ๆ ต้องนอนแนบพื้น จึงจะเก็บภาพได้หมดทั้งน้ำตก น้ำตกแผ่กระจายลงมาตามหน้าผาหินที่ตัดดิ่ง มีน้ำตลอดปีอย่างที่ผมบอก ด้านหน้าน้ำตกจะเป็นหินก้อนเล็กๆ กองทับๆ กัน แสดงว่าหน้าผาหินนี้ยังคงหลุดร่อนตกลงมาตลอด ป่ารอบๆ ก็จะเป็นพวกต้นเต่าร้าง ขึ้นอยู่ แต่ดอกไม้อะไรไม่ค่อยเห็น

เวลากลับ ก็เดินกลับออกมาตามทางเดินเดิม ถ้าเป็นคนที่ไม่เร่งไม่รีบ ผมว่าเส้นทางเดินมา "น้ำตกตาดหมอก" น้ำตกสองนางนี้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่เดินได้สนุกทีเดียว เพราะมีธรรมชาติให้ดูได้ครบถ้วน และไม่ไกลจากรุงเทพมาก

ถ้าในเมืองมันวุ่นวายมาก ไหนจะฝนตก แล้วรถติด ถ้าไม่มีภารกิจอะไร ไปที่นี่เถอะ แล้วจะรู้ว่าชีวิตที่ติดธรรมชาติ มันมีเสน่ห์เพียงใด...