"ทิมเบอร์เลค" ขายลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมด มูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท

"ทิมเบอร์เลค" ขายลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมด มูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท

“จัสติน ทิมเบอร์เลค” นักร้องชื่อดังแห่งยุคปลาย 90 - ต้นยุค 2000 ขายลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดของเขาทั้งที่ร้องเอง และร่วมแต่งราว 200 เพลงให้แก่ “Hipgnosis Song Management” ด้วยมูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 3,400 ล้านบาท

เมื่อวันพฤหัสบดี (26 พ.ค.) ที่ผ่านมา “Hipgnosis Song Management” บริษัทลงทุนด้านดนตรีและการจัดการเพลงในลอนดอน สหราชอาณาจักร ประกาศว่า บริษัทได้ซื้อลิขสิทธิ์เพลงที่ “จัสติน ทิมเบอร์เลค” นักร้องชื่อดังแต่งและร่วมแต่งราว 200 เพลง ร่วมถึงเพลงฮิตที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 อย่าง “SexyBack”, "What Goes Around... Comes Around" และ "Can't Stop the Feeling!"

แม้ว่ามูลค่าการซื้อขายลิขสิทธิ์จะไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ แหล่งข่าวใกล้ชิดว่าได้เปิดเผยกับ The Wall Street Journal ว่าดีลดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์ หรือราว 3,420 ล้านบาท

แคตาล็อกเพลงของทิมเบอร์เลคนั้น เริ่มตั้งแต่ปี 2538 ที่เขายังเป็นสมาชิก “NSYNC” วงบอยแบนด์ชื่อดังของสหรัฐและโด่งดังไปทั่วโลกในช่วงปลายยุค 90 - ต้นยุค 2000 หลังจากนั้น เขาได้เปิดตัวเป็นศิลปินเดี่ยวในปี 2002 กับอัลบั้ม “Justified” โดยปัจจุบันเขามีออกอัลบั้มเดี่ยวมาทั้งสิ้น 5 ชุด และมีซิงเกิ้ลกว่า 40 เพลง

เมิร์ค เมอร์คิวเรียดิส” (Merck Mercuriadis) ผู้ก่อตั้งบริษัท Hipgnosis Song Management เผยว่า ดีลนี้มีการพูดกันมากว่า 1 ปีก่อนที่จะได้ข้อสรุป ซึ่งศิลปินระดับตำนานหลายคนก็เริ่มขายลิขสิทธิ์เพลงทั้งหมดของตนเองให้คนอื่นดูแล ไม่ว่าจะเป็น “บ็อบ ดีแลน” (Bob Dylan), “บรูซ สปริงส์ทีน” (Bruce Springsteen), “นีล ยัง” (Neil Young) และ “สตีวี นิกส์” (Stevie Nicks) ซึ่งทิมเบอร์เลคในวัย 41 ปี ยังถือว่าน้อยกว่าศิลปินไอคอนคนอื่น ๆ ที่ขายลิขสิทธิ์เพลง

“ส่วนมากของศิลปินที่ขายลิขสิทธิ์เพลงของพวกเขา เป็นคนที่กำลังวางแผนอสังหาริมทรัพย์ หรือวางแผนสำหรับอนาคต และอยู่ในสุดที่จะขายลิขสิทธิ์เพื่อเป็นการหาเลี้ยงครอบครัว” ฮานนา คาร์ป บรรณาธิการของ นิตยสารบิลบอร์ด (Billboard) กล่าวกับสำนักข่าว CNN

ทิมเบอร์เลค ไม่ใช่ศิลปินดังรุ่นหลัง ๆ เพียงคนเดียวที่ขายลิขสิทธิ์ให้แก่ Hipgnosis ในปี 2562 “เดอะ เชนสโมเกอร์ส” (The Chainsmokers) ดีเจและโปรดิวเซอร์แนว EDM ได้ขายลิขสิทธิ์ให้แก่บริษัท เช่นเดียวกับ “ชากีรา” (Shakira) ราชินีเพลงฟุตบอลโลกและเพลงละติน ที่พึ่งทำข้อตกลงให้กับบริษัทเมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา

 

“ในส่วนของนักแต่งเพลงรุ่นหลัง ๆ นั้น พวกเขาขายลิขสิทธิ์เพลงของตนเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต” เมอร์คิวเรียดิส กล่าวกับสำนักข่าว CNN และเผยอีกว่า ศิลปินเหล่านี้อยากทำเพลงตามความต้องการของตน มากกว่าการทำเพลงเพื่อเงิน

ศิลปินคนอื่นๆ ที่ทำข้อตกลงกับ Hipgnosis ได้แก่ “เรด ฮ็อต ชิลลี เป็ปเปอร์ส” (Red Hot Chili Peppers), “เจอร์นีย์” (Journey), และ “บลอนดี” (Blondie)

 

ทิมเบอร์เลคแถลงเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า "ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับเมิร์คและ Hipgnosis พวกเขาเห็นคุณค่าของศิลปินและงานสร้างสรรค์ รวมถึงยังเป็นผู้สนับสนุนนักแต่งเพลงและการเล่าเรื่องอย่างมากตลอดมา ผมเองก็รอคอยที่จะก้าวไปสู่บทต่อไปของชีวิต"

การขายลิขสิทธิ์แคตาล็อกเพลงของทิมเบอร์เลคในครั้งนี้ครอบคลุมเฉพาะเพลงที่เขาถือลิขสิทธิ์อยู่เท่านั้น นั่นหมายความว่า เฉพาะเป็นเพลงที่เขาแต่งเองและร้องเองเท่านั้น เพลงที่เขาแต่งให้คนอื่น เช่น รีอานนา หรือ มาดอนนา รวมถึงเพลงฮิตในสมัยที่เขายังอยู่กับวง NSYNC อย่างเช่น “Bye Bye Bye” จึงอยู่นอกเหนือข้อตกลงนี้

การซื้อขายในครั้งนี้เกิดขึ้นในนามของ “Hipgnosis Songs Capital” กองทุนมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัท Hipgnosis Song Management และกองทุนที่ดำเนินงานโดย Blackstone (BGB) บริษัทหุ้นนอกตลาด โดยกองทุนสร้างกำไรจากการซื้อลิขสิทธิ์เพลงของทิมเบอร์เลค ผ่านการซื้อลิขสิทธิ์เพื่อนำไปใช้ในภาพยนตร์ โทรทัศน์ เพลงคัฟเวอร์ และการแสดง ตลอดจนรายการจากการสตรีมมิงเพลง

ขณะที่ Blackstone ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับการซื้อขายในครั้งนี้

Hipgnosis ก่อตั้งโดย เมิร์ค เมอร์คิวเรียดิส ผู้จัดการของศิลปินดังหลายคน เช่น บียอนเซ หรือ เอลตัน จอห์น โดยบริษัทได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนเมื่อเดือน ก.ค. 2561 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา บริษัทก็ได้เดินหน้าทำซื้อลิขสิทธิ์เพลงจากศิลปินอย่างไม่หยุดยั้ง ซึ่งเพลงเหล่านี้กลายเป็นกลุ่มสินทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนมหาศาล

ขณะที่ เดวิด แลนด์ และ มิตช์ เทนเซอร์ จาก Ziffren Brittenham LLP ทนายความของทิมเบอร์เลคกล่าวว่า “ผลงานเพลงอันน่าทึ่งของจัสตินจะไปอยู่รวมกับผลงานเพลงที่น่าอัศจรรย์ใจของศิลปินคนอื่น ๆ ที่ Hipgnosis เป็นเจ้าของอยู่ ซึ่งเรารู้ว่าจะทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ที่ดีในผลงานของเขา

สำหรับผลงานของทิมเบอร์เลคจะถูกจัดเป็นกลุ่มสินทรัพย์ระดับสูงที่มีมูลค่ามหาศาลที่ถือครองโดย Hipgnosis 

“ผลงานเหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นเพลงที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมและประสบความสำเร็จในช่วง 25 ปีที่ผ่านมาเท่านั้น แต่มันจะยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกหลายต่อหลายทศวรรษข้างหน้า” เมอร์คิวเรียดิส กล่าว พร้อมทิ้งท้ายว่า “ผมอยากให้จัสตินภูมิใจที่ได้ยืนอยู่ข้างไนล์ ร็อดเจอร์ส และผมอยากให้ไนล์ ร็อดเจอร์สภูมิใจที่ได้ยืนอยู่ข้างนีล ยัง และผมต้องการให้นีล ยังภูมิใจที่ได้ยืนอยู่ข้างคริสซี่ ฮินเด เหมือนที่ผมต้องการคริสซี่ ฮินเด ภูมิใจที่ได้ยืนอยู่ข้างทิมเบอร์แลนด์"

 

ที่มา: Bloomberg, CNN, The Wall Street Journal