“BTS” อาจได้ผ่อนผันเกณฑ์ทหารต่อ หลังสร้างชื่อกระหึ่มโลก!

“BTS” อาจได้ผ่อนผันเกณฑ์ทหารต่อ หลังสร้างชื่อกระหึ่มโลก!

สมาชิกบอยแบนด์วง “BTS” อาจได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารต่อไปอีก หลังจากพี่ใหญ่ของวง “JIN” (จิน) มีอายุครบ 30 ปี ซึ่งครบกำหนดผ่อนผันช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ชื่อเสียงของวงกำลังพุ่งถึงจุดพีค

ก่อนหน้านี้ในปี 2563 รัฐสภาเกาหลีใต้ผ่านกฎหมายอนุญาตให้ ศิลปิน K-POP ชาย ของเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในระดับโลก สามารถเลื่อนการเกณฑ์ทหารได้ จนถึงอายุ 30 ปี ซึ่งกฎหมายนี้ถูกผลักดันมาหลังจากวง “BTS” สามารถพาเพลง “Dynamite” ขึ้นอันดับ 1 บน “BillBoard Hot 100” ชาร์ตจัดอันดับเพลงฮิตของสหรัฐได้สำเร็จ และทำให้เพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในเพลงที่โด่งดังที่สุดในปี 2563 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นทำให้ BTS ขึ้นมาเป็นศิลปินที่รู้จักไปทั่วโลก ไม่ว่าจะปล่อยเพลงอะไรออกมาก็ประสบความสำเร็จทั้งสิ้น

กฎหมายดังกล่าวออกมาในช่วงใกล้วันเกิดของ “คิม ซอกจิน” หรือ “จิน” (JIN) ที่กำลังจะมีอายุครบ 28 ปีพอดีในปีนั้น ทำให้เขาได้รับการผ่อนผันการเกณฑ์ไปในทันที จนทำให้หลายคนขนานนามกฎหมายนี้ว่าเป็น “กฎหมาย BTS” ซึ่งกฎหมายนี้กลายเป็นที่พูดถึงอีกครั้งในปีนี้ เนื่องจากจินกำลังจะมีอายุครบ 30 ปี ในปีนี้ นั่นหมายความว่า เขาจะต้องเข้าไปรับใช้ชาติเป็นเวลาประมาณ 2 ปี ในขณะที่กำลังขึ้นสู่จุดสูงสุดในเส้นทางการเป็นศิลปิน

ผู้ชายเกาหลีใต้ทุกคนต้องเป็นทหาร

แม้ว่าในตอนนี้ สภาพบ้านเมืองของเกาหลีใต้จะยังอยู่ในความสงบ ไม่ได้มีสงครามสู้รบใคร แต่ในทางเทคนิคแล้ว เกาหลีใต้กับเกาหลีเหนือยังคงอยู่ในภาวะสงครามกันอยู่ มีเพียงแต่การลงนามในสัญญาหยุดยิงกันตั้งแต่ปี 2496 เท่านั้น ซึ่ง 2 ประเทศมีการพยายามกระชับความสัมพันธ์กันอยู่เรื่อยมา อย่างเช่นครั้งล่าสุดในปี 2561 ที่ “มุน แจอิน” ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และ “คิม จองอึน” ผู้นำสูงสุดเกาหลีเหนือ ประกาศความร่วมมือในการสร้างอนาคตใหม่ของสองเกาหลี และร่วมลงนามในข้อตกลงหลายฉบับในกรุงเปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ

เมื่อประเทศยังอยู่ในภาวะสงคราม จึงทำให้ผู้ชายเกาหลีทุกคนที่มีสมรรถภาพร่างกายแข็งแรงตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไปต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร โดยสามารถผ่อนผันตามเหตุสมควรได้จนถึงอายุ 28 ปี แต่สำหรับศิลปิน K-POP ชายที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จในระดับโลกนั้นสามารถผ่อนผันได้ถึงอายุ 30 ปี ตามกฎหมายฉบับใหม่ เดิมทีรัฐบาลเกาหลีใต้ให้สิทธิดังกล่าวเฉพาะนักกีฬาที่ได้รับรางวัลระดับนานาชาติ เช่น โอลิมปิก หรือ เอเชียนเกมส์ และนักดนตรีคลาสสิกชาวเกาหลีใต้ที่มีชื่อเสียงระดับโลกเท่านั้น

เกณฑ์ทหารอาจไม่ใช่การรับใช้ชาติแค่วิธีเดียว

“ถึงเวลาในการสร้างระบบใหม่ที่ควบรวมศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยผนวกกับตัวศิลปินเข้าไว้ด้วยกัน” ฮวังฮี (Hwang Hee) รัฐมนตรีว่าการกระทวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวแห่งเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมตั้งเป้าผลักดันกฎหมายใหม่ที่มีเนื้อหาอนุญาตให้ศิลปินและนักแสดงชายสามารถรับใช้ประเทศโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในกองทัพ

“ในเมื่อการผ่อนผันการเกณฑ์ทหารนี้มีขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีทักษะโดดเด่น ได้ใช้ความสามารถและศักยภาพของพวกเขา สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศมากขึ้นไปอีก ดังนั้น ผู้คนในวงการ K-POP และสายศิลปวัฒนธรรมต่าง ๆ ก็ควรได้รับสิทธิ์นี้เช่นกัน ใครสักคนควรเป็นกระบอกเสียงในช่วงที่มีการถกเถียงกันถึงข้อดีและข้อเสียของการเข้ากรมของสมาชิก BTS

เรื่องนี้กลายเป็นข้อถกเถียงในวงกว้างของเกาหลีใต้ แน่นอนว่าถูกต่อต้านจากกลุ่มผู้ชายหลายคนที่เคยผ่านการรับราชการทหารภาคบังคับโดยที่ไม่ได้เต็มใจ นอกจากนี้ ร่างกฎหมายฉบับใหม่มีแนวโน้มว่าจะถูกคัดค้านจากกระทรวงกลาโหมอีกด้วย เนื่องจากปัจจุบันเกาหลีใต้กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย และขาดแคลนประชากรชายวัยฉกรรจ์ที่เป็นกองกำลังหลักในการปกป้องประเทศ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น จากการรุกรานของเกาหลีเหนือที่มีอาวุธนิวเคลียร์ครบมือ

นี่จึงเป็นหน้าที่ของฮวังฮีในการเกลี่ยกล้อมให้รัฐสภาและกองทัพเห็นว่า ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น วงการ K-POP ซีรีส์ และภาพยนตร์ ตลอดจนอาหารและเครื่องสำอางก็มีความสำคัญต่อประเทศชาติไม่แพ้กัน

ฮวังฮียังระบุอีกว่า การบังคับศิลปิน K-POP ที่กำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก ให้หยุดงานเพื่อมารับราชการทหาร จะทำให้เกิดการสูญเสียครั้งใหญ่ ไม่ใช่เพียงแค่ในอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้เท่านั้น แต่จะกระทบไปทั่วโลก

 

BTS สำคัญอย่างไรกับเกาหลีใต้

BTS กลายเป็นศิลปินกลุ่มแรกจากเกาหลีใต้ที่มีเพลงขึ้นที่ 1 ของ Billboard Hot 100 ที่เป็นชาร์ตเพลงฮิตของสหรัฐ โดย

ปัจจุบัน BTS มีเพลงที่สามารถขึ้นอันดับ 1 ของ Billboard Hot 100 ทั้งสิ้น 6 เพลง คือ

  1. Dynamite
  2. Savage Love (Laxed – Siren Beat) (BTS Remix)
  3. Life Goes On
  4. Butter
  5. Permission to Dance
  6. My Universe ที่ร่วมงานกับ Coldplay วงร็อคจากอังกฤษ

ส่วนในเกาหลีใต้ BTS ก็สามารถขึ้นที่ 1 ได้ในทุกชาร์ต และกวาดรางวัลจากทุกเวที

ในปีที่แล้ว BTS มีเพลงฮิตอย่าง “Butter” ที่สามารถครองอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Hot 100 นานถึง 10 สัปดาห์ และได้เข้าชิงรางวัลแกรมมี อวอร์ด (Grammy Awards) ในสาขา การแสดงเพลงป๊อปดูโอหรือกลุ่มยอดเยี่ยม (Best Pop Duo or Group Performance) ทำยอดขายไปได้ 7.4 ล้านชุด 

นอกจากนี้ คอนเสิร์ต “2021 Permission To Dance On Stage” BTS ที่ลอสแองเจลิส ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ มีผู้เข้าชมกว่า 210,000 คน ทำรายได้ให้แก่ต้นสังกัด “ไฮบ์ คอร์ปอเรชัน” (HYBE Corporation) กว่า 40,000 ล้านวอน ซึ่งเมื่อรวมยอดขายจากการสตรีมมิงออนไลน์ แล้ว นับว่าเป็นยอดขายสูงสุดเท่าที่เคยมีมา ส่งผลให้ ไฮบ์ กลายเป็นบริษัทแรกในวงการ K-POP ที่สามารถทำรายได้ต่อปีเกินกว่า 1 ล้านล้านวอน 

สำหรับในปีนี้ BTS กลับมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ที่ใช้ชื่อว่า “Proof” มีกำหนดวางแผงวันที่ 10 มิ.ย.นี้ อัลบั้มนี้จะเป็นอัลบั้มรวมเพลง (Anthology) ประกอบไปด้วยซีดี 3 แผ่น ที่รวบรวมความเป็นมาของ BTS ตลอดจนการระลึกถึงคุณค่าของผลงานเพลงที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมี 3 เพลงใหม่ ที่สะท้อนความคิดของสมาชิกวงที่มีต่ออดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ BTS โดยซิงเกิ้ลหลักของอัลบั้มจะใช้ชื่อว่า “Yet To Come (The Most Beautiful Moment)

จะเห็นได้ว่า BTS กลายเป็นศิลปินระดับโลก อยู่ในจุดที่ศิลปิน K-POP ไม่มีใครไปถึง และกำลังได้รับความนิยมจนถึงขีดสุด การที่สมาชิกวงแม้แต่เพียงคนเดียวต้องไปรับใช้ชาติด้วยการรับเข้าราชการทหาร (แม้สมาชิกจะเคยประกาศว่าเต็มใจจะเกณฑ์ทหารก็ตาม) ก็ถือเป็นความเสียหายทางธุรกิจ เพราะศิลปินสามารถสร้างมูลค่าได้อีกมาก และไม่มีใครรับประกันได้ว่าเมื่อกลับออกมาแล้ว ศิลปินจะยังมีกระแสเหมือนเดิม หรือจะต้องมาเริ่มต้นนับ 1 กันใหม่ คงต้องรอดูกันต่อไปว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร



 

ที่มา: AljazeeraBBC, Rolling StoneSouth China Morning PostVariety, Workpoint Today