“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว 9 เขื่อนไทย ชมทัศนียภาพอันงดงาม ใครที่ยังไม่วางแพลนเที่ยววันหยุดยาวเดือนพฤษภาคม เก็บไว้เป็นทริปที่ควรไป

หยุดยาวเดือนพฤษภา ไม่รู้จะไปไหน หรือใครที่ยังไม่วางแพลนสำหรับทริปต่างประเทศ อาจจะลองหันมาดูทริปในประเทศแทนไปก่อน โดยเฉพาะรูทการท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ไม่ค่อยถูกพูดถึงเท่าไหรคือ “เที่ยวเขื่อน” โดยหน้าที่หลักของเขื่อนคือ 1. เก็บกักน้ำไว้เพื่อการเกษตรในฤดูแล้ง 2. ผลิตกระแสไฟฟ้า 3. ป้องกันน้ำท่วม นอกจากประโยชน์เหล่านี้แล้ว เขื่อนยังมีทัศนียภาพที่สวยงามเหมาะแก่การท่องเที่ยว ชมธรรมชาติ หรือแม้แต่ชื่มชมกำแพงกันน้ำอันมหึมา ที่เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีที่เกิดจากฝีมือมนุษย์ด้วย

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ แนะนำ 9 เขื่อนน่าเที่ยว พร้อมช่วงเวลาไปที่เหมาะสม ชมน้ำ ดูฟ้าให้ฟินเหมือนขึ้นสวรรค์

 

“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

  • 1.เขื่อนภูมิพล จ.ตาก

เขื่อนอเนกประสงค์คอนกรีตโค้งเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนแหล่งน้ำให้เกษตรกร เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า ที่ใหญ่มาก เป็นเขื่อนโค้งสูงติดอันดับที่ 27 ของโลก เป็นจุดชมวิวเดินเล่นริมสันเขื่อน ล่องแพในอ่างเก็บน้ำ เดินป่าศึกษาธรรมชาติสองฝั่งลำน้ำปิง ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ตื่น

ไฮไลท์รอบเขื่อน

  • เขื่อนแม่ปิงตอนล่าง
  • สวนเฉลิมพระเกียรติ
  • “ต้นสัก” ทรงปลูก
  • ตลาดลานโพธิ์
  • เขาคิชฌกูฎผาหินตัด
  • วัดพระบรมธาตุแก่งสร้อย
  • วัดพระพุทธบาทเขาหนาม
  • เกาะวาเลนไทน์
  • เขาคันเบ็ด
  • ถ้ำโยคี

 

“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

  • 2.เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์

เขื่อนดินที่สร้างกั้นแม่น้ำน่าน ที่ผาซ่อม เหนือเขื่อนเป็นทะเลสาบใหญ่ชื่อ สุริยันจันทรา มีทิวทัศน์สวยงาม บริเวณเขื่อนมีจักรยานให้เช่า หรือเช่าเรือท่องทะเลสาบเหนือเขื่อน มีสนามกอล์ฟ บ้านพักไว้บริการ

ไฮไลท์รอบเขื่อน

  • อนุสาวรีย์พระยาพิชัยดาบหัก ตั้งอยู่หน้าศาลากลางจังหวัดอุตรดิตถ์
  • หลวงพ่อเพ็ชร วัดท่าถนน
  • วัดพระแท่นศิลาอาสน์
  • อำเภอลับแล ห่างจากตัวเมือง 6 กิโลเมตร เป็นอำเภอที่มีชื่อเสียงในการทำไม้กวาดตองกง ผ้าซิ่นตีนจกทอฝีมือละเอียด และลางสาดรสหวาน
  • วนอุทยานต้นสักใหญ่ อยู่อำเภอน้ำปาด มีต้นสักใหญ่ที่สุดในโลกอายุ 1,500 ปี
  • บ่อเหล็กน้ำพี้ มีบ่อเหล็กกล้าชั้นดีหลายบ่อ แต่มีบ่อหนึ่งชื่อ “บ่อพระแสง” ซึ่งสงวนไว้ใช้ทำพระแสงดาบสำหรับพระมหากษัตริย์เท่านั้น
  • พระบรมธาตุเจดีย์ หรือพระธาตุทุ่งยั้ง

“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

  • 3.เขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี

เขื่อนอเนกประสงค์หินถมดาดผิวด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก สร้างปิดกั้นแม่น้ำน้อย เพื่อประโยชน์ด้านชลประทาน ผลิตไฟฟ้า นักท่องเที่ยวนิยมมาล่องแพ มีน้ำตกไดช่องถ่อง สะพานมอญ เมืองบาดาล นั่งเรือชมเกาะมะพร้าวกะทิ 

ไฮไลท์รอบเขื่อน

  • สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาบรมราชินีนาถ ตั้งอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงปากทางเข้าเขื่อน หากมองจากภาพมุมสูง จะเห็นเป็นลายเสื่อกระจูดและลายผ้าตีนจก
  • สันเขื่อนวชิราลงกรณ์ ชมทะเลสาบน้ำจืดแห่งภาคตะวันตก โดยเปิดบริการให้นักเที่ยวมาเที่ยวชมฟรี ระหว่างเวลา 06.00-18.00น.
  • จุดถ่ายภาพทุ่งดอกทานตะวัน ตั้งอยู่ซ้ายมือก่อนถึงโรงไฟฟ้า มีที่จอดรถสะดวกสบาย และสามารถถ่ายรูปเห็นข้อความภาษาอังกฤษขนาดใหญ่ซึ่งเป็นชื่อเขื่อนวชิราลงกรณ์ได้อย่างชัดเจน

 

“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

4.เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี

เขื่อนหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สร้างบนแม่น้ำแควใหญ่เพื่อประโยชน์ด้านชลประทาน ผลิตไฟฟ้า ผลักดันน้ำเค็ม การประมง บริเวณสันเขื่อน มีมุมถ่ายรูปมากมาย มีรีสอร์ท แพริมเขื่อน มาเปิดใกล้ ๆ

ไฮไลท์รอบเขื่อน

  • สวนเวลารำลึก สร้างขึ้นในศุภมงคลสมัยที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงเจริญพระชนมายุ 90 พรรษา บนเนื้อที่ 30 ไร่ บริเวณเชิงเขาริมอ่างเก็บน้ำ ใกล้ท่าเรือเขื่อนศรีนครินทร์
  • นาฬิกาแดดและวิธีการอ่าน นาฬิกาแดดเป็นประติมากรรมสร้างขึ้นด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก วัดตามแนวโค้งยาว 23.80 เมตร ส่วนกว้างที่สุด 9.95 เมตร ส่วนแคบที่สุด 6.25 เมตร หนา 0.80 เมตร เข็มรับแสงอาทิตย์ทำให้เกิดเงา หล่อด้วยโลหะผสมขนาดยาว 6.5 เมตร กว้าง 1 เมตร ตั้งหันหน้าลงทิศใต้ แผ่นหน้าปัดเอียง 28.6 องศาที่เส้นรุ้ง 140 24' 32" เหนือ เส้นแวง 99 7' 36" ตะวันออก บนผิวหน้าปัดปิดด้วยกระเบื้องเคลือบ สีเทาขาวประกอบด้วยสัญลักษณ์และอักษรย่อบอกเดือนต่างๆ

เส้นสีน้ำเงินแก่บอกเดือนมกราคม - มิถุนายน

เส้นสีน้ำเงินอ่อนบอกเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม

เส้นสีแดงเข้มบอกเวลาของเดือนมกราคม - มิถุนายน

เส้นสีเหลืองบอกเวลาของเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม

ตัวเลข 07.00 น. ถึง 18.00 น. ปลายเส้นสีแสด และสีส้ม บอกชั่วโมงเงาจากปลายเข็มจะทาบลง ที่พื้นหน้าปัดให้ดูเวลาเดือน และฤดูกาลตามเส้นทางต่างๆ

 

“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

 

  • 5.เขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี

เขื่อนดินอเนกประสงค์ สร้างกั้นแม่น้ำลำโดมน้อย ต. คันไร่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี เพื่อผลิตไฟฟ้า เป็นแหล่งประมง แหล่งท่องเที่ยว มีสวนสิรินธร เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เมื่อ เป็นสวนพฤกษศาสตร์ มีพันธุ์ไม้ดอกสีม่วงอยู่ทั่วสวน

ไฮไลท์รอบเขื่อน

สามารถแวะชมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงภายในจังหวัดอุบลราชธานีได้อีกหลายแห่ง เช่น วัดสิรินธรวราราม (วัดภูพร้าว) แก่งสะพือ แก่งตะนะ น้ำตกตาดโตน แม่น้ำสองสีหรือดอนด่านปากน้ำมูล น้ำบุ้น และผาแต้ม

 

  • 6.เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

เป็นเขื่อนอเนกประสงค์แห่งที่สองของประเทศไทย ที่สร้างขึ้นต่อจากเขื่อนภูมิพล กั้นแม่น้ำพองที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เพื่อเป็นแหล่งน้ำทำการเกษตร แหล่งผลิตไฟฟ้า แหล่งประมงน้ำจืด มีผลิตภัณฑ์ปลาแปรรูปเป็นสินค้าขึ้นชื่อ

ไฮไลท์รอบเขื่อน

ก่อนเดินทางเข้าเขื่อน สามารถแวะชมสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เช่น พระธาตุขามแก่น วัดพระบาท ภูพานคํา พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติขอนแก่น บึงแก่นนครอุทยานแห่งชาติ ภูเก้า-ภูพานคํา และอําเภอชนบท ซึ่งมีการ ทอผ้าไหมพื้นเมือง “ซิ่นมัดหม่ี” ที่มีช่ือเสียงมาก

 

“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

  • 7.เขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ

สร้างขึ้นเพื่อผลิตไฟฟ้าและชลประทาน เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืด เป็นศูนย์ทดลองพืชเมืองหนาว มีหอดูดาว มีบ้านพัก ร้านอาหาร เรือล่องชมอ่างเก็บน้ำ

ไฮไลท์รอบเขื่อน

จากการที่บริเวณรอบ ๆ เขื่อนจุฬาภรณ์ เป็นพื้นที่ที่มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ สภาพอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เป็นศูนย์รวมของสถานที่ท่องเที่ยวทั้งภายในพื้นที่และบริเวณใกล้เคียงเขื่อนจุฬาภรณ์ ที่มีเส้นทางการเดินทางสะดวก ปลอดภัย นอกจากนี้ การเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ในจังหวัดชัยภูมิ มีระยะทางไม่ไกลเมื่อเริ่มต้นเดินทางจากเขื่อนจุฬาภรณ์ จึงมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม เฉลี่ยปีละไม่น้อยกว่า 800.000 คน หากนับตั้งแต่ปี 2516 จนถึงปัจจุบัน

  • พระพุทธสิริสัตตราชจำลอง (หลวงพ่อเจ็ดกษัตริย์) ประดิษฐานที่บริเวณหัวเขื่อนฝั่งซ้าย พระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพนับถือของ
  • พืชโบราณ 325 ล้านปี เป็นพืชตระกูลหญ้ามี 2 สายพันธุ์ คือ สามร้อยยอด และสนหางม้า หรือหญ้าถอดปล้อง
  • ศาลาชมวิวหลุบควน (ทะเลหมอก) เป็นจุดชมวิวอยู่ที่ระดับความสูง 800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง
  • ทุ่งกะมัง อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขียว ห่างจากเขื่อนจุฬาภรณ์ประมาณ 30 กิโลเมตร
  • สถานีวิจัยการเพาะเลี้ยงพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว อยู่ห่างจากเขื่อนจุฬาภรณ์ประมาณ 7 กิโลเมตร
  • สวนรุกขชาติน้ำผุดทับลาว อยู่ห่างจากเขื่อนจุฬาภรณ์ประมาณ 35 กิโลเมตร
  • ถ้ำค้างคาวภูผาม่าน อยู่ในเขตอำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ห่างจากเขื่อนจุฬาภรณ์ 54 กิโลเมตร
  • อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่บริเวณเทือกเขาพังเหย ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ห่างจากเขื่อนจุฬาภรณ์ 260 กิโลเมตร โดยมีสถานที่ที่สวยงามมากมาย เช่น ป่าหินงามจันทร์แดง และทุ่งดอกกระเจียวบริเวณป่าหินงาม ทุ่งโขลงช้าง เป็นต้น
  • ป่าหินงามจันทร์แดง เป็นลานหินกว้างที่มีก้อนหินรูปร่างลักษณะแปลกพิสดารต่างๆ จำนวนมมาก โดยมีต้นจันทร์แดงเจริญเติบโตบนโขดหินก้อนใหญ่โดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่
  • ทุ่งดอกกระเจียวบริเวณป่าหินงามทุ่งโขลงช้าง ตามซอกหินสลับกับต้นไม้นานาชนิด มีทั้งดอกสีชมพูและสีขาว รวมทั้งผากล้วยไม้ที่หน้าผาสูงลดหลั่นตามลำดับ โดยมีกล้วยไม้พันธุ์หายากหลายชนิด ขึ้นเป็นจำนวนมากตลอดผา
  • อุทยานแห่งชาติไทรทอง ตั้งอยู่ที่บ้านวังน้ำเขียว ตำบลวังตะเฆ่ อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ ห่างจากเขื่อนจุฬาภรณ์ 230 กิโลเมตร โดยมีสถานที่ที่สวยงามมากมาย เช่น น้ำตกไทรทอง น้ำตกชวนชม ผาพ่อเมือง ผาหำหด ทุ่งบัวสวรรค์ หรือทุ่งดอกกระเจียว เป็นต้น
  • มอหินขาว ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา บริเวณบ้านวังคำแคน ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมืองชัยภูมิ ห่างจากเขื่อนจุฬาภรณ์ 114 กิโลเมตร มีลักษณะเป็นหินก้อนใหญ่แปลกตา หาดูยาก รูปร่างคล้ายเห็ด เรือ ช้าง เต่า และเจดีย์ กระจายอยู่ทั่วไปบนเนินเขาสูงและยังมีเสาหินใหญ่ตั้งเรียงรายเป็นแถว นอกจากนี้ยังเป็นจุดชมวิวป่าหินปราสาท จุดชมวิวลานหินร่องกล้า ผาแพ เขาขาด และแม่น้ำชี เป็นต้น

 

 

“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

  • 8.เขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี

บรรยากาศสวยงาม เงียบสงบ รายล้อมด้วยภูเขาหินปูน ตั้งฉากกับผืนน้ำสีเขียวมรกต ยามที่อากาศเย็นจะมีไอหมอกออกมาปกคลุมสลับกับขุนเขาสีเขียวสด

ไฮไลท์รอบเขื่อน

  • พระบรมธาตุไชยา ที่วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร อำเภอไชยา ก่อนถึงตัวเมืองประมาณ 54 กิโลเมตร เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสร้างในสมัยศรีวิชัย เมื่อประมาณ 1200 ปีมาแล้ว
  • สวนโมกขพลาราม หรือวัดธารน้ำไหล อยู่ก่อนถึงตัวเมืองประมาณ 50 กิโลเมตรเป็นสำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ในอุทยานที่สวยงามตามธรรมชาติและสงบร่มรื่น เหมาะแก่การวิปัสสนาธรรม มีศาลารวมธรรมประมวลภาพบทกวี และคติธรรมไว้จำนวนมากซึ่งเรียกว่า "โรงมหรสพแห่งวิญญาณ"
  • อุทยานแห่งชาติเขาสก จากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ใช้เส้นทางสายสุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า (หมายเลข 401) ถึงกิโลเมตรที่ 109 มีแยกขวามือเข้าที่ทำการอุทยานประมาณ 1.5 กิโลเมตร สภาพทั่วไปเป็นป่าทึบครอบคลุมพื้นที่กว่า 400,000 ไร่ ภายในบริเวณมีน้ำตก และถ้ำหลายแห่ง มีบริการบ้านพักสำหรับค้างแรม
  • เกาะสมุย มีเนื้อที่ 247 ตารางกิโลเมตร มีหมู่เกาะใหญ่น้อยเรียงรายโดยรอบประมาณ 53 เกาะ เรียกว่า "อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง" เกาะสมุยอยู่ห่างจากอำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานีราว 84 กิโลเมตร เดินทางโดยเรือเร็วประมาณ 3 ชั่วโมง หรือประมาณ 2 ชั่วโมงโดยเรือเฟอรี่
  • อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง ห่างจากเกาะสมุย ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20 กิโลเมตร เป็นหมู่เกาะที่มีความสวยงาม อุดมไปด้วยทรัพยากรทางทะเล เช่นปะการัง การเดินทางไปยังอุทยาน จากเกาะสมุยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที
  • วัดถ้ำสิงขร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำพุมดวง ตำบลถ้ำสิงขร อำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นวัดโบราณเก่าแก่มากวัดหนึ่ง สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปนั่งประทับห้อยพระบาทขนาดใหญ่ และวัตถุโบราณหลายสมัย บริเวณรอบๆ เจดีย์และผนังถ้ำมีถ้วยชามสังคโลกจำนวนมากมายฝังอยู่
  • เขาหน้าแดง อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพนม ประมาณ 4 กิโลเมตร จากเขาหน้าแดงท่านสามารถมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างได้ไกล และบนเขานี้ยังมีน้ำตกที่สวยงามอีกด้วย

 

“เที่ยวเขื่อน” 9 เขื่อนไทย พร้อมไฮไลท์เที่ยวรอบเขื่อนให้ฟินแบบขึ้นสวรรค์

  • 9.เขื่อนบางลาง จ.ยะลา

เขื่อนอเนกประสงค์แห่งแรกของภาคใต้ กั้นแม่น้ำปัตตานี เป็นเขื่อนหินถมแกนดินเหนียว เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้า แหล่งน้ำชลประทาน แหล่งปลาน้ำจืด เป็นสถานที่ท่องเที่ยว มีสวนสาธารณะทันสมัยและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ภายในมีทะเลสาบและสนามกีฬา

ไฮไลท์รอบเขื่อน

แม้ว่ายะลาจะเป็นจังหวัดเดียวในภาคใต้ ที่ไม่มีอาณาเขตติดต่อกับทะเลเลย แต่ยะลาก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามตามธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย อาทิ

  • ศาลหลักเมืองยะลา ตั้งอยู่ที่กลางวงเวียนหน้าศาลากลางจังหวัด เป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดยะลา และทุกๆปีทางจังหวัดได้จัดให้มีงานสมโภชเจ้าพ่อหลักเมืองในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม นับเป็นงานเทศกาลประจำปี ที่ยิ่งใหญ่งานหนึ่งของภาคใต้
  • สวนสาธารณะสนามช้างเผือก ตั้งอยู่กลางใจเมืองยะลาในเนื้อที่ 80 ไร่ ร่มรื่นไปด้วยดอกไม้ประดับนานาชนิด มีสระน้ำใสสะอาดและศาลากลางน้ำ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของประชาชนทั่วไป
  • สวนขวัญเมือง เป็นสวนสาธารณะที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในภาคใต้ ภายในบริเวณสวนมีทั้งทะเลสาบและสนามกีฬา
  • วัดคูหาภิมุข ชาวบ้านเรียกว่า "วัดหน้าถ้ำ" อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 6 กิโลเมตรภายในวัดนี้มีถ้ำใหญ่อยู่แห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่ประดิษฐ์ฐานพระพุทธไสยาสน์ขนานใหญ่สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยศรีวิชัย รุ่งเรื่องราว พ.ศ. 1300 นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีหินงอกหินย้อยและน้ำใสสะอาดไหลรินจากโขดหินแลดูสวยงามยิ่งนัก
  • น้ำตกธารโต อยู่บนเส้นทางสายยะลา-เบตง ห่างจากตัวเมืองยะลาประมาณ 60 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก บรรยากาศร่มรื่นมากเหมาะแก่การพักผ่อนลักษณะภูมิประเทศแถบนี้งดงามล้วนลอมรอบไปด้วยภูเขาใหญ่ น้ำตกไหลพลิ้วลงมาจากยอดเขาเป็นชั้นๆถึง 3 ชั้น
  • บ่อน้ำร้อน อยู่ที่ตำบลตาเนาะแมเราะ ห่างจากที่ว่าการอำเภอเบตงเพียง 10 กิโลเมตร เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่มีน้ำพุเดือดขึ้นมาจากพื้นดิน มีผู้นิยมไปเที่ยวพักผ่อนและอาบน้ำแร่เป็นจำนวนมาก
  • อำเภอเบตง มีฉายาว่า "เมืองในหมอกและดอกไม้งาม" เป็นเมืองชายแดนที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุดแห่งหนึ่ง อยู่ห่างจากตัวเมืองยะลา ประมาณ 126 กิโลเมตร เป็นเมืองที่ผสมผสานวัฒนธรรมของ ผู้คนต่างเชื้อชาติ ศาสนา และภาษาไว้อย่างกลมกลืนเหมาะเจาะ เบตงเป็นอำเภอที่มีความเจริญ เป็นที่ตั้งของตู้ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีถนนเชื่อมโยงไปสู่เขตสหพันธรัฐมาเลเซียด้วย
  • หมู่บ้านซาไก อยู่ในพื้นที่อำเภอธารโต ห่างจากตัวเมืองยะลาประมาณ 80 กิโลเมตร บนเส้นทางสายยะลา-เบตง เป็นที่อยู่ของชนเผ่าพื้นเมืองที่เราเรียกว่า "เงาะ" หรือ "ซาไก" นับเป็นชนเผ่าพื้นเมืองดั้งเดิม เพียงเผ่าเดียวที่ยังหลงเหลืออยู่และดำรงชีวิตแบบดั้งเดิมที่น่าศึกษายิ่งนัก
  • ป่าบาลา-ฮาลาหรือป่าพรหมจารี เป็นผืนป่าสุดท้ายที่ใหญ่ที่สุดที่ยังหลงเหลือในแผ่นดินขวานทองนี้ มีพื้นที่ครอบคลุมสองจังหวัดคือ อำเภอสุคิริน อำเภอจะแนะ อำเภอศรีสาคร อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส และอำเภอบันนังสตา อำเภอธารโต อำเภอเบตง จังหวัดยะลา ป่าบาลา-ฮาลา เป็นป่าดงดิบชื้น ลักษณะทั่วไปเป็นป่าเขาสูงขึ้นสลับซับซ้อนติดต่อกัน ในอดีตผืนป่าแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นไอของการต่อสู้ทำให้น้อยคนที่จะไปสัมผัส กับความงามของธรรมชาติที่ซ่อนเร้นอยู่ ปัจจุบันป่าบาลา-ฮาลา แห่งนี้ยังคงรักษาความงามของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ไว้เพื่อรอคอยผู้ที่แสวงหาได้สัมผัสแหล่งทัศนียภาพที่หลากหลายและสวยงาม
  • ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง เป็นจุดชมทิวทัศน์มีทะเลหมอกให้ชมทุกเช้า และสามารถชมได้ตลอดปี เส้นทางในการเดินทางเป็นถนนลาดยางใกล้ถนนสาย 410 บริเวณ กม.33 ทางเข้าหมู่บ้านธารมะลิ ต.อัยเยอร์เวง จะมีป้ายตลอดทาง
  • เกาะหวด เกาะน้ำจืดขนาดเล็กที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบฮาลาบาลา ใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากท่าเรือตาพะเยา หมู่ที่ 11 ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา ก็ถึงเกาะทวด บนเกาะจะเป็นที่ประดิษฐานหลวงปู่ทวด
  • กิจการเรือแพชมอ่างเก็บน้ำเขื่อนบางลางและป่าบาลา-ฮาลา เป็นกิจการของชุมชนรอบๆเขื่อนบางลาง

 

---------------------------------------

อ้างอิง : การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย