ฝุ่น PM 2.5 รู้ทันสัญญาณเตือนก่อน “ปอด”พัง  มีอาการรีบพบแพทย์

ฝุ่น PM 2.5 รู้ทันสัญญาณเตือนก่อน “ปอด”พัง  มีอาการรีบพบแพทย์

สถาบันโรคทรวงอก เตือนประชาชนระวังผลกระทบจากฝุ่น PM 2.5 ที่พบอาการผิดปกติ เช่น ไอเรื้อรัง ระคายเคืองตา คัดจมูก แน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก หรือมีผื่นแดงบนผิวหนัง ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้น

นพ.ธนินทร์ เวชชาภินันท์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ฝุ่น PM 2.5 เป็น ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน สามารถลอยอยู่ในอากาศและเข้าสู่ร่างกายผ่านการหายใจได้โดยง่าย หากได้รับต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจะสะสมในระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลมและถุงลมปอด อาจก่อให้เกิดโรคเรื้อรัง เช่น โรคหอบหืด โรคถุงลมโป่งพอง โรคหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอดในระยะยาว

ด้าน นพ.ศักรินทร์ กังสุกุล อายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดและทางเดินหายใจ สถาบันโรคทรวงอกกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยขนาดที่เล็กมากของ PM 2.5 ทำให้สามารถลงลึกถึงเนื้อปอดและบางส่วนอาจเข้าสู่กระแสเลือดได้ กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวด้านระบบทางเดินหายใจและหัวใจ

ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะจะส่งผลให้เกิดการอักเสบเรื้อรังและกระทบต่อการทำงานของหัวใจ ทำให้ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคถุงลมโป่งพองหรือโรคหอบหืด อาจมีอาการกำเริบ เช่น ไอมากขึ้น หายใจติดขัด หรือเสมหะเปลี่ยนสี ผู้ป่วยควรใช้ยาประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะยาพ่นสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ควรพกยาไว้ติดตัวในช่วงที่ค่าฝุ่นสูง

สำหรับการป้องกันที่สามารถทำได้ทันที คือ ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งในวันที่ค่าฝุ่นสูง หากจำเป็นต้องออกนอกบ้านควรสวมหน้ากากอนามัยชนิด N95 หรือหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ 2 ชั้น เพื่อลดการรับฝุ่นเข้าสู่ร่างกาย รวมถึงปิดประตูหน้าต่าง ลดฝุ่นภายในบ้าน ใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีแผ่นกรอง HEPA filter และติดตามข้อมูลคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิดผ่านช่องทางที่เชื่อถือได้ เพื่อป้องกันอันตรายจาก ฝุ่น PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ