รับมือฝุ่นพิษ PM 2.5 ใช้ภูมิปัญญาไทย ช่วยลดผลกระทบสุขภาพ 

รับมือฝุ่นพิษ PM 2.5 ใช้ภูมิปัญญาไทย ช่วยลดผลกระทบสุขภาพ 

 เตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 แนวโน้มพุ่งสูงช่วงฤดูหนาวนี้ แนะดูแลสุขภาพตามศาสตร์ภูมิปัญญาไทย ด้วยสมุนไพร  ลดผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงและผู้มีโรคประจำตัว 

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า "ฝุ่น PM 2.5" เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่สามารถเล็ดลอดผ่านขนจมูกเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบในอวัยวะต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ โรคปอด โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง รวมถึง  ผู้ป่วยโรคผิวหนัง ซึ่งอาจมีอาการกำเริบได้ง่าย  

ทั้งนี้ สมุนไพร ที่มีข้อมูลเชิงประจักษ์สนับสนุนในการช่วยป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากมลพิษทางอากาศ ดังนี้

  • หญ้าดอกขาว บรรเทาการระคายเคืองระบบทางเดินหายใจ ชงดื่มหลังอาหารวันละ 3–4 ครั้ง แต่ควรระวังในผู้ป่วยโรคหัวใจและไต เนื่องจากมีโพแทสเซียมสูง
  • รางจืด เด่นด้านการล้างพิษ ใช้ปริมาณ 2–3 กรัม ชงดื่มวันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร ควรระวังในผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่รับประทานยาอื่นประจำ ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นไข้เลือดออก ผู้ป่วย ตับ ไต ต้องใช้อย่างระมัดระวัง และ ไม่ควรใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน
  • มะขามป้อม อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบและบรรเทาอาการไอ สามารถรับประทานได้ทั้งแบบสด แห้ง หรือชาชง
  • ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คิวมิน ช่วยปกป้องเซลล์ระบบทางเดินหายใจ แนะนำครั้งละ 2 แคปซูล วันละ 3–4 ครั้ง แต่ไม่ควรเกิน  9 กรัมต่อวัน และห้ามใช้กับผู้ที่มีท่อน้ำดีอุดตันหรือมีนิ่วในถุงน้ำดี

นอกจากสมุนไพรดังกล่าวแล้ว ในช่วงนี้อยากแนะนำให้รับประทานอาหาร และเครื่องดื่ม ที่ปรุงจากขิง บัวบก เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันร่างกาย  

ด้านการดูแลผิวหนังในช่วง ค่าฝุ่นสูง ซึ่งมักพบปัญหาอาการแพ้ผิวหนัง ผดผื่น และคัน แนะนำว่า ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการอักเสบ เพิ่มความชุ่มชื้น เช่น ว่านหางจระเข้ บัวบก ส่วนผู้ที่มีอาการผิวหนังอักเสบหรือเป็นลมพิษ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ พลู ขมิ้นชัน หรือโลชั่นพญายอ  

"ในช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 ที่เกินมาตรฐานส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนทั่วไป  ควรงดการทำกิจกรรม หรือการออกกำลังกายกลางแจ้ง ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง รับประทานอาหาร   ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ"นายวรโชติกล่าว