1724 BDMS MEDEVAC Center เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตัวช่วยยามเจ็บป่วย

1724 BDMS MEDEVAC Center  เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตัวช่วยยามเจ็บป่วย

1724 BDMS MEDEVAC Center เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และต้องการส่งต่อการรักษาผู้ป่วยอย่างปลอดภัย ให้นึกถึงเราด้วยทีมแพทย์และพยาบาลมากประสบการณ์ด้านการเคลื่อนย้าย พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทางที่จัดให้เหมาะสมกับแต่ละภารกิจ (Bespoke, Mission-Specific Team) ตามอาการของผู้ป่วยในแต่ละราย

เคยจินตนาการไหมว่า หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน เจ็บป่วยกะทันหัน หรือประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทางท่องเที่ยวไกลบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการไปพักผ่อนในต่างจังหวัด หรือทริปในต่างแดนอย่างญี่ปุ่นหรือฮ่องกง ความกังวลและความสับสนคงถาโถมเข้ามาไม่น้อย จะประสานงานอย่างไร? จะกลับมารักษาตัวที่ไทยได้หรือไม่? สถานการณ์เหล่านี้ คือ สิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น แต่การเตรียมพร้อมและรู้ว่ามี "ที่พึ่ง" ย่อมสร้างความอุ่นใจได้เสมอ

นี่คือจุดที่ "ศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน" (BDMS MEDEVAC Center) ในเครือ โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้เข้ามามีบทบาทในฐานะผู้ช่วยคนสำคัญ ที่จะเปลี่ยนความกังวลให้กลายเป็นความอุ่นใจ ทำให้การส่งต่อผู้ป่วยเพื่อเข้ารับการรักษาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และราบรื่นที่สุด 

"ช้า 1 นาที = 1 ชีวิตที่ต้องเสียไป" เป็นเรื่องที่ไม่เกินจริงสำหรับชีวิตผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน การเคลื่อนย้ายที่รวดเร็ว ถูกต้องจะช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ และยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษา ช่วยให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้ดียิ่งขึ้น

1724 BDMS MEDEVAC Center  เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตัวช่วยยามเจ็บป่วย

เคลื่อนย้ายผู้ป่วยครบวงจร

พญ.บุญธิดา เจริญสวัสดิ์ รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์กับกรุงเทพธุรกิจ ว่า BDMS MEDEVAC Center มีภารกิจหลัก คือการจุดประสานงานศูนย์กลางเพียงจุดเดียว (one-stop solution) ผ่านศูนย์สั่งการ หรือ Command Center ที่บริหารจัดการการส่งต่อและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยแบบครบวงจร โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาอย่างปลอดภัยในโรงพยาบาลที่มีศักยภาพเหมาะสม ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยที่สุด

"BDMS MEDEVAC Center แห่งนี้ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นการยกระดับและจัดระบบกระบวนการที่สั่งสมประสบการณ์มานานหลายปี เพื่อแก้ปัญหาคอขวดด้านการประสานงานและลดขั้นตอนที่ซับซ้อนในการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลในเครือข่ายที่มีอยู่เกือบ 60  แห่ง และโรงพยาบาลพันธมิตรอื่นๆ เพราะในภาวะฉุกเฉิน ทุกนาทีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อผลการรักษา ความชำนาญและความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมานาน จึงเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน"

ฉะนั้น ศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินเปรียบเสมือน "หลักประกัน" ที่ช่วยให้ผู้ป่วยและครอบครัวมั่นใจได้ว่า เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินไกลบ้าน หรือผู้ป่วยฉุกเฉิน ต้องการส่งต่อเคลื่อนย้ายผู้ป่วยสามารถทำได้ แม้จะไม่ใช่ผู้ป่วยของโรงพยาบาลในเครือ BDMS  เราจะมีทีมผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล จัดการทุกอย่างให้ ทั้งนี้ แม้ศูนย์ฯ จะเปิดรับการประสานงานจากทุกโรงพยาบาล แต่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด ของการดูแลเราจะให้ความสำคัญกับผู้ป่วยในเครือข่ายเป็นลำดับแรก เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างทันท่วงทีและราบรื่นที่สุด

1724 BDMS MEDEVAC Center  เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตัวช่วยยามเจ็บป่วย

บริการทั้งทางบก น้ำ อากาศ

พญ.บุญธิดา กล่าวต่อว่าตั้งแต่เปิดศูนย์  BDMS Medevac Center มีการให้บริการผู้ป่วยไปแล้ว 155,000 เคส ซึ่งเป็นสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติและคนไทยประมาณ 50:50 โดยมีภารกิจของการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยทางบก 150,349 เคส ทางอากาศ 3,158 เคส และทางน้ำ 742 เคส (ข้อมูลปี 2017-2024) ซึ่งศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินเปิดให้บริการแก่กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ทั้งคนไทยที่เจ็บป่วยระหว่างเดินทาง หรือผู้ป่วยที่ต้องการเคลื่อนย้ายมารักษาในโรงพยาบาลเครือ BDMS หรือชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยว ทำงาน หรืออาศัยอยู่ในเมืองไทยและประเทศเพื่อนบ้าน และโรงพยาบาลทุกแห่งที่ต้องการส่งต่อผู้ป่วยมารับการรักษา

กระบวนการทำงานของศูนย์ฯ ถูกออกแบบมาให้เป็นระบบและครบวงจร เพื่อให้การตัดสินใจและการปฏิบัติงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมี 4 ขั้นตอนหลักดังนี้ 

  1. การประเมินสถานการณ์โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  เช่น ทางอากาศจะมีแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ที่ผ่านการฝึกอบรม หรือจบจากหลักสูตรเฉพาะทางด้าน "เวชศาสตร์การบิน (Aviation Medicine)"  และเมื่อศูนย์ฯ ได้รับแจ้งเหตุ จะมีแพทย์ประจำศูนย์ฯ ติดต่อประสานงานกับโรงพยาบาลต้นทางทันที เพื่อประเมินอาการและความรุนแรงของผู้ป่วยอย่างละเอียด ทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเพียงพอสำหรับการวางแผนในขั้นตอนต่อไป
  2. วางแผนการเคลื่อนย้ายที่เหมาะสมที่สุด ทีมแพทย์จะวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเลือกรูปแบบการเคลื่อนย้ายที่ปลอดภัยและรวดเร็วที่สุดสำหรับผู้ป่วยแต่ละราย โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายทางอากาศ ซึ่งมี 2 รูปแบบ คือ เฮลิคอปเตอร์ และ เครื่องบินพยาบาล
  3. ประสานงานทุกฝ่ายอย่างครบวงจร ศูนย์ฯ จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ตั้งแต่ครอบครัวและญาติผู้ป่วย, บริษัทประกัน, ทีมแพทย์ต้นทางและปลายทาง ไปจนถึงผู้ให้บริการด้านการบิน เพื่อให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ
  4. ปฏิบัติภารกิจเคลื่อนย้ายด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจะดำเนินการโดยทีมแพทย์และพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ขั้นสูงที่ครบครัน ซึ่งเทียบเท่ากับการยก "หอผู้ป่วยวิกฤตเคลื่อนที่ (Mobile ICU)" ไปดูแลผู้ป่วยตลอดการเดินทาง เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยสูงสุด

1724 BDMS MEDEVAC Center  เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตัวช่วยยามเจ็บป่วย

ความเชี่ยวชาญ คือกุญแจสู่ความปลอดภัย

พญ.บุญธิดา กล่าวอีกว่า จุดแข็งที่แท้จริงของศูนย์ฯ ไม่ได้อยู่ที่ทีมแพทย์เคลื่อนย้ายประจำเพียงทีมเดียว แต่อยู่ที่ความสามารถในการจัดทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสมกับภารกิจ (Bespoke, Mission-Specific Team) ให้กับผู้ป่วยแต่ละรายโดยเฉพาะ โดยอาศัยเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ที่แข็งแกร่ง เพื่อให้มั่นใจว่าความเชี่ยวชาญที่ไปพร้อมกับผู้ป่วยตรงกับสภาวะอาการของพวกเขามากที่สุด

"บุคลากรที่ร่วมภารกิจ โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายทางอากาศ จะมีการจัดทีมที่ตอบโจทย์เฉพาะทางได้ เช่น  เคสผู้ป่วยเด็ก จะจัดทีมกุมารแพทย์และพยาบาลผู้ชำนาญด้านทารกแรกเกิดหรือเด็กโดยเฉพาะ หรือ เคสผู้ป่วยโรคหัวใจ เป็นทีมแพทย์ผู้ชำนาญด้านเวชบำบัดวิกฤติหัวใจ (Cardiac Intensivist Doctor) และทีม พยาบาลที่มีความชำนาญการดูแลผู้ป่วยวิกฤตหัวใจ (Cardiac Critical Care Nurse) ที่มีประสบการณ์สูง ที่สำคัญยังมีความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินและให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที เพราะชีวิตและความปลอดภัยของผู้ป่วย ผู้มาใช้บริการเป็นสำคัญ"

1724 BDMS MEDEVAC Center  เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตัวช่วยยามเจ็บป่วย

ข้อจำกัดและความท้าทายที่ต้องเผชิญ

แม้โรงพยาบาลในประเทศไทยมีความพร้อมในการส่งต่อและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างรวดเร็วและถูกต้อง แต่ก็ยังมีความท้าทายและข้อจำกัดบางประการ 

พญ.บุญธิดา กล่าวด้วยว่า ยังมีความโดยเฉพาะในกลุ่มผู้ป่วยฉุกเฉิน เพราะผู้ป่วยบางกลุ่ม อย่าง ผู้ป่วยที่มีภาวะทางสมอง จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษในการเคลื่อนย้ายทางอากาศ เนื่องจากความกดอากาศที่ลดลงบนที่สูงอาจส่งผลกระทบต่ออาการของผู้ป่วยได้ ทีมแพทย์จึงต้องประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียดเป็นกรณีไป 

ข้อจำกัดด้านโลจิสติกส์ การเคลื่อนย้ายบางรูปแบบมีข้อจำกัดทางกฎหมายและกายภาพ เช่น การใช้เฮลิคอปเตอร์จำเป็นต้องมีการขออนุญาตพื้นที่ลงจอดล่วงหน้า ซึ่งต้องเป็นไปตามข้อบังคับทางกฎหมาย

1724 BDMS MEDEVAC Center  เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตัวช่วยยามเจ็บป่วย

เกิดเหตุฉุกเฉิน อุ่นใจทุกการเคลื่อนย้าย

ศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินเปรียบเสมือน "ตาข่ายนิรภัย (Safety Net)" ที่มอบความอุ่นใจให้กับนักเดินทางและทุกคนที่อาจต้องเผชิญกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันไกลบ้าน ด้วยทีมงานมืออาชีพ กระบวนการที่เป็นระบบ และเครือข่ายที่แข็งแกร่ง ทำให้การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพกลายเป็นเรื่องง่ายและปลอดภัย

"ในปี 2569  BDMS จะมีเครื่องบินพยาบาลแบบปีกตรึง (Fixed-wing Air Ambulance) ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการรับภารกิจและทำให้สามารถให้บริการได้อย่างทันท่วงทีมากขึ้น และจะมุ่งเน้นการทำงานแบบเครือข่าย (Network) เพื่อให้ขั้นตอนการทำงานลื่นไหลและสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้รวดเร็วขึ้น พัฒนาเทคโนโลยีและกระบวนการต่างๆ ยกระดับคุณภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง"

อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญที่ทีมงานอยากสื่อสารกับทุกคนคือ "เพราะชีวิตและความปลอดภัยของคนที่คุณรัก คือภารกิจสำคัญที่สุดของเรา" เพื่อที่เวลาเดินทางไปที่ไหนก็ตาม จะได้รู้สึกอุ่นใจว่าหากเกิดอะไรขึ้น ยังมีที่พึ่งที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยเหลืออยู่เสมอ

ไม่ว่าจะเจ็บป่วยที่ไหนในโลก หากคุณหรือคนที่คุณรักต้องการกลับมารักษาที่ประเทศไทย หรือต้องการความช่วยเหลือในการส่งต่อผู้ป่วย สามารถโทรมาปรึกษาได้ที่ 1724 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้ทุกการเดินทางของคุณเต็มไปด้วยความมั่นใจและความสบายใจอย่างแท้จริง

1724 BDMS MEDEVAC Center  เคลื่อนย้ายผู้ป่วย ตัวช่วยยามเจ็บป่วย