ตลาดเสริมอาหารแตะ 133.6 แสนล้าน ชวนSMEs ร่วม'Vitafoods Asia2025'

ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์เชิงหน้าที่
KEY
POINTS
- ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์เชิงหน้าที่
- หากพ้นวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะส่งผลให้แนวโน้มของตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารดีขึ้น อาจทำให้อัตราการเติบโตมากกว่า 26%
- 'Vitafoods Asia 2025' งานแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมสารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย ระหว่างวันที่17-19 ก.ย.2568
ข้อมูลจากบริษัทวิจัยเอกชน Market Minds Advisory คาดว่าตลาดเสริมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีมูลค่าราว 9.15 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2567 และคาดว่าจะพุ่งสูง ถึง 1.76 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2577 ด้วยอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 8%
ขณะที่ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในประเทศไทยเอง ก็มีทิศทางการเติบโตที่สอดรับกัน โดยปี 2567 สร้างรายได้กว่า 133.6 แสนล้านบาท และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 179.9 แสนล้านบาทภายในปี 2573 ซึ่งคิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAR) ที่ 5.1% ตั้งแต่ปี 25568-2573 (ข้อมูลจาก Grand View Research)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
5 เทรนด์ธุรกิจเสริมอาหารในเอเชีย
วันนี้ (29 กรกฎาคม 2568) อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ แถลงข่าว“ยกระดับมาตรฐานคุณภาพผลิตภัณฑ์เสริมอาหารผ่านงาน Vitafoods Asia2025” เพื่อเพิ่มมูลค่าวัตถุดิบและสารสกัดไทยสู่ตลาดโลก และเตรียมพร้อมผู้ประกอบการไทยรับมือกับความท้าทายทางเศรษฐกิจ ระหว่างวันที่ 17-19 กันยายน 2568 ณ ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC)
น.ส.รุ้งเพชร ชิตานุวัตร์ ผู้อำนวยการกลุ่มโครงการ - ภูมิภาคอาเซียน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ เปิดเผยว่า อินฟอร์มามาร์เก็ตส์ ในฐานะผู้จัดงาน "ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025" (Vitafoods Asia 2025) งานแสดงสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมสารสกัดและผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยว่า ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ด้วยแรงผลักดันจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและการป้องกันโรคมากขึ้น โดยเฉพาะ โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ที่มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสมจนทำให้เกิดโรค เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน
“5 อันดับเทรนด์ธุรกิจเสริมอาหารในเอเชีย ได้แก่ 1.การมีอายุยืน หรือชราอย่างมีคุณภาพและสง่างาม 2.ภาวะจิตใจ 3.การบริหารน้ำหนัก หรือการจัดการน้ำตาลในเลือด 4.สุขภาพสายตา และ 5.เรื่องสุขภาพภายใน”น.ส.รุ้งเพชร กล่าว
ปัจจัยเติบโตผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
น.ส.รุ้งเพชร กล่าวต่อว่าปัจจัยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมเสริมอาหารมาจาก ความตระหนักรู้ด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคุมน้ำหนัก และดูแลสุขภาพองค์รวมขณะเดียวกันภาครัฐและองค์กรต่าง ๆ ก็เร่งรณรงค์ให้ความรู้เรื่องโภชนาการที่สมดุล การเติบโตของเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ความนิยมในเครื่องดื่มประเภทพกพา เช่น โปรตีนเชค เครื่องดื่มโพรไบโอติก ฯลฯ กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่
นวัตกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่ผู้ผลิตเดินหน้าใช้เทคโนโลยีคิดค้นสูตรใหม่ที่ตอบโจทย์สุขภาพเฉพาะด้าน เช่น การชะลอวัย สุขภาพลำไส้ และการควบคุมน้ำหนัก พร้อมใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่นขมิ้น ชาเขียว พืชสมุนไพรต่าง ๆ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพเชิงองค์รวม
น.ส.รุ้งเพชร กล่าวอีกว่าการเติบโตของช่องทางออนไลน์ อีคอมเมิร์ชกลายเป็นช่องทางหลักที่ช่วยขยายการเข้าถึงผลิตภัณฑ์เสริมอาหารโดยเฉพาะการนำเสนอโปรโมชั่นและคำแนะนำเฉพาะบุคคล ช่วยกระตุ้นการซื้อซ้ำและเพิ่มยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ผู้ประกอบการรายใหม่ เข้ามาในตลาดค้าขายออนไลน์ หรือ อีคอมเมิร์ชมากขึ้น
" ตลาดผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่การดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน และความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์เชิงหน้าที่ โดยครอบคลุมทั้งอาหารเสริมและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตสมัยใหม่ ส่งผลให้ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง กับอาหารสุขภาพ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเทคโนโลยีโภชนาการ มีโอกาสขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต" น.ส.รุ้งเพชร กล่าว
ลงทุนวิจัย- เทคโนโลยี -อัพแรงงานเชี่ยวAI
นายนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ ประธานกิตติมศักดิ์กลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)กล่าวว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยที่มีการดิสรัปชั่นอย่างรวดเร็ว และการถูกขึ้นอัตราภาษีนำเข้า 36% จากประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา ล้วนส่งผลกระทบต่ออัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ไม่ได้เติบโตสูงเท่าที่คาดการณ์ไว้ แต่ยังคงประคองตัวได้ และมีโอกาสมากกว่าธุรกิจอื่นๆ ดังนั้น ตอนนี้หน่วยงานภาครัฐ และภาคธุรกิจต้องทำงานร่วมกัน และรัฐต้องเป็นที่พึ่งพาของผู้ประกอบการให้ได้
“ตอนนี้ภาพรวมตลาดสุขภาพและความงามคาดว่ามีมูลค่าหลายล้านล้านบาท โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง ซึ่งมีอัตราการเติบโตที่สูงมาก และหากพ้นวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้น จะส่งผลให้แนวโน้มของตลาดดีขึ้น อาจทำให้อัตราการเติบโตมากกว่า 26%"นายนาคาญ กล่าว
ในส่วนของผู้ประกอบการ นอกจากลงทุนเรื่องงานวิจัย เทคโนโลยีแล้ว ต้องลงทุนในแรงงานด้วย ต้องยกระดับแรงงานให้เก่งมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของ AI เพราะในอุตสาหกรรมคงปฎิเสธหุ่นยนต์ หรือ AI ที่จะมาทำงานร่วมกับคนได้ ทำอย่างไรให้คนใช้AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพิ่มผลผลิตในสินค้าและบริการ
ยกระดับอาหาร-สมุนไพรผ่านงานวิจัย
ด้าน ศ.(วิจัย) ดร. ชุติมา เอี่ยมโชติชวลิต ประธานกรรมการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพช.) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า การเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารด้วยงานวิจัยวัตถุดิบของไทยมีความสำคัญอย่างยิ่ง และถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศที่ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
บพข. มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนและผลักดันให้เกิดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและ ยั่งยืน ผ่านการสนับสนุนงานวิจัยและพัฒนาด้าน Functional Ingredients และ Functional Foods เพื่อเป้าหมายสำคัญในการสร้างระบบ นิเวศน์ที่แข็งแกร่ง ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ
รวมถึงผลักดันการขึ้นทะเบียนจัดทำรายชื่อสารสำคัญ (Positive List) สารประกอบฟังก์ชัน สารสกัดจากธรรมชาติ หรือ สมุนไพร การกล่าวอ้างทางสุขภาพให้เป็นตามมาตรฐานสากล ฯลฯ ซึ่งถือเป็นกลไกลสำคัญที่ยกระดับอาหารและสมุนไพรไทยให้ได้มาตรฐานและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
นอกจากนั้น การขึ้นทะเบียนกระบวนการจัดทำรายชื่อสารสำคัญ (Positive List) เป็นกลไกสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ มูลค่า และขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการ
ชวนร่วมงาน 'Vitafoods Asia 2025'
ดร.พัชร์ เอกปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นิวทรีชั่น เอสซี จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความสำคัญในการทำการตลาดและการสร้างแบรนด์ผ่านงาน "ไวต้าฟู้ดส์ เอเชีย 2025" ว่าเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับบริษัทฯ ในการเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายสร้างความน่าเชื่อถือ ขยายเครือข่ายธุรกิจ และขับเคลื่อนยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัทที่ต้องการเป็น ผู้นำและสร้างคุณค่าให้กับอุตสาหกรรมสุขภาพและโภชนาการ
Ms. Jeannie Kwa Senior HCP Marketing Manager, APAC, Representative from Kaneka Corporation กล่าวว่า อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เน้นด้านการชะลอวัย (Healthy Ageing) และการยืดอายุขัย (Longevity) กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้บริโภคมีความสนใจในการดูแลสุขภาพเชิงรุกและป้องกันความเสื่อมของร่างกายก่อนวัยอันควรมากขึ้น ทำให้เกิดการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาส่วนผสมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
โดยส่วนผสมสำคัญที่กำลังมาแรงและเป็นที่จับตามอง อาทิ สารเพิ่มระดับ NAD+, สารกลุ่ม Senolytics, สารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูง (Potent Antioxidants), วิตามินและแร่ธาตุสำคัญ เช่น วิตามินดี แมกนีเซียม โอเมก้า 3ฯลฯ รวมถึง คอลลาเจน เป็นต้น
ทั้งนี้ ภายใน 'Vitafoods Asia 2025' ยังมีสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมที่จะเจาะลึกประเด็นสำคัญต่าง ๆ กว่า 50 หัวข้อ ไม่ว่าจะเป็น โภชนาการเฉพาะบุคคล (Personalized Nutrition) ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ไมโครไบโอม เทรนด์ส่วนผสมและสารสกัดเพื่อเสริมด้าน Healthy aging ไปจนถึงอัปเดตกฎระเบียบการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์เสริมอาหารต่าง ๆ ให้ผู้ร่วมชมงานพร้อมก้าวนำในตลาด ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม งานดังกล่าวเป็นเวทีสำคัญที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนของห่วงโซ่อุตสาหกรรมเสริมอาหาร ตั้งแต่วัตถุดิบ ส่วนผสม การพัฒนา ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปพร้อมจำหน่าย การบรรจุภัณฑ์ ไปจนถึงผู้รับจ้างผลิต (OEM/ ODM) ที่มาจากกว่า 650 แบรนด์ 38 ประเทศทั่วโลก โดยคาดว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมงานมากกว่า 13,000 ราย







