ปลดล็อกตัวตน! รพ.ยันฮี เปิด 'ศูนย์ข้ามเพศ' แห่งแรกของไทย

ปลดล็อกตัวตน! รพ.ยันฮี เปิด 'ศูนย์ข้ามเพศ' แห่งแรกของไทย

“ศูนย์ข้ามเพศ Yanhee Pride Center” ถือเป็นศูนย์ข้ามเพศแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งการข้ามเพศ ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอก

KEY

POINTS

  • “ศูนย์ข้ามเพศ” รพ.ยันฮี ให้คำปรึกษาด้านจิตแพทย์ การเทคฮอร์โมน รวมถึงวางแผนการผ่าตัดแปลงเพศและการดูแลหลังการผ่าตัดด้วยทีมแพทย์ พยาบาลที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรง
  • การแปลงเพศย้อนกลับไม่ได้  ก่อนทำการแปลงเพศ ต้องศึกษาและเข้าใจกระบวนการ โดยต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
  • รวมถึงควรเลือกโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง ที่สำคัญควรเลือกทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์มีความชำนาญโดยเฉพาะ

ศูนย์ข้ามเพศ Yanhee Pride Center” ถือเป็นศูนย์ข้ามเพศแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งการข้ามเพศ ไม่ใช่เพียงการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ภายนอก แต่คือการเดินทางครั้งสำคัญในชีวิต ที่ต้องอาศัยทั้งความมั่นใจ ความเข้าใจ และการดูแลอย่างถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ก้าวแรกของการตัดสินใจ ไปจนถึงการมีร่างกายที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ทางเพศอย่างสมบูรณ์แบบ

โรงพยาบาลยันฮี” นับเป็นโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเอเชียที่มีศูนย์แปลงเพศที่สามารถแปลงเพศได้ทั้งจากชายเป็นหญิงและหญิงเป็นชาย รองรับคนไข้ต่างชาติโดยเฉลี่ยราว 2,000-2,500 รายต่อเดือน โดยแบ่งสัดส่วนเป็นคนไข้จีน คิดเป็น 15% หรือราว 300 – 350 รายต่อเดือน

วานนี้ (27 พ.ค.2567) โรงพยาบาลยันฮี ได้เปิดตัว “ศูนย์ข้ามเพศ” แห่งแรกในประเทศไทย โดยมี พญ.สิรินทรา สัมฤทธิวณิชชา รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เป็นประธานกล่าวเปิดศูนย์ตอนหนึ่ง ว่าศูนย์ข้ามเพศโรงพยาบาลยันฮี เกิดจากวิสัยทัศน์ของ นพ.สุพจน์ สัมฤทธิวณิชชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ที่เล็งเห็นว่า “การแปลงเพศ” ไม่ได้เป็นเพียงกระบวนการทางการแพทย์ แต่เป็น “ศาสตร์และศิลป์ขั้นสูง” ของศัลยกรรมตกแต่งซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในธรรมชาติของแต่ละเพศ

รวมทั้งการดูแลแบบสหวิชาชีพเพื่อให้ผลลัพธ์ทั้งด้านกายภาพด้านจิตใจที่มีความกลมกลืนและยั่งยืน โรงพยาบาลยันฮีมีความพร้อมในทุก ๆ ด้าน ทั้งเครื่องมือทันสมัย ปลอดภัย และระบบการดูแลที่ได้มาตรฐานระดับโลก จึงได้ลงทุนพัฒนาศูนย์แห่งนี้ให้เป็นต้นแบบของการดูแลผู้ข้ามเพศ ด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ พร้อมระบบสนับสนุนที่ครอบคลุมทุกมิติ

ปลดล็อกตัวตน! รพ.ยันฮี เปิด 'ศูนย์ข้ามเพศ' แห่งแรกของไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

'วันนั้นของเดือน' ไม่ได้มีเฉพาะผู้หญิง คนข้ามเพศ สามารถมีอาการได้

'อคติแบ่งแยก'ฝังลึกสังคมเอเชีย ฉุดสิทธิพื้นฐานคนข้ามเพศ

“การแปลงเพศ” เสมือนการเปลี่ยนบ้าน

นพ.สุกิจ วรธำรง แพทยผู้ชำนาญการด้านการผ่าตัดแปลงเพศจากหญิงเป็นชาย โรงพยาบาลยันฮี กล่าวว่า การผ่าตัดข้ามเพศ เป็นกระบวนการแปลงสภาพร่างกายให้ตรงกันสภาพจิตใจที่คนไข้ต้องการ  ขณะนี้ประเทศไทยมีความหลากหลายทางเพศ ทำให้คนข้ามเพศมีที่ยืนในสังคม เพราะอดีตต้องยอมรับว่าคนข้ามเพศ ยังไม่ได้เป็นที่ยอมรับ ไม่มีที่ยืนในสังคม เนื่องจากสังคมยังไม่เข้าใจภาวะความหลากหลายทางเพศ  แต่ปัจจุบันทั้งโลก ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยที่ยอมรับความหลากหลายทางเพศ  ซึ่งทรานส์เจนเดอร์ (Transgender)  หรือคนข้ามเพศ เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะว่ามีขั้นตอนและการดูแลคนไข้อย่างเป็นระบบ โดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ  อีกทั้งต้องมีการดูแล ที่ค่อนข้างซับซ้อน

“ในกลุ่มทรานส์เจนเดอร์ เป็นเสมือนการสร้างบ้านใหม่ ให้แก่คนๆ นั้น อดีตจะใช้วิธีบำบัดทางจิตเวช พยายามเปลี่ยนจิตใจให้สอดคล้องกับสภาพร่างกาย แต่จริงๆ แล้วไม่สามารถเปลี่ยนได้ ดังนั้น จึงมีคำพูดประโยคทองของคนไข้ที่อยู่ในกลุ่มทรานส์เจนเดอร์ คือ อยากจะหนีออกจากร่างกายเดิมที่ไม่ใช่ในความรู้สึกของพวกเขา เมื่อก่อนไม่มีใครเข้าใจ แต่ตอนนี้มีคนเข้าใจมากขึ้น และทีมแพทย์พยายามดูแลอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความมั่นใจร่างกายให้ตรงกับจิตใจอย่างสมบูรณ์ ด้วยวิธีการที่ได้มาตรฐานยอมรับจากทั่วโลก ” นพ.สุกิจ กล่าว

ปลดล็อกตัวตน! รพ.ยันฮี เปิด 'ศูนย์ข้ามเพศ' แห่งแรกของไทย

“ศูนย์ข้ามเพศ” รพ.ยันฮี มาตรฐานระดับสากล

ทั้งนี้ “โรงพยาบาลยันฮี” นับเป็นหนึ่งในศูนย์ศัลยกรรมที่มีแพทย์ชำนาญการณ์ในประเทศไทยและมีเทคโนโลยีอันทันสมัย ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ทำให้ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่งโรงพยาบาลยันฮีก้าวขึ้นมาเป็น โรงพยาบาลที่มีความโดดเด่นด้านศัลยกรรมความงามติดอันดับ 1 ใน 5 ของโรงพยาบาลความงามระดับประเทศ ทั้งยังเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ ด้วยความเชี่ยวชาญทางการแพทย์และฝีมือความประณีตของทีมศัลยแพทย์ตกแต่ง จนได้รับความไว้วางใจจากผู้รับบริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน

นพ.สุกิจ  กล่าวว่าหากมองทั่วโลกกลุ่มคนข้ามเพศ จะมีองค์กรระดับโลก ที่เรียกว่าสมาคมวิชาชีพระดับโลกเพื่อสุขภาพของบุคคลข้ามเพศ ( WPATH ) ซึ่งใประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแปลงเพศ ที่ยอมรับระดับโลก ทำให้ปีนี้มีสมาคมThai PATH เกิดขึ้นเป็นปีแรก เป็นการรวมตัวของแพทย์จากสหวิชาชีพ และประชาชน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะเป็นองค์กรที่ผลักดันในการดูแลคนข้ามเพศให้ปลอดภัย ทั้งด้านการดูแล รักษา ด้านสิ่งแวดล้อม  เพื่อต้อนรับคนไข้กลุ่มคนข้ามเพศทั้งในไทยและต่างประเทศ

“ไทยมีมาตรฐานตามแพทยสภา และในการดูแลคนข้ามเพศ จะมีสมาคม Thai PATH ในการดูแล ซึ่งจะเป็นการดูแลกลุ่มคนหลากหลายทางเพศ โดยเพาะกลุ่มคนข้ามเพศ ซึ่งสมาคม Thai PAT จะเป็นทั้งพี่เลี้ยง เป็นคนดูแล และนำนโยบายต่างๆ มาใช้  โดยสิ่งดีๆ ที่ทางสมาคม Thai PATH ประกาศนั้น ทางโรงพยาบาลยันฮี จะนำมาปรับใช้ในการดูแลคนไข้ของโรงพยาบาล” นพ.สุกิจ กล่าว  

ปลดล็อกตัวตน! รพ.ยันฮี เปิด 'ศูนย์ข้ามเพศ' แห่งแรกของไทย

เตรียมพร้อมก่อนแปลงจากหญิงเป็นชาย

ศูนย์ข้ามเพศ Transgender รพ.ยันฮี ให้บริการตั้งแต่ให้คำปรึกษาด้านจิตแพทย์ การเทคฮอร์โมน รวมถึงวางแผนการผ่าตัดแปลงเพศและการดูแลหลังการผ่าตัดด้วยทีมแพทย์ พยาบาลที่มีประสบการณ์ด้านนี้โดยตรง จึงทำให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัย  และสามารถแปลงเพศได้ทั้งจากชายเป็นหญิงและหญิงเป็นชาย  ปรับโครงหน้า เปลี่ยนเสียง ตัดหน้าอก-เสริมหน้าอก ตัดมดลูก ครบวงจร

นพ.สุกิจ กล่าวต่อไปว่าการแปลงเพศจากหญิงเป็นชายที่โรงพยาบาลยันฮีนั้น หลังจากพบจิตแพทย์ และพบแพทย์ผู้ชำนาญการด้านการใช้ฮอร์โมนเพิ่มความเป็นชายแล้ว จะมีการเทคฮอร์โมน ซึ่งมี 3 วิธีการ คือ ฉีดยา  รับประทานยา และทายา ต่อจากนั้นจะมีขั้นตอนและกระบวนการทั้งการผ่าตัดหน้าอก  ผ่าตัดมดลูกและรังไข ด้วยเทคนิคส่องกล้อง แผลเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว ประจำเดือนหมดถาวร มีการยืดท่อปัสสาวะ เพื่อให้ยืนปัสสาวะได้ และปิดช่องคลอด

รวมถึงมีการสร้างท่อปัสสาวะ ที่ท้องแขน และสร้างอวัยวะเพศชายด้วยเทคนิคฟาโลว์ ใช้เนื้อเยื่อจากท้องแขน  อีกทั้งบางคนอาจจะศัลยกรรมใบหน้า ให้มีความเป็นผู้ชายมากขึ้น เสริมความมั่นใจเป็นชายทั้งร่างกาย  เป็นต้น

“ก่อนจะทำการแปลงเพศ คนไข้ต้องมีการศึกษาและเข้าใจกระบวนการให้ดี โดยต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และควรเลือกโรงพยาบาลที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยสูง ที่สำคัญควรเลือกทีมแพทย์ที่มีประสบการณ์มีความชำนาญโดยเฉพาะ เพราะการแปลงเพศ เมื่อทำไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับได้”นพ.สุกิจ กล่าว

ปลดล็อกตัวตน! รพ.ยันฮี เปิด 'ศูนย์ข้ามเพศ' แห่งแรกของไทย

ปลดล็อกตัวตน! รพ.ยันฮี เปิด 'ศูนย์ข้ามเพศ' แห่งแรกของไทย

แปลงจากชายเป็นหญิง ต้องปลอดภัย

นพ.วรพล รัตนเลิศ แพทยผู้ชำนาญการ ด้านการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิง  กล่าวว่าการผ่าตัดแปลงเพศจากชายเป็นหญิงนั้น มีเทคนิคการแปลงเพศทั้ง “เทคนิคต่อลำไส้” ที่ช่วยตกแต่งผิวสัมผัสด้านในให้เหมือนช่องคลอด “เทคนิคต่อกราฟ” ช่วยให้ช่องคลอดมีความลึกมากขึ้น และ “เทคนิคเยื่อบุช่องท้อง” ช่วยให้ช่องคลอดลึกและมีน้ำหล่อลื่น สามารถใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุขเหมือนผู้หญิงทั่วไป

“การผ่าตัดแปลงเพศชายเป็นหญิง” เทคนิคการผ่าตัดที่โรงพยาบาลยันฮี นำมาใช้นั้น จะเป็นเทคนิคที่ทันสมัยและปลอดภัย สามารถสร้างอวัยวะเพศหญิงให้ได้ใกล้เคียงธรรมชาติ สามารถใช้งานได้จริง มีเพศสัมพันธ์ได้ ช่องคลอดมีความลึก กว้าง เป็นธรรมชาติตามสรีระของแต่ละคน รวมถึงการรับความรู้สึกทางเพศที่ไม่ด้อยไปกว่าเดิมอีกด้วย

“ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ควรปรึกษาศัลยแพทย์ เพื่อศึกษาคุณสมบัติ เทคนิคต่างๆ การเตรียมตัว ขั้นตอน การดูแลตัวเอง รวมถึงผลลัพธ์หลังแปลงเพศ เพราะการได้รับทราบรายละเอียดอย่างรอบด้าน จะเป็นการช่วยในการตัดสินใจทำและคลายความกังวลไปได้ และทุกกระบวนการขั้นตอนในการผ่าตัดแปลงเพศจากหญิงเป็นชาย จำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลจากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการเฉพาะสาขา ตั้งแต่ต้นจนถึงจบกระบวนการ เพื่อให้ผลการแปลงเพศเป็นชายสมบูรณ์แบบและมีความปลอดภัยสูงสุด”นพ.วรพล กล่าว

ปลดล็อกตัวตน! รพ.ยันฮี เปิด 'ศูนย์ข้ามเพศ' แห่งแรกของไทย

ปลดล็อกตัวตน! รพ.ยันฮี เปิด 'ศูนย์ข้ามเพศ' แห่งแรกของไทย