ไขความลับ คนเลือดหวาน! ‘ยุง’ เลือกเหยื่อจากอะไรกันแน่?

ทำไมยุงชอบกัดบางคนเป็นพิเศษ? รู้หรือไม่ ว่า กลิ่น และจุลินทรีย์บนผิวเป็นตัวดึงดูดยุง งานวิจัยเผย ต่อให้เปลี่ยนน้ำหอมหรือสบู่ ก็ยังหนีเสน่ห์ยุงไม่พ้น!
เคยสงสัยไหมว่า ทำไมในขณะที่คนอื่นนั่งชิลล์สบาย แต่ตัวคุณกลับโดนยุงรุมกัดอยู่คนเดียว? หรือบางครั้งแค่เดินออกไปในสวนหลังบ้านช่วงเย็นๆ ค่ำๆ ก็เหมือนโดนยุงล็อกเป้า พร้อมจู่โจมทันที
จริงๆ แล้วมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ และปัญหานี้ก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ โดยเฉพาะสำหรับ 20% ของประชากรที่มักจะโดนยุงกัดมากกว่าคนอื่น งานวิจัยล่าสุดเผยว่า ยุงสามารถดมกลิ่นได้แบบเฉพาะเจาะจงถึงระดับโมเลกุล
ยุงจะเลือกว่าใครน่ากัดจาก “กลิ่นตัว” ของแต่ละคน และไม่ได้เลือกที่กลิ่นเหงื่ออย่างเดียวด้วย
กรุงเทพธุรกิจ จะพาคุณไปไขความลับว่า ทำไมบางคนถึงเป็นแม่เหล็กดึงดูดยุงชั้นดี แล้วปัจจุบันนักวิจัยมีวิธีการใหม่ๆ หรือความหวังอะไรบ้างในการต่อสู้กับยุง?
ยุงเลือกเหยื่อจากอะไร?
ยุงถูกดึงดูดให้มาหาคนโดยสารประกอบอินทรีย์ที่เรียกว่า "Volatiles" ที่เราปล่อยออกมาทางลมหายใจ แต่สารหรือกรดที่ปล่อยออกมาทางผิวหนังต่างหาก ที่ทำหน้าที่เป็นป้ายบอกทางให้ยุงรู้ว่าจะดูดเลือดตรงไหนดี
สารเคมีเหล่านี้เราผลิตขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น กรดแล็กติก และ แอมโมเนีย ยิ่งร่างกายผลิตกรดแล็กติกมากเท่าไร ก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะโดนยุงรุมกัดมากขึ้นเท่านั้น
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Rockefeller University สหรัฐอเมริกา ได้ทำการทดลอง โดยให้ผู้เข้าร่วมสวมถุงน่อง จากนั้นก็ได้นำถุงน่องที่ผ่านการสวมใส่ไปตัดเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ลงในกล่องที่มียุง เพื่อดูว่ายุงจะเลือกบินไปหากลิ่นไหน
จากการทดลองพบว่า ยุงสายพันธุ์ Aedes aegypti หรือ ยุงลาย ซึ่งเป็นพาหะนำโรค ไข้เลือดออก, ไข้ซิกา และ ชิคุนกุนยา ชอบคนที่มี “กรดไขมัน” (carboxylic acids) บนผิวหนังสูงกว่าคนอื่น
ซึ่งกรดนี้มาจาก “น้ำมันเคลือบผิว” (sebum) ที่ร่างกายเราผลิตออกมา และจุลินทรีย์บนผิวเราก็ช่วยย่อยสลาย จนเกิดเป็นกลิ่นที่คล้าย กลิ่นเนยเหม็น , กลิ่นชีสเก่าๆ หรือ กลิ่นเท้า ซึ่งกลิ่นเหล่านี้ เป็น “แม่เหล็กยุง” ชั้นดี และบางคนก็มีแรงดึงดูดยุงมากกว่าคนอื่นถึง 100 เท่า!
ดร.เลสลี่ วอสชอลล์ หัวหน้าทีมวิจัยอธิบายว่า “มันเหมือนการส่งสัญญาณออกมาให้ยุงรู้ว่า มาทางนี้สิ”
สิ่งที่น่าสนใจคือ ต่อให้ผู้ทดลองเหล่านี้เปลี่ยนกลิ่นของสบู่ แชมพู น้ำหอม หรือแม้แต่ซักเสื้อผ้าใหม่ กลิ่นเฉพาะตัวที่ยุงโปรดปรานก็ยังคงอยู่
นอกจากนี้ ยุงยังใช้ประสาทสัมผัสหลายอย่างในการหาเหยื่อ เช่น
- ในระยะ 60 เมตร ยุงตามกลิ่นคาร์บอนไดออกไซด์จากลมหายใจ
- ในระยะ 15 เมตร ยุงสามารถมองเห็นเงาดำของร่างกาย
- และในระยะที่ใกล้ตัวมากๆ ยุงจะใช้ความร้อน และ กลิ่นของผิวหนังตัดสินใจว่าจะกัดตรงไหนดี
ใครบ้างที่ยุงชอบเป็นพิเศษ?
- คนที่กำลังตั้งครรภ์
- คนที่ดื่มเบียร์หรือแอลกอฮอล์
- คนที่ใช้สบู่หรือน้ำหอมบางกลิ่น
ทีมวิจัยอธิบายเพิ่มเติมว่า “เราเริ่มเข้าใจแล้วว่าผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายบางอย่างอาจเพิ่มเสน่ห์ให้กับยุงโดยที่เราไม่รู้ตัว”
ในอนาคตเราจะสามารถป้องกันไม่ให้ยุงกัดคนได้หรือไม่?
องค์การอนามัยโลก WHO ระบุว่า ทุกปีมีผู้เสียชีวิตกว่า 700,000 คน จากโรคที่มียุงเป็นพาหะ เช่น ไข้เลือดออก, มาลาเรีย และ ซิกา และเมื่อโลกร้อนขึ้น ยุงจะขยายพันธุ์ได้กว้างขึ้นอีกด้วย
ทีมนักวิทยาศาสตร์จึงกำลังเร่งหาทางพัฒนาสิ่งที่สามารถเปลี่ยนสมดุลจุลินทรีย์บนผิว เพื่อลดกลิ่นที่ยุงชอบ หรือสร้างผลิตภัณฑ์ที่กลบสัญญาณกลิ่น ที่จะทำให้ยุงหาเราไม่เจออีกต่อไป เช่น
-
นักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Hebrew University of Jerusalem พัฒนาสารเคลือบผิวบางๆ ที่ทำจาก ผลึกเซลลูโลสนาโน (CNC) และ สารอินโดล ซึ่งทำหน้าที่เป็น "การพรางตัวทางเคมี" ที่สามารถลดจำนวนยุงที่มากัดได้ถึง 80% คาดว่าสารนี้จะมีประสิทธิภาพ และระยะเวลาออกฤทธิ์นานกว่าผลิตภัณฑ์ในปัจจุบัน
-
นักวิทยาศาสตร์ชาวอิตาลีได้พัฒนาส่วนผสมของสารประกอบ ซึ่งพบว่ามีประสิทธิภาพสูงกว่า DEET ซึ่งเป็นสารประกอบเคมีที่ใช้เป็นส่วนผสมหลักในผลิตภัณฑ์ไล่แมลง เช่น สเปรย์กันยุง มากถึงสี่เท่า และสามารถป้องกันได้นานถึงแปดชั่วโมง สารนี้มีความเป็นพิษ และกลิ่นน้อยกว่าผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
-
หน่วยงาน DARPA ของสหรัฐ กำลังสำรวจวิธีการปรับเปลี่ยนจุลินทรีย์บนผิวหนัง เพื่อลดการผลิตสารที่ดึงดูดยุง เช่น กรดแล็กติก ซึ่งอาจให้การป้องกันได้นานถึงสองสัปดาห์ต่อการใช้เพียงครั้งเดียว
“ถ้าเราทำให้ยุงมองไม่เห็นเราในเชิงกลิ่นได้ มันจะเป็นการปฏิวัติการป้องกันโรคจากยุงอย่างแท้จริง” ดร.เลสลี่ กล่าวเสริม
แม้วันที่จะปราศจากยุงกัดอย่างสิ้นเชิงอาจยังมาไม่ถึง แต่สำหรับคนที่ถูกยุงกัดไม่หยุดไม่หย่อน ความหวังจากงานวิจัย และนวัตกรรมใหม่ๆ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วอย่างแท้จริง แล้วในอนาคตเราอาจจะกลายเป็น “มนุษย์ล่องหน” ในสายตายุงก็เป็นได้
อ้างอิง washingtonpost , nationalgeographic , theguardian
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







