AI พลิกโฉมการดูแลสุขภาพ ตัวช่วยให้บริการแพทย์ทางไกล 

AI พลิกโฉมการดูแลสุขภาพ  ตัวช่วยให้บริการแพทย์ทางไกล 

ปัจจุบัน แอปพลิเคชันและแพลตฟอร์มการแพทย์ทางไกลมีการพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยสามารถให้บริการได้หลากหลายทั้งการวินิจฉัยทางไกล

"การแพทย์ทางไกล" มีการบริการที่หลากหลาย อาทิ การสั่งจ่ายยาทางอิเล็กทรอนิกส์ และการดูแลผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เมื่อผนวกกับประสิทธิภาพของอุปกรณ์ดูแลสุขภาพแบบสวมใส่ เช่น นาฬิกาเพื่อสุขภาพ และเซ็นเซอร์ตรวจสุขภาพทางไกล จึงช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถติดตามสัญญาณชีพ สถานะสุขภาพ การดูแลตนเองของผู้ป่วยได้จากระยะไกล

การบูรณาการเครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ผู้ดูแลสามารถติดตามผู้ป่วยหลายรายได้พร้อมกัน ช่วยลดผลกระทบจากการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ ลดเวลารอคิวของผู้ป่วย และช่วยให้เข้าถึงผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

'รพ.เวชธานี'ดูแลคนไข้แบบองค์รวม ดึง AI- หุ่นยนต์สมัยใหม่ ช่วยบำบัด รักษา

โภชนาการ ตัวช่วยสู้ 'เบาหวาน' ปรับอาหาร ลดอ้วน ลดน้ำหนัก 10%

ปัญญาประดิษฐ์ AI มีส่วนในการช่วยเหลือผู้ป่วย

อย่างไรก็ตาม การจะทำให้เกิดการใช้เครื่องมือสมัยใหม่ในวงกว้างนั้น ขึ้นอยู่กับข้อกำหนด กฎเกณฑ์และข้อบังคับต่างๆ และความเชื่อมั่นของผู้ป่วย การดำเนินงานในปัจจุบันยังประสบความท้าทายในด้านต่างๆ เช่น การรักษาความปลอดภัยของข้อมูล แนวทางการขอรับค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุข และการเชื่อมต่อกับระบบของโรงพยาบาล นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการสุขภาพ ผู้กำหนดนโยบาย และบริษัทเทคโนโลยี ล้วนมีบทบาทสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้กับการแพทย์ทางไกล

แพทริค แกรนเด รองประธานฝ่ายบริหาร และหัวหน้าฝ่าย Commercial Outsourcing ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก DKSH เปิดเผยว่า  ปัญญาประดิษฐ์ AI กำลังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนากระบวนการทางการแพทย์ กำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในกระบวนการวินิจฉัย การวางแผนการรักษา และการสร้างความมีส่วนร่วมของผู้ป่วยในประเทศไทย งานวิจัยระดับโลกเผยให้เห็นว่าการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของปัญญาประดิษฐ์ สามารถตรวจพบโรคต่าง ๆ เช่น เบาหวานและมะเร็งปอดได้อย่างแม่นยำมากกว่า 90%

โดยเฉพาะในแอปพลิเคชันทางรังสีวิทยา เช่น การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT Scan) และเอ็กซเรย์ซึ่งช่วยลดเวลาการวินิจฉัยได้ถึงร้อยละ 30-50 โรงพยาบาลชั้นนำในประเทศไทยกำลังนำการถ่ายภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI มาใช้เพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในการรักษา นอกจากการวินิจฉัยแล้ว AI ยังช่วยปรับการดูแลให้ตรงกับความต้องการของผู้ป่วยแต่ละคนได้มากยิ่งขึ้น

AI พลิกโฉมการดูแลสุขภาพ  ตัวช่วยให้บริการแพทย์ทางไกล 

เทคโนโลยีกุญแจสำคัญดูแลสุขภาพ

แพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับดูแลผู้ป่วยใช้ AI ในการให้คำแนะนำด้านสุขภาพที่ผ่านการตรวจสอบทางการแพทย์ทางออนไลน์แบบเฉพาะบุคคล ในขณะที่การวิเคราะห์เชิงพยากรณ์สามารถประเมินการตอบสนองต่อการรักษาและแนะนำแนวทางการดูแลที่เหมาะสม เพื่อลดอัตราการกลับมารักษาซ้ำที่โรงพยาบาลและยกระดับผลลัพธ์ทางสุขภาพในระยะยาว

DKSH  ได้นำเทคโนโลยีทางการแพทย์และสุขภาพ ด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการจัดการกระบวนการของสินค้าและบริการองค์รวม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ทำให้การจัดส่งยาช่วยชีวิตและอุปกรณ์การแพทย์ไปถึงแพทย์และผู้ป่วยได้เร็วยิ่งขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการการจัดการสินค้าคงคลัง และลดการขาดแคลนสินค้าและเวชภัณฑ์ต่างๆ ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีผลลัพธ์ในการดูแลสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งยังมี ConnectPlus แพลตฟอร์มของ DKSH ที่นำเทคโนโลยี AI และการวิเคราะห์ข้อมูลมาใช้บริหารความสัมพันธ์ลูกค้าแบบ 360 องศา ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมต่อข้อมูลกับบุคลากรทางการแพทย์ การวางกลยุทธ์การสื่อสารแบบหลายช่องทาง ช่วยให้ตัวแทนของบริษัทฯ สามารถสื่อสารกับบุคลากรทางการแพทย์ เครือข่ายร้านขายยา และคลินิกทั่วประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากชึ้น

ปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิดการยอมรับเทคโนโลยี AI ในวงกว้าง ได้แก่ การรับประกันความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ความโปร่งใสของอัลกอริทึม และความเชื่อมั่นจากผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ขณะที่ระบบ AI กำลังพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง การร่วมมือระหว่างบุคลากรทางการแพทย์และผู้พัฒนาเทคโนโลยีจะเป็นกุญแจสำคัญในการกำหนดบทบาทของ AI ในการดูแลสุขภาพของประเทศไทยในอนาคต

“ตลาดสุขภาพดิจิทัลในประเทศไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าตลาดสุขภาพดิจิทัลของไทยคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 50,000 ล้านบาทภายในปี 2568 และเติบโตต่อเนื่องด้วยอัตราเฉลี่ยต่อปี (CAGR) 5.31% จนถึงปี 2572 และคาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 61,700 ล้านบาท ภายในปี 2572 ซึ่งมาจากแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนของภาครัฐ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ป่วย”

ทั้งนี้ การเติบโตอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน แผนแม่แบบสุขภาพดิจิทัลแห่งชาติ (National Digital Healthcare Roadmap) มีเป้าหมายในการปรับปรุงความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่างระบบ (interoperability) ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการเพิ่มพูนทักษะด้านดิจิทัล เพื่อให้มั่นใจว่าระบบสุขภาพจะเชื่อมต่อกันและมีความปลอดภัยมากขึ้น

ในขณะเดียวกัน บริษัทชั้นนำในด้านการดูแลสุขภาพกำลังผนวกการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานด้วย AI และการวิเคราะห์เชิงพยากรณ์เพื่อขยายการเข้าถึงและเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพ