‘ภาวะก่อนเบาหวาน’ ใครๆ ก็เป็นได้ รู้ก่อนห่างไกลโรค

"โรคเบาหวาน" เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของทั่วโลกและมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเกิดจากการดำเนินชีวิตและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
KEY
POINTS
- ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) หรือเรียกอีกชื่อว่าภาวะเบาหวานแฝง คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่เป็นผู้ป่วยเบาหวาน
-
แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะก่อนเบาหวาน แต่การที่ระดับน้ำตาลในร่างกายเกิดความผิดปกติ กรรมพันธุ์ ภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์ ไขมันสูง ขาดการออกกำลังกาย ล้วนเป็นสาเหตุทั้งสิ้น
-
การรักษาภาวะก่อนเบาหวานที่ดีที่สุด คือ การตรวจหาตั้งแต่เนิ่นๆ ควบคุมอาหาร เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตั้งเป้าลดน้ำหนักตัวให้ได้ร้อยละ 5-10% ร่วมกับการออกกำลังกาย
"โรคเบาหวาน" เป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญของทั่วโลกและมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเกิดจากการดำเนินชีวิตและปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
ข้อมูลจาก IDF Diabetes Atlas พบว่า 1 ใน 10 คน ทั่วโลกป่วยด้วยโรคเบาหวานมากถึง 537 ล้านคน และเสียชีวิตมากกว่า 4 ล้านคนต่อปี คาดว่า ภายในปี 2573 จะเพิ่มขึ้นเป็น 643 ล้านคน และภายในปี 2588 จะเพิ่มมากถึง 783 ล้านคน ผู้ป่วยโรคเบาหวานมากกว่า 90% เป็นโรคเบาหวาน ชนิดที่ 2 และเกือบครึ่งหนึ่งยังไม่ได้รับการวินิจฉัย
สำหรับประเทศไทยพบว่า 1 ใน 10 คน ป่วยด้วยโรคเบาหวาน 6.5 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นโรคเบาหวานชนิดที่ 2 และร้อยละ 40 ที่ไม่ทราบว่าตัวเองป่วย จะเห็นได้ว่าปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเป็นปัญหาสำคัญของประเทศไทย
นอกจากนั้นหลายคนแม้รู้จักโรคเบาหวาน แต่สำหรับ "ภาวะก่อนเบาหวาน" ที่ยังไม่ถึงขั้นเป็นโรคเบาหวานอาจเป็นเรื่องที่ถูกละเลย ซึ่งการรู้เท่าทันและดูแลป้องกันเป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงลดความเสี่ยงการเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวานเรื้อรัง ยังช่วยให้ใส่ใจควบคุมระดับน้ำตาลให้ห่างไกลจากโรคต่าง ๆ ที่ทำร้ายสุขภาพ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
รู้จัก "ภาวะก่อนเบาหวาน"
นพ. สิทธิผล ชินพงศ์ อายุรศาสตร์ โรงพยาบาลกรุงเทพ อธิบายว่า ภาวะก่อนเบาหวาน (Prediabetes) หรือเรียกอีกชื่อว่าภาวะเบาหวานแฝง คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ จากการที่ระบบควบคุมน้ำตาลของร่างกายทำงานผิดปกติ แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่เป็นผู้ป่วยเบาหวาน ทำให้ส่วนใหญ่ไม่ทราบว่าตนเองอยู่ในภาวะนี้ จึงขาดการดูแลอย่างถูกต้อง รู้อีกทีอาจป่วยเป็นโรคเบาหวานไปแล้ว และที่สำคัญ ภาวะก่อนเป็นเบาหวานนี้จะสามารถทำให้เกิดโรคหัวใจ โรคสมองและหลอดเลือดได้ด้วย
สาเหตุของภาวะก่อนเบาหวาน
แม้จะยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของภาวะก่อนเบาหวาน แต่การที่ระดับน้ำตาลในร่างกายเกิดความผิดปกติ โดยเฉพาะตับอ่อนผลิตอินซูลินไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
รวมถึงการที่กระบวนการของร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินช้า ส่งผลให้เกิดภาวะก่อนเบาหวานได้ นอกจากนี้กรรมพันธุ์ ภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์ ไขมันสูง ขาดการออกกำลังกาย ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะก่อนเบาหวานได้
กลุ่มเสี่ยงภาวะก่อนเบาหวาน
- ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีน้ำหนักเกินเกณฑ์ ภาวะอ้วน
- ผู้ป่วยความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง
- ผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด
- ผู้ที่มีกลุ่มอาการถุงน้ำรังไข่
- ผู้ที่มีประวัติคนในครอบครัวป่วยเบาหวาน
- ผู้ที่มีประวัติเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- ผู้ที่สูบบุหรี่
- อาการภาวะก่อนเบาหวานเป็นอย่างไร
- กระหายน้ำ
- ปัสสาวะบ่อย
- หิวบ่อย
- อ่อนเพลีย
- มองเห็นภาพไม่ชัด
- หรือไม่มีอาการใด ๆ เลย
ภาวะแทรกซ้อนที่อาจตามมา
โดยส่วนมากภาวะแทรกซ้อนที่ตามมาเกิดจากการที่ภาวะก่อนเบาหวานพัฒนาไปเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งโรคเบาหวานมักก่อให้เกิดโรคอื่นๆ ตามมาได้ เช่น
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคไขมันในเลือดสูง
- โรคหลอดเลือดและหัวใจ
- โรคหลอดเลือดสมอง
- เส้นประสาทถูกทำลาย
- การมองเห็นผิดปกติ
ตรวจวินิจฉัยภาวะก่อนเบาหวานได้อย่างไร
แพทย์จะทำการตรวจวินิจฉัยภาวะก่อนเบาหวานโดย
- ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดหลังอดอาหารและเครื่องดื่ม 8 ชั่วโมง (Fasting Plasma Glucose) โดยระดับน้ำตาลในเลือดขณะอดอาหารที่มีภาวะก่อนเบาหวานจะอยู่ระหว่าง 100 – 125 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ตรวจความทนต่อน้ำตาลกลูโคส (Oral Glucose Tolerance Test) โดยจะให้ดื่มน้ำละลายกลูโคสแล้วตรวจดูระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือดหลังดื่ม หากมีภาวะก่อนเบาหวานค่าที่ได้จะอยู่ที่ 140 – 200 มิลลิกรัม/เดซิลิตร
- ตรวจระดับน้ำตาลเฉลี่ยสะสมในเลือด (HbA1C) เพื่อบอกระดับน้ำตาลในเลือดตลอดช่วง 3 เดือน หากมีภาวะก่อนเบาหวานระดับที่ได้จะอยู่ระหว่าง 5.7 – 6.4%
วิธีการรักษาภาวะก่อนเป็นเบาหวาน
การรักษาภาวะก่อนเป็นเบาหวานแพทย์มักเน้นให้ผู้ป่วยปรับพฤติกรรมเป็นหลัก ได้แก่
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม
- ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 150 นาที
- ลดอาหารหวาน มัน เค็ม
- งดสูบบุหรี่
- หากปรับพฤติกรรมแล้วไม่ได้ผล แพทย์อาจให้รับประทานยาร่วมด้วย
- ป้องกันภาวะก่อนเป็นเบาหวานอย่างไร
- ตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี
- ในกรณีที่มีความเสี่ยงควรตรวจติดตามระดับน้ำตาลในเลือดทุก 3 เดือน
- คุมความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติคือ 140 / 90 มิลลิเมตรปรอท
- รักษาระดับไขมันในเลือดไม่ให้สูงจนเกินเกณฑ์
- กินอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม
- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 7 – 8 ชั่วโมง
รักษาเร็ว ลดโอกาสเป็นเบาหวาน
การรักษาภาวะก่อนเบาหวานที่ดีที่สุด คือ การตรวจหาตั้งแต่เนิ่นๆ และรีบให้การรักษาด้วยวิธีการควบคุมอาหาร เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ตั้งเป้าลดน้ำหนักตัวให้ได้ร้อยละ 5-10% ร่วมกับการออกกำลังกายหรือเพิ่มกิจกรรมทางกายให้มากขึ้น ซึ่งจะเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า
สำหรับการใช้ยารักษาภาวะก่อนเบาหวาน แพทย์จะพิจารณาเป็นรายบุคคล ส่วนใหญ่จะพิจารณาใช้ยาในรายที่มีความเสี่ยงสูง และมีค่าระดับน้ำตาลหรือน้ำหนักตัวไม่ลดลงหลังผ่านการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้ว
อ้างอิง: โรงพยาบาลกรุงเทพ ,โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย,โรงพยาบาลพญาไท