สงกรานต์สุขสดใส ระวังภัยคลื่นร้อน

สงกรานต์สุขสดใส ระวังภัยคลื่นร้อน

ปีนี้มีอีกเรื่องที่น่าห่วงและต้องเตือนเช่นกัน นั่นคือเรื่องคลื่นความร้อนที่กลับมาเล่นงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำความเสี่ยงของการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับสภาพอากาศ ในฟิลิปปินส์หลายร้อยโรงหยุดการเรียนการสอนเมื่ออุณหภูมิพุ่งเกินกว่า 42 องศาเซลเซียส 

มหกรรมสงกรานต์เปิดฉากขึ้นแล้ว วันนี้เป็นวันหยุดยาววันแรก ปีนี้พิเศษตรงที่วันสงกรานต์ของไทยจะมีความเป็นอินเตอร์มากขึ้น เมื่อองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) คัดเลือกให้สงกรานต์ของไทยอยู่ในบัญชีมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ​ ถือเป็นความภูมิใจของคนไทยทุกคน ทั้งยังช่วยส่งเสริมให้สงกรานต์เป็นซอฟต์พาวเวอร์อย่างที่รัฐบาลหวัง โดยปกติถึงช่วงเทศกาลที่คนไทยหลั่งไหลกลับบ้าน สิ่งที่ต้องเตือนกันหนีไม่พ้นเรื่องขับขี่ปลอดภัยระวังอุบัติเหตุ

ปีนี้มีอีกเรื่องที่น่าห่วงและต้องเตือนเช่นกัน นั่นคือเรื่อง"คลื่นความร้อน"ที่กลับมาเล่นงานภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาลงง่ายๆ สัปดาห์ก่อนเด็กวัยเตาะแตะรายหนึ่งเสียชีวิตในมาเลเซีย ตอกย้ำความเสี่ยงของการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับสภาพอากาศ ในสัปดาห์เดียวกันเวียดนามประกาศภาวะฉุกเฉินทางภาคใต้เนื่องจากอากาศร้อนผิดปกติ ในฟิลิปปินส์โรงเรียนหลายร้อยโรงหยุดการเรียนการสอนเมื่ออุณหภูมิพุ่งเกินกว่า 42 องศาเซลเซียส 

ประเทศไทยเองก็ร้อนสุดๆ อุณหภูมิทั่วประเทศรวมถึงความชื้นพุ่งไม่มีแววลด ยิ่งป่าคอนกรีตอย่างกรุงเทพฯ นั้น แม้ตกกลางคืนความร้อนก็แทบไม่ลดลงเลย คาดการณ์กันว่า ตลอดเดือน เม.ย. คงไม่มีคืนไหนที่อุณหภูมิต่ำกว่า 30 องศาเซลเซียส ยิ่งร้อนยิ่งต้องเปิดเครื่องปรับอากาศ ซึ่งเมื่อยิ่งเปิดก็ยิ่งเพิ่มความร้อนภายนอก วนเวียนเป็นงูกินหาง ปีก่อนว่าร้อนหฤโหดแล้ว ปีนี้ร้อนยิ่งกว่า ดูท่าจะร้อนทุบสถิติทุกปี ความร้อนที่เล่นงานทั่วทั้งภูมิภาคเกิดจากสองปัจจัย นั่นคือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันเกิดจากฝีมือมนุษย์และปรากฏการณ์เอลนิโญ  

สงกรานต์ปีนี้หากจะสนุกสนานก็ต้องไม่ลืมป้องกันตนเองจาก"คลื่นร้อน" โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี และผู้สูงอายุ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนได้ดีเท่าคนหนุ่มสาว หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนจัด สวมใส่เสื้อผ้าที่มีสีอ่อน โปร่ง ไม่หนา น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดีและป้องกันแสงแดดได้ จิบน้ำบ่อยๆ อย่างน้อย 6-8 แก้วต่อวัน ถึงแม้ไม่กระหายน้ำก็ตาม เพื่อเติมความชุ่มชื้นและลดอุณหภูมิร่างกาย และที่สำคัญหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะคนที่ต้องขับขี่รถรากลับบ้าน เพียงเท่านี้ก็ฉลองสงกรานต์ได้อย่างปลอดภัยไร้อุบัติเหตุ รอดจากอาการฮีทสโตรกช่วงอากาศร้อนจัด