ยิ่งฉีดวัคซีนโควิด-19 สุขภาพยิ่งย่ำแย่จริงหรือ? เช็ก 3 ระยะลองโควิด

Keypoint:

• จุฬาฯ-ม.รังสิต ลงนามศึกษาข้อมูล ค้นหาผลกระทบจากการฉีดวัคซีนโควิด-19  และอาการลองโควิด ลองวัคซีน หลังพบผู้ป่วยจำนวนมากสุขภาพย่ำแย่หลังจากฉีดวัคซีนโควิด-19  
• แม้จะไม่มีอาการลองโควิด ลองวัคซีนอยู่ แต่ภาวะการอักเสบสมองทั้งในและนอกสมองยังคงอยู่ รอปะทุจากการใช้ชีวิต สภาวะแวดล้อม โรคไม่ติดต่อเรื้อรัง
• แนะเช็กอาการลองโควิด มีผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย สามารถแจ้งให้ข้อมูลแก่ม.รังสิต-จุฬาฯ ได้ พร้อมทั้งชวนแพทย์ทุกสาขามีประสบการณ์รักษาโควิด ออกมายอมรับความจริงให้ข้อเท็จจริงแก่ประชาชน

จากแถลงการณ์ร่วมต่อสถานการณ์อาการ Long Covid-19 และผลกระทบจากโควิด-19 โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ โรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ซึ่งได้แจ้งถึงสถานการณ์ในเรื่องดังกล่าว เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริงนั้น

นพ.ธีระวัฒน์ อธิบายว่าตนเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน เราไม่ได้มีความประสงค์ต่อต้านวัคซีนใดๆ ทั้งสิ้น แต่เป็นการให้ข้อมูลอย่างสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ประชาชน และรับทราบว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง ซึ่งตนฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั้งหมด 4 เข็ม และในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3  มีอาการต่างๆ ทำให้ต้องหยุดงานไป และเมื่อฉีดเข็มที่ 4  เป็นวัคซีนชนิดหนึ่งที่ใช้ในปัจจุบัน mRNA  ที่ขณะนี้มีการประกาศให้ฉีดได้ตั้งแต่เด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งการฉีดในลักษณะดังกล่าว อาจจะสร้างความกังวลให้แก่ประชาชน เพราะอาจจะมีความเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกาย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

8 ประเด็นข้อกังขา 'วัคซีนโควิด-19 และอาการลองโควิด' มีขบวนการปกปิดข้อมูล

โควิดวันนี้ ยอดผู้ติดเชื้อรอบสัปดาห์ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เฉลี่ย 89 ราย/วัน

 

3 ระยะอาการลองโควิด-19 หรือลองวัคซีน

นพ.ธีระวัฒน์ อธิบายต่อไปว่าอาการลองโควิด-19  หรือ ลองวัคซีน จะแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ

1.ระยะสั้น เกิดในระยะเวลา 2 อาทิตย์

• ไม่ว่าจะเกิดจากโควิด หรือวัคซีน จะเสียชีวิต มีลิ่มเลือดเกิดขึ้น มีสมองอักเสบ

2.ระยะกลาง เกิดในเวลา 2-3 อาทิตย์-3 เดือน

• มีผลกระทบต่อร่างกายตั้งแต่หัวจดเท้า และมีผลต่อหัวใจและปอด ไม่สามารถทำงานได้ปกติ เช่น  คนที่เป็นนักวิ่งมาราธอน ต้องนอนอยู่บ้าน หรือคนที่สติปัญญาเฉียบแหลม เป็นโปรแกรมเมอร์ อายุเพียง 30 ปี แต่ทำงานไม่ได้   เป็นต้น

3.ระยะยาว เกิดขึ้นเมื่อมีระยะเวลาเกิน 3 เดือน

• จะมีปัญหาระบบทางสมอง และจิตใจ ยังไม่แก่แต่คิดอะไรไม่ออก และคิดแบบไม่มีเหตุผล ตัดสินใจอะไรไม่ได้
• มีอารมณ์ซึมเศร้า หรือก้าวร้าว
• เชื่อมโยงต่อกับโรคที่เคยควบคุมได้ทุกอย่าง เช่น คนไข้ที่มีโรคสมองเสื่อมเล็กน้อย แต่ภายหลังติดโควิด หรือฉีดวัคซีน พบว่าสมองเสื่อมเกิดขึ้นอย่างชัดเจน รุนแรง จนไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
• ปรากฎการณ์สมองอักเสบทั้งที่ไม่มีประวัติว่าป่วย  แต่จะเกิดขึ้นหลังจากฉีดวัคซีน
• มีภาวะอักเสบในร่างกายทั้งหมด อาทิ อักเสบผิวหนัง อักเสบบริเวณใบหน้า
• งูสวัดที่เกิดขึ้นในกลุ่มอายุ 20-30ปี และเกิดขึ้นซ้ำๆ
• มีกล้ามเนื้อเป็นตะคริว
• ไม่มีความรู้สึกทางเพศ หรือประจำเดือนไม่มา  
• ลำไส้หงุดหงิด ลำไส้แปรปรวน เป็นคนท้องผูก หรือท้องเสีย 

 

ฉีดวัคซีนโควิด ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

นพ.ธีระวัฒน์ กล่าวว่าเครือญาติของตนที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ก็มีอาการหลังจากฉีด อย่าง หลานซึ่งเป็นแพทย์ฝึกหัดโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังฉีดวัคซีนโควิด-19  เกิดอาการหายใจไม่ออก และช็อก ได้รับการพิเศษ เป็นลิ่มเลือดไปอุดหลอดเลือด และใช้เวลาฟื้นตัว รับการบำบัดถึง 6 เดือนเต็มๆ 

มีพี่ๆ พยาบาล ซึ่งได้รับการตรวจร่างกายสม่ำเสมอ หลังจากฉีดวัคซีนเพียงไม่กี่วัน เกิดอาการหายใจไม่ออก เหนื่อยง่าย ได้ไปรับการตรวจโรงพยาบาลรัฐ และยืนยันว่าเป็นผลมาจากวัคซีน  และอีกไม่กี่เดือน มีเส้นเลือดอุดตันเล็กๆ ในปอดต้องทำการรักษาอย่างต่อเนื่อง และได้ผลสรุปว่าเกิดจากวัคซีน

“ผมฉีดวัคซีนไป 4เข็ม แต่ติดโควิด-19 มีอาการเลอะเลือนใน2-3 อาทิตย์ คือ เรียกชื่อโรคไม่ถูก  จนกระทั่งประมาณ 1 เดือน เริ่มกลับมาปกติ  แต่มีภาวะเป็นพิษเกิดขึ้น  ทำให้มีการปฎิบัติตัวตลอด 5 เดือน และเจาะเลือดใหม่ 3 ครั้ง ทุกอย่างเป็นปกติเพียงการปฎิบัติตัว และส่วนตัวมีการใช้กัญชงและกัญชา ประมาณ 8-9 ปี เนื่องจากเป็นโรคกระดูกสันหลังอักเสบ ขณะนี้ไม่สามารถใช้กัญชา กัญชง และห้ามให้คำแนะนำแก่ผู้ป่วย ตอนนี้ผมจึงใช้เพียงกัญชงกับตัวเองที่บ้าน เพราะการรักษาโรคบางโรค สามารถรักษาโดยการใช้แพทย์ทางเลือกร่วมกับแพทย์ปัจจุบัน”นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

แม้ไม่มีอาการลองโควิด-ลองวัคซีน แต่เชื้อยังอยู่

ทั้งนี้ จากการศึกษาผลกระทบของโควิด และลองโควิด ลองวัคซีน โดยได้รับทุนของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งได้มีการติดตามผู้ป่วยติดโควิด-19 และผู้ป่วยอาการลองโควิด ตลอดระยะเวลา 1ปี  ทำให้เกิดการพัฒนาการตรวจเลือดว่ามีภาวะสมองเสื่อม หรือมีภาวะอักเสบในสมอง และร่างกายหรือไม่ และมีการทำลายเนื้อสมองได้หรือไม่

ข้อมูลดังกล่าวทำให้ทราบว่า การอักเสบที่เกิดขึ้นในลองโควิด-19 และลองวัคซีนเหมือนกัน คือ การอักเสบเกิดขึ้นได้ทั้งในสมองและนอกสมอง เมื่ออาการเหล่านี้หายไปแล้ว จากการติดตาม ไม่มีอาการ แต่การอักเสบในสมองและนอกสมองยังคงอยู่   ถ้ามีตัวจุดปะทุ อย่าง สภาวะสิ่งแวดล้อม หรือไม่ดูแลสุขภาพ มีโรคอ้วน โรคไขมัน เบาหวาน จะทำให้เกิดอักเสบภาวะในสมองและนอกสมองเกิดขึ้นได้

ทั้งนี้ มีกรณีคนไข้อายุ 14 ปี ฉีดวัคซีนโควิด-19 จำนวน 3 เข็ม ซึ่งเด็กคนนั้นไม่มีโรคประจำตัวใดๆ แต่หลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 พบว่าเขามีอาการผิดปกติกล้ามเนื้อ และเกิดหัวใจวายอย่างรุนแรง  รวมถึงมีกล้ามเนื้อแขน ขา คอ อ่อนแรง เด็กไม่สามารถยกแขน ขาได้ ขยับคอไม่ได้ และมีการสวนหัวใจ พบว่ามีการอักเสบรุนแรงมาก

คำถามคือ จากการตรวจเลือด ไม่ได้พบหลักฐานการติดโควิด-19 หาว่ามีไวรัสอะไรในโลก ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และกล้ามเนื้อแขนขา ไม่พบ  และในกล้ามเนื้อหัวใจนั้นๆ หลังจากค้นหา พบเพียงเศษซากของวัคซีนที่อยู่ในกล้ามเนื้อหัวใจ  หลังจากนั้น ให้การรักษาโดยการเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง พบว่า การอักเสบค้างอยู่ แม้จะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำเหลือง และสารสกัดน้ำเหลือง ต้องให้ยากดภูมิต่อเนื่อง  รวมถึงมีคนไข้ที่ฉีดวัคซีน-19 ไปแล้วมีอาการอื่นๆ มากมาย

“ถ้าเรามีใจว่าเราช่วยชีวิต วันนี้ เป็นวันที่ เราต้องให้มีความตระหนักและรับรู้ว่า ไม่ว่าจะโควิด-19 สายพันธุ์อะไรก็ตาม มีข้อมูลชัดเจนว่า ฉีด 3 เข็มน่าจะเพียงพอ เพราะมีงานวิจัยในต่างประเทศ ระบุว่า ฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 4 สามารถป้องกันโควิดได้เพียง 3เดือน หลังจากนั้นจะมีอาการที่รุนแรงมากขึ้น และเมื่อเทียบกับคนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม อัตราการตาย และอาการหนักไม่ต่างกัน”นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

ชวนแพทย์ทุกสาขา ถอดหมวกวิชาชีพ เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง

อ.ปานเทพ กล่าวว่าเราได้รับข้อมูลว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากการลองวัคซีน หรือลองโควิด-19 เข้ามารับการดูแลจากการกระบวนการรักษาการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีน การแพทย์พื้นบ้าน และการใช้ธรรมชาติบำบัด  จำนวนมาก เพียงแต่ปัจจุบันมีการปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร ถ้ามีเรื่องสมุนไพรเข้ามารักษาลองวัคซีน หรือลองโควิด ทำให้กระบวนการรักษาไม่ได้ถูกการเผยแพร่ในสาธารณะ ทำให้ประชาชนไม่รู้ว่าจะไปรักษาที่ไหน

“การรักษาอาการลองวัคซีน หรือลองโควิด-19 งดเนื้อแดง ควบคุมน้ำตาล กำหนดชีวิตให้มีสุขภาพที่ดี เราจึงต้องมีการรวบรวมองค์ความรู้ ข้อมูลเพื่อนำเสนอยังประชาชนว่าตัวเองมีความเสี่ยงอะไรบ้าง  และจะดูแล ป้องกันโรคได้อย่างไร  ดังนั้น ลองโควิด หรือลองวัคซีน หากเป็นจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ชีวิต และครอบครัว อยากเชิญชวนแพทย์ทุกสาขา ที่มีประสบการณ์ในการรักษา ขอให้ถอดหมวกวิชาชีพ และเอาประชาชนเป็นตัวตั้งแลกเปลี่ยนข้อมูล ช่วยประชาชน”

เป้าหมายสูงสุด คือ ประชาชนต้องรู้ตัวเอง นำไปสู่การรักษาได้ และสปสช. รัฐบาล จะต้องให้การช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวัคซีน และลองโควิดเพราะผู้ป่วยต้องใช้เวลาและเงินในการรักษาเป็นเวลานาน อย่างไรก็ตาม ต้องอาศัยทุกองค์กร ในการช่วยเหลือเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นความจริงแก่ประชาชนมากขึ้น

ผู้ป่วยที่เป็นโควิด มีอาการลองโควิด-19 ประมาณ 30-50% และจากการกลายพันธุ์ของไวรัส ส่งผลให้การฉีดวัคซีนไม่สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ดีเท่าที่ควร  จึงจำเป็นต้องมีการศึกษาวิจัย เก็บรวบรวมข้อมูลในเรื่องผลกระทบจากวัคซีนโควิด-19 และอาการลองโควิด เพื่อจะได้รู้ผลดีผลเสียของการฉีดวัคซีน และช่วยในการรักษาผู้ป่วยอาการลองโควิด นำไปสู่แนวทางปฎิบัติที่ถูกต้อง

ทั้งนี้ เนื้อความทั้ง 8 ประการ มีดังนี้

ประการแรก

จากการที่มีประชาชนชาวไทยและทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบจากภาวะต่อเนื่องหลังการติดเชื้อโรคโควิด-19 หรือได้รับผลกระทบจากการได้รับวัคซีนในหลายมิติ เป็นผลทำให้มีประชาชนกลุ่มดังกล่าวเสียชีวิต หรือมีสุขภาพร่างกายที่อ่อนแอลง หรือส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่แย่ลง เป็นเรื่องที่เป็นความจริงทั้งสิ้น

ประการที่สอง

อาการที่เกิดขึ้นที่ทอดยาวเป็นเวลานานเกินกว่าสามเดือนหลังจากติดเชื้อโควิดที่เรียกว่าลองโควิด (long covid) มีทั้งอาการทางระบบหัวใจและปอด ระบบสมองประสาทและกล้ามเนื้อ ภาวะที่มีการอักเสบของผิวหนัง เส้นเอ็นพังผืด กล้ามเนื้อ ข้อต่างๆ

ตลอดจนการปะทุขึ้นของโรคที่ไม่เคยเป็นมาก่อนหรือโรคที่สงบไปแล้ว รวมทั่งมะเร็งและการเกิดเริม งูสวัดซึ่งไวรัสเหล่านี้เป็นไวรัสที่ซ่อนอยู่ในร่างกายจากการติดเชื้อเนิ่นนานมาแล้ว และถูกกดไม่ให้แสดงตัวออกมาจากการควบคุมของระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงของร่างกาย และยังรวมถึงการนอนหลับที่ผิดปกติ หลับยากหลับกระท่อนกระแท่น จนถึงฮอร์โมนแปรปรวนทั้งผู้ชายและผู้หญิง

ประการที่สาม

มีขบวนการปกปิดข้อมูลและข้อเท็จจริงของผู้ที่ได้รับผลกระทบและเสียชีวิตจากวัคซีน ทำให้ตัวเลขการรายงานผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนต่ำกว่าความเป็นจริงไปอย่างมาก รวมถึงการปิดกั้นข้อมูลข่าวสารจากโซเชียลมีเดียและแอพลิเคชั่นในหลายระบบ ทำให้มีประชาชนอีกจำนวนมากยังไม่ทราบว่าตัวเองได้รับผลกระทบจากวัคซีน จึงทำให้ไม่สามารถหาแนวทางการรักษาตัวเองที่ถูกต้องได้

ประการที่สี่

ผลการติดตามเบื้องต้นของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมกับภาควิชาอายุรศาสตร์และสาขาประสาทวิทยาคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบข้อมูลจากการติดตามผลของกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งจากโรคโควิด-19 ในผู้ที่ฉีดวัคซีนในประเทศไทยเกือบ 100 รายในระยะเวลา 1 ปี พบค่าการอักเสบและโปรตีนที่แสดงให้เห็นว่าเกิดภาวะสมองเสื่อม ทั้งที่ยังไม่มีอาการและมีอาการแล้ว หรือแม้แต่ยังมีร่องรอยภาวะโรคสมองเสื่อมดำเนินต่อไป หากมีปัจจัยกระตุ้นแม้จะมีอาการป่วยดีขึ้นแล้วก็ตาม ซึ่งจะสร้างปัญหาต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชากรกลุ่มนี้ต่อไปในอนาคต หากไม่รู้ตัวหรือไม่ได้หาหนทางในการป้องกันหรือเยียวยาเพื่อลดความเสี่ยงลงด้วยคำแนะนำอย่างถูกต้อง

ประการที่ห้า

นักวิจัยจากคณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี ได้เผยแพร่รายงานเอาไว้ในวารสาร Nature Scientific Report เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2566 ได้กล่าวถึงประเด็นการฉีดวัคซีนหลังเข็มที่ 3 ว่าอาจจะทำให้ภูมิคุ้มกันชนิด T-Cell หมดแรง นั่นหมายความว่าการฉีดวัคซีนมากเกินไปอาจทำให้ร่างการมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงได้

ประการที่หก

สำหรับประชาชนที่สงสัยว่าสุขภาพร่างกายของตัวเองอ่อนแอลงไม่หมือนเดิม อันเนื่องมาจากภาวะลองโควิด-19 หรือไม่ หรือสงสัยว่าจะได้รับผลกระทบจากวัคซีนหรือไม่ เราจะทำการสร้างเครือข่ายรับข้อมูลจากประชาชนอย่างเป็นระบบต่อไป

ประการที่เจ็ด

สำหรับแนวทางการรักษาทั้งจากภาวะลองโควิด-19 หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนในปัจจุบัน ได้มีการดำเนินการรักษาอยู่แล้ว ทั้งในวงการแพทย์แผนปัจจุบัน การแพทย์ทางเลือก ธรรมชาติบำบัด ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การใช้สมุนไพร และตำรับยาตลอดจนหัตถการทั้งการแพทย์แผนไทยและการแพทย์แผนจีน

ซึ่งวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต จะร่วมกับศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อรวบรวมกรรมวิธีการเยียวยาและรักษา ทำการวิจัย และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบในโอกาสต่อไป

ทั้งนี้ขอเรียนเชิญแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์แผนไทย แพทย์แผนไทยประยุกต์ แพทย์แผนจีน หมอพื้นบ้าน เภสัชกรผู้รักชาติทั้งหลาย ได้ร่วมกันระดมเสนอหนทางจากประสบการณ์ตรงและให้ข้อมูลการช่วยเหลือและรักษาผู้ที่เป็นภาวะลองโควิด-19 และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีน เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุดอย่างเป็นระบบและเข้าสู่เป็นงานวิจัยต่อไป

ประการที่แปด

นอกจากขบวนการปกปิดข้อมูลแล้ว สังคมไทยควรตระหนักถึงความเสี่ยงอันตรายและรู้เท่าทันความเสี่ยงจากงานวิจัยในประเทศไทยที่สนับสนุนโดยทุนต่างชาติเพื่อหาหนทางการตัดต่อพันธุกรรมไวรัสจากค้างคาวเพื่อให้กลายเป็นเชื้อไวรัสในมนุษย์ อาจกลายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนบางกลุ่มที่ต้องการแสวงหาผลกำไรและความมั่งคั่งจากทำให้เกิดการแพร่โรคระบาดสร้างความเสียหายต่อประชาคมโลกต่อไปในอนาคต และเห็นว่าสถาบันวิชาการในประเทศไทยควรเห็นแก่ประโยชน์ของชาติมากกว่าผลประโยชน์ส่วนตัวหรือผลประโยชน์ของกลุ่มทุนต่างชาติ