สิ้นสุดเล่าเรื่องยุคเก่า ยกระดับนักเขียนบทไทย สู่ 'Showrunner'

สิ้นสุดเล่าเรื่องยุคเก่า  ยกระดับนักเขียนบทไทย สู่ 'Showrunner'

อุตสาหกรรมบันเทิงไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เรียกว่า “Disruption” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักเขียนบทละครโทรทัศน์แบบดั้งเดิม

KEY

POINTS

  • การที่นักเขียนบทพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง เปิดรับเทรนด์การเล่าเรื่องใหม่ๆ และกล้าที่จะนำเสนอประเด็นที่สำคัญและเป็นสากล
  • ไม่เพียงแต่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับอุตสาหกรรมและประเทศ แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของ “Soft Power” ของไทยในเวที
  • ตั้งใจว่าจะทำงานในวงการ เพื่อพัฒนาวงการละครไทย และอุตสาหกรรมไทย ไปจนกว่าจะทำงานไม่ไหว เพื่อให้การเขียนบทละครไทยให้เทรนด์โลกและพฤติกรรมของผู้บริโภค

อุตสาหกรรมบันเทิงไทยกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่เรียกว่า “Disruption” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มนักเขียนบทละครโทรทัศน์แบบดั้งเดิม ที่กำลังเผชิญกับภาวะงานลดน้อยลงและอาจถึงขั้นตกงาน สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมของผู้ชมที่เปลี่ยนไปรับชมเนื้อหาผ่านแพลตฟอร์ม สตรีมมิ่งในรูปแบบซีรีส์และภาพยนตร์มากขึ้น แทนที่จะรับชมละครโทรทัศน์แบบเดิม

การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงการย้ายแพลตฟอร์มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปรับเปลี่ยนเทคนิคและวิธีการเล่าเรื่อง ซีรีส์มักใช้ภาพเป็นสื่อหลัก และมีบทสนทนาน้อยกว่าละครทีวี แต่กลับเรียกร้องสมาธิในการรับชมที่สูงกว่าภาพยนตร์ อย่างไรก็ตาม แก่นแท้ของการเล่าเรื่องยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือ “พลังของตัวละคร” ไม่ว่าสื่อใดๆ หากสามารถสร้างตัวละครที่แข็งแกร่งและน่าสนใจได้ ก็จะสามารถดึงดูดผู้ชมและทำให้เรื่องราวทรงพลัง

“กรุงเทพธุรกิจ”สัมภาษณ์ “โย - อภิรักษ์ ชัยปัญหา”CEO บริษัท YOLO PRODUCTION หนึ่งในพลังขับเคลื่อนสำคัญของวงการละครและซีรีส์ไทย จากนักเขียนบทละครมากฝีมือ สู่ผู้จัดซีรีส์ ชื่อดัง ที่ผลักดันวงการละครไทยสู่ระดับสากล ที่แสดงให้เห็นว่าแพชชั่น ความกล้าที่จะปรับตัว และวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่สากล คือกุญแจสำคัญในการสร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณค่า และยกระดับอุตสาหกรรมบันเทิงไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลกได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

มทร.กรุงเทพฯ ปั้นคนคุณภาพ! หนุน Soft Power บันเทิงไทยสุดปัง

แกะสูตร ‘เน็ตฟลิกซ์’ ตรึงคนดู เปิดตัว190 ประเทศทั่วโลก โปรโมตไร้ขีดจำกัด

จากนักเขียนบทสู่ผู้จัด: ก้าวแรกที่แตกต่าง

โย เล่าว่าจุดเริ่มต้นในวงการของเขามาจากการเป็นคนทำละครเวทีและเคยเป็นครูสอนวรรณกรรม รวมถึงเคยดำรงตำแหน่งอุปนายกสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทย และกรรมการซีไรต์ ทำให้เขาคุ้นเคยกับการอ่านหนังสือและเรื่องราวต่างๆ เป็นอย่างดี โยยอมรับว่าในอดีตนั้นเขาไม่ต้องการทำงานละครไทยเลย เพราะรู้สึกว่าละครเวทีมีคุณค่าและสามารถพูดประเด็นได้มากกว่าละครไทย

แต่แล้วโอกาสก็เข้ามาหาเขา เมื่อ “ปราณประมูล -ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์”ซึ่งเป็นหนึ่งในวิทยากรในโครงการ “พลังของตัวละคร” (The Power of Characters) ได้ชวนเขาเข้ามาอยู่ในทีมเขียนบท หลังจากนั้น โย ก็ได้ร่วมงานกับค่ายพอดีคำของ“พี่ธง -ธงชัย ประสงค์สันติ”โดยได้เขียนบทให้กับช่อง 3 และช่อง 7

หนึ่งในผลงานที่โดดเด่นคือซีรีส์“ลูกผู้ชายพันธุ์ดี” ของช่อง 7 ซึ่งเป็นแนวฮีโร่ ที่สอดแทรกประเด็นปัญหาสังคมต่างๆ เช่น คดีค้ามนุษย์ หรือ NGO โกงเงิน และซีรีส์เรื่องนี้ยังได้เข้าชิงรางวัลนาฏราชอีกด้วย

หลังจากนั้น โย ได้เข้ามาเป็นนักเขียนประจำให้กับค่ายของ "พี่ฉอด -สายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หรือ สายทิพย์ ประภาษานนท์

ที่ดูแลช่อง GMM 25 ซึ่งเป็นช่องสำหรับวัยรุ่น เขาได้เรียนรู้ความแตกต่างของการเขียนบทซีรีส์จากละคร และในช่วงที่ พี่ฉอด เปลี่ยนไปดูแลบริษัทเช้นจ์ 2561 จำกัดโย ก็ได้เขียนบทให้กับเช้นจ์เรื่อยมา รวมถึงผลงานที่โด่งดังอย่าง“ตะวันตกดิน”ซึ่งมีประโยคฮิตที่ติดปากคนทั้งประเทศว่า“งานไม่ใหญ่แน่นะวิ”

สิ้นสุดเล่าเรื่องยุคเก่า  ยกระดับนักเขียนบทไทย สู่ 'Showrunner'

การทำงานคือความรักในการเล่าเรื่องและความต้องการ

จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ โย รู้สึกอิ่มตัวกับแนวละครที่ค่ายผลิตทำให้เขาตัดสินใจขอหยุดพัก ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น วงการละครและซีรีส์ไทย กำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน มีแพลตฟอร์มใหม่ๆ เข้ามามากขึ้น โย จึงเริ่มเปิดคอร์สสอนเขียนบทและกำกับซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เขาได้พบกับผู้บริหารจาก GMMTV และเป็นโอกาสให้เขาได้เริ่มต้นเส้นทางใหม่ในฐานะผู้จัด

โย ได้ร่วมกับ“กอล์ฟ ธัญญ์วาริน ”ก่อตั้งบริษัท ALL THIS ENTERTAINMENT โดยใช้โปรไฟล์ของทั้งคู่ในการนำเสนอตัวเองให้เป็นผู้จัดหน้าใหม่เริ่มต้นจากการผลิตซีรีส์ด้วยงบประมาณที่ไม่สูงมากนัก แต่ก็ค่อยๆ พัฒนาและได้รับงบประมาณที่สูงขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งตัดสินใจแยกตัวออกมาเปิดบริษัทของตัวเองในชื่อ YOLO Production ซึ่งเป็นบริษัทปัจจุบัน

“แรงบันดาลใจหลักในการทำงานคือความรักในการเล่าเรื่องและความต้องการ ที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาวงการอุตสาหกรรมบันเทิงของไทย แม้ในอดีตจะมีความคิดว่าไม่อยากทำละครไทย แต่เมื่อได้เข้ามาสัมผัสจริงๆ กลับพบว่ามันยากกว่าที่คิด”

สิ้นสุดเล่าเรื่องยุคเก่า  ยกระดับนักเขียนบทไทย สู่ 'Showrunner'

ยุคคนที่มีไอเดียต่อยอดเป็น“Showrunner”

โย อธิบายว่ายุคนี้เป็นยุคของคนที่มีไอเดียอย่างแท้จริง และเขาก็เป็นหนึ่งที่มีโอกาสนั้น แม้จะไม่มีเงินทุนมหาศาลก็สามารถสร้างสรรค์ผลงานได้การเข้ามาของ Netflix และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่างๆ ได้นำระบบการทำงานแบบสากลเข้ามา ทำให้บทบาทของนักเขียนมีความสำคัญมากขึ้น โดยเฉพาะแนวคิดของ“Showrunner”ซึ่งเป็นเจ้าของโปรเจกต์ที่มีอำนาจในการเลือกผู้กำกับหรือทีมงานต่างๆ สิ่งนี้ทำให้เขาเห็นโอกาสในการพัฒนาบทบาทของนักเขียนบทไทย

นักเขียนบทสามารถพัฒนา “การเล่าเรื่องที่มีความเป็นสากลมากขึ้น”ไม่ได้มุ่งเน้นแค่ผู้ชมในประเทศอีกต่อไป เพราะตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านและลาตินอเมริกา ต่างให้ความสนใจละครและซีรีส์ไทยอย่างมาก คอนเทนต์ไทยหลายเรื่องสามารถสร้างมูลค่าและเป็น Soft Power ที่สำคัญได้การสร้างเนื้อหาที่สามารถสื่อสารข้ามวัฒนธรรมได้ เล่าเรื่องที่สอดแทรกประเด็นทางสังคม วัฒนธรรม หรือประเด็นร่วมสมัยอื่นๆ

การที่นักเขียนบทพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง เปิดรับเทรนด์การเล่าเรื่องใหม่ๆ และการกล้าที่จะนำเสนอประเด็นที่สำคัญและเป็นสากล ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับอุตสาหกรรมและประเทศ แต่ยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของ “Soft Power” ของไทยในเวทีโลกได้อีกด้วย และยังสามารถพัฒนาเป็น“เจ้าของลิขสิทธิ์ทางปัญญา” (Intellectual Property - IP) ของตนเองนำไปเสนอขายหรือหาผู้ร่วมลงทุนได้

การเป็นเจ้าของ IP สามารถพัฒนาไปสู่การเป็น “Showrunner” (เจ้าของโปรเจกต์)หรือผู้สร้างที่นำเสนอไอเดียของตนเองให้ผู้ผลิตเข้ามาลงทุนได้ สร้างรายได้มหาศาล จากเดิมที่อาจได้เพียงค่าพล็อตหลักหมื่นหรือค่าเขียนบทหลักแสน ก็สามารถเพิ่มเป็นค่าผลิตต่อเรื่องได้สูงถึง 15-20 ล้านบาทหรือในบางกรณี IP หนึ่งชิ้นสามารถสร้างมูลค่าได้ตั้งแต่หลักแสนไปจนถึงหลายสิบล้านบาทซึ่งเป็นแนวปฏิบัติที่แพร่หลายในอุตสาหกรรมบันเทิงระดับสากล เช่น Netflix ที่ให้ความสำคัญกับนักเขียนในฐานะเจ้าของโปรเจกต์

สิ้นสุดเล่าเรื่องยุคเก่า  ยกระดับนักเขียนบทไทย สู่ 'Showrunner'

แก้ไข “ภาพจำ”ยกระดับละครไทยสู่สากล

เป้าหมายการทำงานที่ต้องไปให้ถึง โย บอกว่าเขาจะพยายามแก้ไขภาพจำเดิมๆละครเก่าๆ ที่ยังคงถูกนำมารีรันหรือฉายซ้ำที่ตัวละครดีร้าย ชัดเจน” ทั้งๆที่ความจริงแล้วละครแนวที่นั้นแทบจะไม่มีการผลิตใหม่แล้ว และในความเป็นจริงละครไทยได้พัฒนาไปไกลกว่านั้นมากและได้รับรางวัลระดับชาติและนานาชาติมากมาย

การพัฒนาบทในปัจจุบันไปไกลกว่ามุมมองแบบเดิมๆ และมีการสอดแทรกประเด็นที่หลากหลายและลึกซึ้งยิ่งขึ้น เช่น ประเด็นครอบครัวแตกแยก ความหลากหลายของสังคม ความเหลื่อมล้ำในชนชั้น การค้ามนุษย์ หรือพุทธพาณิชย์ ดังเช่นในเรื่อง “เกมรักทรยศ” ที่พูดถึงประเด็นครอบครัวและประชาธิปไตย, “สืบสันดาน” ที่พูดถึงเรื่องชนชั้นและการกดขี่, “สาธุ” ที่พูดถึงพุทธพาณิชย์ หรือ “ฉลาดเกมโกง”หรือ มาตาลดา แสดงให้เห็นว่าละครไทยกล้าที่จะแตะประเด็นทางสังคมและวิพากษ์วิจารณ์สังคมมากขึ้น เช่น ซีรีส์ Y ที่สะท้อนประเด็นทางการเมือง หลายเรื่องได้รับรางวัลระดับประเทศและนานาชาติ แสดงให้เห็นว่าบุคลากรในวงการมีคุณภาพทัดเทียมกับต่างประเทศ 

ปัจจุบัน โย ผลิตซีรีส์ไปแล้ว 4 เรื่องภายใน 3 ปีให้กับแพลตฟอร์มใหญ่อย่าง GMMTV, Viu Original (ทุนจากเกาหลีและสิงคโปร์) และ WeTV (ทุนจากจีน) และกำลังอยู่ระหว่างการพูดคุยโปรเจกต์ภาพยนตร์ กับทุนต่างประเทศ เขา ยังเปิดเผยว่า Netflix เอง ก็เคยทาบทามให้ไปร่วมงานด้วย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถและการยอมรับในระดับสากลของเขา

"ตั้งใจว่าจะทำงานในวงการ เพื่อพัฒนาวงการละครไทย และพัฒนาวงการอุตสาหกรรมไทย ไปจนกว่าจะทำงานไม่ไหว เพื่อให้การเขียนบทละครไทยให้เทรนด์โลกและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดนิ่งตลอดไป” CEO บริษัท YOLO PRODUCTION กล่าว

สิ้นสุดเล่าเรื่องยุคเก่า  ยกระดับนักเขียนบทไทย สู่ 'Showrunner'

ยกระดับนักเขียนบทไทยสู่ตลาดสากล

สมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ ร่วมกับ สำนักงานสร้างสรรค์วัฒนธรรมไทย (THACCA) และ One Family One Soft Power (OFOS) โดยการสนับสนุนจากกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม จัดโครงการ “พลังของตัวละคร” (The Power of Characters) อบรมนักเขียนบทหลักสูตรขั้นสูงสำหรับมืออาชีพ

เปิดโอกาสให้นักเขียนบทมืออาชีพซึ่งเป็นสมาชิกของสมาคม รวมทั้งนักเขียนบทละครโทรทัศน์ บทภาพยนตร์ บทซีรีส์ บทละครเวที นักเขียนนวนิยาย หรือเป็นทีมงานในวงการบันเทิง ที่มีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 2 ปีและมีผลงานไม่น้อยกว่า 2 เรื่อง เพื่อให้สามารถเขียนงานได้หลากหลายขึ้นไม่ยึดติดกับแนวเดิมๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการได้งาน โดยมีนักเขียนบทมืออาชีพระดับแนวหน้าของไทยจากอุตสาหกรรมบันเทิงสี่สาขา ได้แก่ ทิพย์ธิดา ศรัทธาทิพย์ (ปราณประมูล) สาขาบทละครโทรทัศน์ นนทรีย์ นิมิบุตร สาขาบทภาพยนตร์ นิกร แซ่ตั้ง สาขาบทละครเวที และอภิรักษ์ ชัยปัญหๆา สาขาบทซีรีส์ มาร่วมแชร์ประสบการณ์

โครงการ “พลังของตัวละคร” เปิดรับสมัครผู้เข้าอบรมแบบออนไซต์ 30 คนและแบบออนไลน์ โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นในวันที่ 23-24, 30-31 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรม S31 สุขุมวิท ผู้ที่สนใจติดตามรายละเอียดได้ที่เฟสบุกแฟนเพจสมาคมนักเขียนบทละครโทรทัศน์ https://www.facebook.com/TVdramascriptwritersAssociationOfficialpage

สิ้นสุดเล่าเรื่องยุคเก่า  ยกระดับนักเขียนบทไทย สู่ 'Showrunner'