10 ภาษากาย สะท้อนรสนิยม ความมีระดับ เสริมสเน่ห์ในตัวคุณ

10 ภาษากาย สะท้อนรสนิยม ความมีระดับ เสริมสเน่ห์ในตัวคุณ

ความมีรสนิยม และมีระดับ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเสื้อผ้า เครื่องประดับที่สวมใส่ หรือวิธีพูดของคุณเท่านั้น แต่สะท้อนผ่านภาษากาย ลองไปเช็กกันว่า คุณมี 10 ภาษากายนี้ไหม

หลายครั้งที่เห็นว่า มารยาท และทวงท่าสามารถบอกอะไรได้มากมายเกี่ยวกับบุคลิกภาพ และสติปัญญา ให้เชื่อถือว่า คนอื่นก็สังเกตเห็นอย่างด้วยเช่นกัน

ความระดับ ไม่ได้แสดงถึงมารยาทดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการส่งสัญญาณเล็กๆ ผ่านภาษากาย ซึ่งเว็บไซต์ dmnews ได้รวบรวมข้อมูลเจาะลึก 10 ภาษากายที่แสดงถึงความสง่างาม และความมีระดับอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยสิ่งเหล่านี้สามารถช่วยให้คุณมีภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง มั่นใจ และสง่างามได้ มาเริ่มกันเลย

1.การวางตัวดี

สัญญาณแรกที่แสดงถึงความมีระดับ คือการรักษาท่วงท่า และวางตัวที่ดี

คุณอาจไม่รู้ตัว แต่การวางตัวบ่งบอกถึงความนับถือตนเอง และความมั่นใจในตัวเองได้เป็นอย่างดี หากยืนหลังค่อมทำให้รู้สึกหมดพลังและขาดความน่าสนใจ ขณะที่การยืนตัวตรง ทำให้รู้สึกมั่นใจและเคารพตนเอง

ไม่ว่าจะนั่งหรือยืน ควรคำนึงถึงท่าทางของคุณเสมอ พยายามให้หลังตรง และหลีกเลี่ยงการหลังค่อม นี่เป็นวิธีง่ายๆ แต่ทรงพลังในการแสดงให้เห็นถึงความมีคลาส และเสน่ห์ที่ซ่อนอยู่อย่างเป็นธรรมชาติ โดยอย่าลืมว่า  ความประทับใจแรกที่สำคัญ นั่นหมายถึงการวางตัวที่ดีถือเป็นปัจจัยสำคัญ ในการสร้างความประทับใจ

 

2. การสบตา

การสบตาเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของภาษากายที่ทรงพลัง สามารถแสดงถึงความมีระดับ และพลังที่เป็นธรรมชาติซ่อนอยู่ในตัวคุณเอง

พลังของการสบตา สื่อถึงความเคารพ ความใส่ใจ และความมั่นใจ แสดงให้เห็นว่า คุณมีส่วนร่วม ในการสนทนาอย่างเต็มที่ และสนใจสิ่งที่อีกฝ่ายพูดอย่างแท้จริง

3.ท่าทางสำรวม

มือของเราเปรียบเหมือนเครื่องมือสื่อสารอย่างหนึ่ง ซึ่งสามารถเป็นตัวเสริมการสื่อสารด้วยคำพูดได้ หากควบคุมไม่ได้ ก็อาจสร้างภาพลักษณ์ที่สับสนวุ่นวายได้

หากควบคุมมือได้ ก็จะช่วยคุณสื่อสารได้ตรงประเด็น ทั้งยังแสดงความกระตือรือร้น แต่จำไว้ว่าการควบคุมมือได้ จะช่วยลดท่าทางที่ดุดัน หลุกหลิก สับสน และประหม่าได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณอยู่ระหว่างการสนทนาหรือนำเสนออะไรอยู่ก็ตาม ในระหว่างนั้นมือของคุณจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อถือในประเด็นที่คุณพูดอยู่ ดังนั้นควรใช้อย่างชาญฉลาด เพื่อประสิทธิภาพในการนำเสนอ และเสริมเสน่ห์ของคุณ

 

4.การเคารพพื้นที่ส่วนตัว

การเข้าใจและเคารพพื้นที่ส่วนตัวเป็นสำคัญของภาษากาย เช่นเดียวกับเราทุกคนต่างก็มีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งการละเมิดพื้นที่ส่วนตัวผู้อื่น อาจทำให้เขารู้สึกอึดอัดและกังวล ในทางกลับกัน การรักษาระยะห่างที่เหมาะสม แสดงถึงความเอาใจใส่ และคำนึงถึงความรู้สึกผู้อื่น

การให้ความสำคัญถึงขอบเขตที่มองไม่เห็น และกันเคารพสิ่งเหล่านี้ สามารถช่วยให้การแสดงออกบ่งบอกถึงคลาส อย่างเป็นธรรมชาติ ขณะเดียวกันทำให้เห็นว่า คุณพยายามอำนวยความสะดวกให้ผู้อื่น และเคารพขอบเขตของพวกเขา

5. รอยยิ้มจริงใจ

อาจเคยได้ยินว่า “รอยยิ้มคือแสดงการต้อนรับสากล” และสิ่งนี้ก็เป็นความจริง เพราะรอยยิ้มที่จริงใจสามารถทะลายกำแพง และทำให้หัวใจอบอุ่นได้

การมีรสนิยมและมีคลาสไม่ได้หมายความว่า จะต้องมีบุคลิกที่เคร่งขรึม หรือจริงจังเท่านั้น แต่ยังหมายถึงเป็นคนเข้าถึงได้ง่ายและน่ารักด้วย ซึ่งอะไรคงไม่ดีไปกว่ารอยยิ้มที่จริงใจ เพราะรอยยิ้มแสดงถึงความเป็นมิตรและเปิดใจอยากเชื่อมไมตรี ขณะที่รอยยิ้มจริงใจสามารถสร้างบรรยากาศเชิงบวกรอบตัวคุณ ทำให้รู้สึกสบายใจและมีคุณค่า อย่างไรก็ตาม อย่าลืมยิ้ม ไม่ว่าจะพบใครเป็นครั้งแรกหรือทักทายด้วยความคุ้นเคย หากแต่จำไว้เสมอต้องจริงใจ เพราะคนอื่นสามารถแยกแยะรอยยิ้มปลอมๆ กับรอยยิ้มจริงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งคุณสามารถปล่อยความสุขผ่านรอยยิ้ม

6. พยักหน้า ตั้งใจฟัง

ในโลกที่หมุนไปรวดเร็ว การใช้เวลาฟังใครสักคนอย่างตั้งใจคือเป็นของขวัญล้ำค่าหาได้ยาก เชื่อเถอะว่าผู้คนจะสังเกตเห็นและชื่นชมสิ่งนี้

การพยักหน้าขณะที่ผู้อื่นเล่า เป็นสัญญาณทางกายที่เรียบง่ายแต่ทรงพลัง แสดงให้เห็นว่า คุณไม่แค่มีสมาธิกับการสนทนาเท่านั้น แต่ยังแสดงความมีส่วนร่วมทางจิตใจ และอารมณ์ด้วย ท่าทางนี้ทำให้เห็นว่า คุณเห็นคุณค่าทางความคิด และความเห็นของอีกฝ่าย ทำให้พวกเขารู้สึกได้ว่าถูกการรับฟัง และให้ความเข้าใจ

7.สุขุม

ท่ามกลางการเร่งรีบตลอดเวลา การรักษาท่าทีที่สงบเพื่อสยบทุกอย่าง ถือเป็นความท้าทายเลยทีเดียว ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่หลายคนพยายามทำ มีบางครั้งอาจสับสนได้ง่ายในสถานการณ์กดดันสูง หรือปล่อยให้ความรู้สึกด้านลึกครอบงำตัวเอง

แต่เมื่อเวลาผ่านไป จะตระหนักได้ว่า การสงบสติอารมณ์ โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่กดดัน ถือเป็นสัญญาณทางภาษากายที่ทรงพลัง แสดงถึงคลาส และภาวะทางอารมณ์ที่เป็นผู้ใหญ่ขึ้น การควบคุมตัวเองได้ และความสามารถยืดหยุ่น เพราะไม่ว่าคุณจะอยู่ในที่ประชุม ซึ่งมีความตึงเครียดหรือการตอบโต้อย่างดุเดือด อย่าลืมควบคุมสติ หายใจเข้าลึกๆ รักษาความสุขุม รับมือกับสถานการณ์อย่างสง่างาม แน่นอนไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป แต่ถ้าทำได้ก็คุ้มค่าเพียงพอ

8. ลดความกังวล

การกระสับกระส่าย ไม่ว่าจะเป็นการแสดงให้เห็นจากการเขย่าเท้า ลูบผมเล่น หรือการเปิดโทรศัพท์ดูตลอดเวลา อาจทำให้เสียสมาธิ และส่งสัญญาณให้คนรอบข้างรู้ว่าคุณกำลังกระสับกระส่าย แสดงความร้อนรน และขาดความสนใจในสิ่งที่ทำอยู่ตอนนั้น

เมื่อคุณกำลังสนทนาหรือประชุม ให้ควบคุมอารมณ์ไม่ฟุ้งซ่าน วางโทรศัพท์ลง มือผ่อนคลาย และจดจ่ออยู่กับปัจจุบัน การทำสิ่งเหล่านี้อาจเหมือนเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ความจริงสร้างความแตกต่างยิ่งใหญ่ให้กับผู้คนรอบข้างของคุณได้รับรู้ความเป็นคุณ

9. การโน้มตัวเข้าใกล้ผู้อื่น

ภาษากายนี้สื่อถึงความละเอียดอ่อนอย่างมีชั้นเชิง เมื่อคุณโน้มตัวเข้าใกล้ผู้อื่นขณะที่เขากำลังพูด แสดงว่าคุณกำลังมีส่วนร่วม และสนใจในสิ่งที่ผู้อื่นพูดอยู่ แต่ให้จำไว้ ไม่ได้หมายความว่าให้รุกล้ำพื้นที่ส่วนตัว เพียงแต่เอียงตัวไปใกล้เล็กน้อย เพื่อแสดงความสนใจ โดยที่อีกฝ่ายไม่รู้สึกอึดอัด

อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณอยู่ในระหว่างสนทนา อย่าลืมโน้มตัวเข้าใกล้ผู้อื่นเล็กน้อย การกระทำนี้ถือเป็นวิธีละเอียดอ่อน ในการแสดงความสนใจและเคารพ ซึ่งช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้มีระดับ

10. ทำสม่ำเสมอ

สิ่งสำคัญหนึ่งต้องจำไว้เกี่ยวกับภาษากายคือ การทำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งคำพูดและภาษาใต้ของคุณมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการแสดงความจริงใจ และน่าเชื่อถือ หากคำพูดของคุณสื่อความหมายอย่างหนึ่ง แต่ภาษากายของคุณสื่ออีกอย่างหนึ่ง อาจทำให้เกิดความสับสน และสงสัยง่าย ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณพูดอะไรบางอย่างในเชิงบวก แต่ภาษากายของคุณแสดงความผิดกั้นหรือเชิงลบ สิ่งเหล่านี้ของคุณอาจจะบั่นทอนคุณค่าคำพูดคุณได้

การพูด และแสดงท่วงท่าให้สอดคล้องกัน จะช่วยเสริมความเชื่อถือที่มีต่อคุณ ถึงอย่างไรการสื่อสารด้วยวาจา และไม่ใช้วาจาก็ควรไปในแนวทางเดียวกัน เพื่อให้การสื่อสารได้มีประสิทธิภาพ

อ้างอิง : dmnews