จาก 'พลังงานทดแทนสู่เฮลท์แคร์' สร้างธุรกิจเติบโตคู่สังคมยั่งยืน

เดิมบริษัทไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่จำกัด (มหาชน) หรือ TSE ประกอบการธุรกิจที่เกี่ยวกับ Green and renewable Energy มาก่อน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความยั่งยืนต่อสังคม ทว่าปัจจุบันที่ผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงการก้าวเข้าสู่สังคม Aging Society ของประเทศไทยเเละทั่วโลก ทำให้ความต้องการในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การชะลอวัย รวมถึงเทคโนโลยี ที่ช่วยการเจริญพันธุ์ ได้รับความสนใจมากขึ้นในปัจจุบัน

 ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจโดยธนาคารชั้นนำแห่งประเทศไทย (SCB EIC) ระบุว่า ธุรกิจสุขภาพและเวสเนส (Health & Wellness) เป็นธุรกิจที่กำลังมาแรงทั้งในระดับโลกและในไทยอย่างมาก โดยมูลค่าตลาดสุขภาพและเวลเนส ของไทยมีขนาดอยู่ที่ราว 1.5 ล้านล้านบาทในปี 2019 คิดเป็น 8% ของ GDP ไทย ธุรกิจการดูแลสุขภาพทั่วโลกจะมีแนวโน้มขยายตัวอย่างสูง 8.6% ต่อปี คาดว่าปี 2568 เศรษฐกิจเพื่อสุขภาพทั่วโลก จะมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 230 ล้านล้านบาท

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

วัยรุ่นมี 'Sex ต้อง Safe' หยุดเอดส์รายใหม่ได้

บอร์ด สปสช. เห็นชอบ ‘ 7 แพ็กเกจสุขภาพดี' ฟรี

หลักในการบริหาร ต้องให้ความสำคัญกับ“คน” 

โอกาสทางธุรกิจสุขภาพที่มีความเติบโต จึงเป็นที่มาของการลงทุนในโครงการใหม่ ซึ่งเป็นสายธุรกิจ Health Care กับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำธุรกิจ Wellness ซึ่งจัดอยู่ในเมกะเทรนด์และมีแนวโน้มการเติบโตสูง สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่คนในสังคมส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะแต่งงานและมีบุตรช้าลง ซึ่ง ณ ตอนนั้นก็จะมีอายุมากขึ้นแล้วทำให้สมรรถภาพการมีบุตรลดลงมีบุตรยากขึ้น เพื่อสร้าง New S-Curve และเสริมความแข็งแกร่งให้กับบริษัทฯ โดยเริ่มตั้งแต่การให้บริการด้านการรักษาผู้มีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ (IVF) ตลอดจนการรักษา การเสริมความงาม และการป้องกันเพื่อสุขภาพที่ดีและยืนยาว

"แคทลีน มาลีนนท์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่จำกัด (มหาชน) หรือ TSE ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ”ว่า ปี 2567 บริษัทฯ ได้กำหนดแผนเป้าหมายการเพิ่มรายได้ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ทั้งรายได้จากธุรกิจเดิม และรายได้จากธุรกิจใหม่ที่จะเป็น New S-Curve ในอนาคต โดยใช้เงินลงทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น “โอนิโกเบ” มูลค่า 3,357 ล้านบาท

ทว่าในการทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นในธุรกิจเดิม  Green and renewable Energy ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีความยั่งยืนต่อสังคม หรือการลงทุนในโครงการใหม่ ซึ่งเป็นสายธุรกิจ Health Care นโยบายหลักในการบริหาร ก็ต้องให้ความสำคัญกับ“คน” เป็นหลัก เพราะคนคือหัวใจในการพัฒนาองค์กรให้มีความเติบโต และสร้างธุรกิจให้เติบโต แข่งขันได้และสร้างรายได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

หลักบริหารต้องเข้าใจความต่างบุคลากร

"การบริหารองค์กรให้มีประสิทธิภาพ เริ่มจากการเข้าใจความแตกต่างของบุคลากรในองค์กร ให้ความสำคัญกับการเคารพในความหลากหลาย และการสร้างทีมงานที่สนับสนุนกัน การสื่อสารอย่างชัดเจน และการให้ Feedback ที่สร้างสรรค์ช่วยให้เกิดการพัฒนาของพนักงาน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการบริหารคน”

ขณะเดียวกันวัฒนธรรมองค์กร ก็มีส่วนสำคัญ จะต้องมีระบบส่งเสริมให้พนักงานรู้สึกมีส่วนร่วมในการทำงาน มีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง และมีการทำงานเป็นทีมที่แข็งแกร่ง การสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรและเปิดรับความเห็นจากทุกคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรมีความเข้มแข็งและเติบโตได้

ดังนั้น การคัดเลือกบุคลากรเข้ามาในองค์กรควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมและเป้าหมายของบริษัท โดยคุณสมบัติที่สำคัญได้แก่ ทักษะและความรู้ที่ตรงกับความต้องการขององค์กรและตำแหน่งงาน รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง 

นอกจากนี้ยังต้องมีทัศนคติที่ดีและความคิดเชิงบวก พร้อมทั้งมุ่งมั่นพัฒนาตนเองและเปิดรับฟังความคิดเห็น ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น ความยืดหยุ่นและการปรับตัว รวมถึงความคิดสร้างสรรค์และทักษะในการแก้ปัญหา ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการคัดเลือกบุคลากรที่เหมาะสมกับองค์กร

พัฒนาทักษะบุคลากรและผู้นำรุ่นใหม่

“เป้าหมายในการพัฒนาคนและองค์กร นระยะ3-5 ปี มุ่งพัฒนาทักษะบุคลากรและผู้นำรุ่นใหม่ เสริมสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ และการขยายธุรกิจผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงสร้างความร่วมมือในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อความเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร”

แคทลีน กล่าวว่าสำหรับ “Core Competency หรือความสามารถหลักขององค์กร ที่จะทำให้องค์กรโดดเด่นและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน จะเน้นถึงวัฒนธรรมและคุณค่าขององค์กร รวมถึงสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ได้แก่ ความสามารถในการนำกลยุทธ์ไปปฏิบัติ, การปรับตัวได้รวดเร็ว, ความคิดสร้างสรรค์, การมีจิตใจบริการ, การทำงานเป็นทีม, ความเป็นผู้นำ ความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และการจัดการความรู้ของพนักงานให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้องค์กรของเราเติบโตได้อย่างยั่งยืน”

ปรับการทำงานตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

ปัจจุบันมีพนักงานรวม 283 คนแบ่งเป็นพนักงานที่อายุ 23-30 ปี จำนวน 57 คน (20 %) องค์กรต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการของคนทำงานรุ่นใหม่ โดยเน้นความยืดหยุ่นในการทำงาน การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งเสริมการพัฒนาทักษะและความก้าวหน้าในอาชีพ สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างและสนับสนุนความหลากหลาย และเน้นการทำงานที่มีความหมายและเป้าหมายที่ชัดเจน การสื่อสารภายในองค์กรควรโปร่งใสและเปิดรับความคิดเห็น เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดและรักษาคนรุ่นใหม่ไว้ในระยะยาว

ผู้นำยุคปัจจุบันต้องมีวิสัยทัศน์ชัดเจน

ที่สำคัญการเป็นผู้นำในยุคปัจจุบันต้องมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน มีลักษณะความยืดหยุ่นในการปรับตัว มุ่งเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับทีมงาน สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว มีการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และเปิดรับความคิดเห็นจากทุกคน และสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับทีมงาน นอกจากนี้ต้องให้ความสำคัญในการใช้ข้อมูลมาประกอบในการตัดสินใจ เพื่อสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพและนำองค์กรไปสู่ความสำเร็จในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

ดูแล“คน”ต้องตอบโจทย์ธุรกิจเติบโต

“การดูแลพนักงานถือเป็นกุญแจสำคัญต่อการเติบโตและความยั่งยืนของธุรกิจในปัจจุบัน ซึ่งเราให้ความสำคัญในเรื่องความพึงพอใจและรู้สึกผูกพันกับองค์กรของพนักงาน โดยเมื่อพนักงานมีความพึงพอใจและผูกพันแล้ว ก็จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ด้วย"

นอกจากนี้ การสนับสนุนการพัฒนาทักษะยังช่วยให้พนักงานปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้เร็วขึ้นด้วย แถมยังช่วยลดอัตราการลาออก ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการสรรหาพนักงานใหม่ นอกจากนั้น การสร้างบรรยากาศที่เปิดกว้างและส่งเสริมความหลากหลายยังทำให้พนักงานรู้สึกมีคุณค่า ส่งผลให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ดีและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร”

พัฒนาคน-ลดช่องว่างระหว่างวัย

การพัฒนาคนและการลดปัญหาช่องว่างระหว่างวัยในองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญ เราสามารถสร้างโอกาสในการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างพนักงานในทุกระดับ เช่น การจัดโปรแกรมพี่สอนน้อง หรือ การสร้างทีมที่รวมพนักงานหลากหลายวัยเข้าด้วยกัน เพื่อที่จะทำให้พนักงานจากแต่ละรุ่นได้ทำงานร่วมกันและแบ่งปันมุมมองที่หลากหลาย 

นอกจากนี้ การอบรมและพัฒนาทักษะที่เหมาะสมสำหรับทั้งระดับบริหารและพนักงานทั่วไปก็มีความสำคัญมากเช่นกัน โดยเฉพาะในเรื่องของการโค้ชและการให้คำปรึกษา รวมถึงการส่งเสริมการทำงานร่วมกันระหว่างระดับต่างๆ โดยการให้ Feedback หรือ ข้อเสนอแนะแบบต่อเนื่อง จะช่วยให้พนักงานเข้าใจจุดแข็งและจุดที่ต้องพัฒนา 

"การตั้งเป้าหมายร่วมกันยังช่วยให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมในการบรรลุเป้าหมายขององค์กร แนวทางเหล่านี้จะทำให้การพัฒนาคนในองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเติบโตไปด้วยกัน”

ทักษะคนรุ่นใหม่ที่ตลาดต้องการ

อย่างไรก็ตามสำหรับคนรุ่นใหม่ควรมีทักษะหลักๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำงานและประสบความสำเร็จในสายอาชีพของตน ได้แก่ ทักษะด้านเทคโนโลยี เช่น การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์และการวิเคราะห์ข้อมูล, ทักษะการสื่อสารที่ชัดเจน, ทักษะการทำงานร่วมกันในทีม, การคิดวิเคราะห์ปัญหาและเสนอวิธีแก้ไข

ทักษะความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนานวัตกรรมหรือสิ่งใหม่ๆ, ความสามารถในการปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลง, การจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ, การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง และความเข้าใจทางวัฒนธรรมขององค์กรนั้นๆ เพื่อทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีความหลากหลายมากขึ้นในปัจจุบัน