เล่นน้ำทะเลฝั่งอ่าวไทย ระวังแมงกะพรุนหัวขวด

เล่นน้ำทะเลฝั่งอ่าวไทย ระวังแมงกะพรุนหัวขวด

แจ้งด่วน สคร.12 สงขลา เตือนประชาชน ลงเล่นน้ำทะเลฝั่งอ่าวไทย ระวังแมงกะพรุนหัวขวด ช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม

กรณีแมงกะพรุนหัวขวด ฝั่งทะเลฝั่งอ่าวไทย แจ้งล่าสุด สคร.12 สงขลา เตือนประชาชน ในช่วงระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคม ของทุกปี เป็นช่วงการระบาดของแมงกะพรุนหัวขวด  (Blue Bottle Jellyfish) : สกุล  Physalia  บริเวณชายทะเลฝั่งอ่าวไทย

แมงกะพรุนหัวขวดมีพิษร้ายแรง

จัดเป็นแมงกะพรุนชนิดที่มีพิษร้ายแรง โดยมีลักษณะ
- ส่วนบนลอยโผล่พ้นน้ำคล้ายลูกโป่งรูปร่างรียาว คล้ายหมวกของทหารเรือชาวโปรตุเกส มีหนวดยาวสีฟ้าหรือสีม่วง
- มีเข็มพิษ (nematocyst) สำหรับป้องกันตัวและจับเหยื่อ กระจายอยู่ทุกส่วนของร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณหนวด (tentacle)

พิษของแมงกะพรุนหัวขวด

สำหรับพิษของแมงกะพรุนหัวขวด มีผลต่อระบบประสาท หัวใจ และผิวหนัง ส่วนใหญ่ผู้ที่สัมผัสพิษจะมีอาการคัน และปวดแสบปวดร้อนในเบื้องต้น

การแสดงอาการของพิษในผู้ป่วยแต่ละบุคคลความรุนแรงจะต่างกัน ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของร่างกาย ความต้านทาน และปริมาณพิษที่ได้รับ

แพทย์เผยสถิติผู้ได้รับพิษแมงกะพรุน

นายแพทย์เฉลิมพล โอสถพรมมา ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 12 จังหวัดสงขลา กล่าวถึง สถานการณ์การบาดเจ็บจากแมงกะพรุน ตั้งแต่ 1 มกราคม - 18 กรกฎาคม 2566 มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการสัมผัสแมงกะพรุน จำนวน 2 ราย เมื่อเดือนมีนาคม 2566 เพศชาย อายุ 7 ปี และ 19 ปี  

ตำแหน่งที่สัมผัสพิษแมงกะพรุนส่วนใหญ่ คือบริเวณมือ เนื่องจากการลงไปเล่นน้ำทะเล บริเวณชายหาดสมิหลาและชายหาดชลาทัศน์ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา โดยในปี 2567 ยังไม่ได้รับรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากการสัมผัสแมงกะพรุน

สคร.12 สงขลา เน้นย้ำผู้ปกครองให้คำแนะนำบุตรหลาน ไม่ควรลงเล่นน้ำหากพบป้ายแจ้งเตือนระวังแมงกะพรุน หากลงเล่นน้ำทะเล ขอให้สวมเสื้อผ้าที่มิดชิด เช่น เสื้อแขนยาว กางเกงขายาวแนบตัว หากเจอแมงกะพรุน ห้ามจับ หรือสัมผัสโดยเด็ดขาด

 

อ้างอิง - ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา