ซื้อซูชิหน้าหมึก แถวบ้าน เกือบตายเจอคล้าย หมึกบลูริง แจงซื้อมาไม่หั่นเอง

ซื้อซูชิหน้าหมึก แถวบ้าน เกือบตายเจอคล้าย หมึกบลูริง แจงซื้อมาไม่หั่นเอง

หนุ่มโพสต์เตือน ซื้อซูชิหน้าปลาหมึก แถวบ้าน เกือบตายเจอคล้าย หมึกบลูริง ด้านร้านขอโทษแล้ว แจงรับซื้อมาไม่ได้หั่นเอง สับปะปนกันมา ย้ำไม่มั่นใจแนะนำอย่าทาน พิษร้ายเท่างูเห่า 20 เท่า เสียชีวิตได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟสบุ๊ก Jukkarwut Thongluk  ได้โพสต์เตือนภัย ในกลุ่ม พวกเราคือผู้บริโภค ในการเลือกซื้ออาหารการกิน โดยเฉพาะซูชิหน้าปลาหมึก ระบุว่า "อันนี้จากร้านซูชิแถวบ้านครับ ฝากเตือนกันด้วยนะครับ ค่อนข้างจะชัดว่าเป็นวงที่หนวด ไม่ใช่ที่โคนหนวดครับผม ยังไงถ้าไม่มั่นใจแนะนำว่าไม่ให้กิน ดีที่สุดครับ" 

 

ซื้อซูชิหน้าหมึก แถวบ้าน เกือบตายเจอคล้าย หมึกบลูริง แจงซื้อมาไม่หั่นเอง

ซื้อซูชิหน้าหมึก แถวบ้าน เกือบตายเจอคล้าย หมึกบลูริง แจงซื้อมาไม่หั่นเอง

ซึ่งเมื่อเราสังเกตจากภาพแล้วมีลักษณะคล้ายกับ "หมึกบลูริง" ที่มีพิษร้ายแรง เทียบพิษร้ายแรงกว่างูเห่า 20 เท่าเลยทีเดียว อีกทั้ง พิษจากหมึกบลูริงยังทนความร้อนได้สูงถึง 200 องศาเซลเซียส ดังนั้นจึงไม่สามารถทําลายพิษได้ด้วยการใช้ความร้อนปกติในการปรุงอาหาร 

ทั้งนี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคนดังกล่าว เผยต่อว่า ได้แจ้งทางร้านเรียบร้อยแล้ว ทางร้านขอโทษแล้ว คืนเงินมาแล้ว ร้านแจ้งว่าไม่ได้แล่เอง แต่ซื้อที่เค้าสับปนกันมา 

ซื้อซูชิหน้าหมึก แถวบ้าน เกือบตายเจอคล้าย หมึกบลูริง แจงซื้อมาไม่หั่นเอง

ล่าสุด ผู้ใช้เฟสบุ๊กคนดังกล่าว ให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า เช้านี้ มีน้องที่สนิทกัน ไปซื้อซูชิร้านหนึ่งในชัยนาท แล้วส่งรูปมาถามว่าใช่บลูริงมั้ย ? โห วงชัดขนาดนี้ น่ากังวลนะครับ

 

ซื้อซูชิหน้าหมึก แถวบ้าน เกือบตายเจอคล้าย หมึกบลูริง แจงซื้อมาไม่หั่นเอง

 

ในรูปที่ 3 ได้มาจากศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง นั่นคือ “หมึกสายวงน้ำเงิน” หรือ “หมึกบลูริง“ (Blue-ringed octopus ) เป็นหนึ่งในสัตว์ทะเลที่มีพิษร้ายแรงที่สุด ชื่อว่า เตโตรโดท็อกซิน (Tetrodotoxin) เป็นพิษชนิดเดียวกันกับในปลาปักเป้า ซึ่งแรงกว่าพิษไซยาไนด์ถึง 1,200 เท่า และทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส อัตราการเสียชีวิตจากพิษตัวนี้คือ 50 - 60% เลยครับ เพราะยังไม่มียาแก้ 

 

ซื้อซูชิหน้าหมึก แถวบ้าน เกือบตายเจอคล้าย หมึกบลูริง แจงซื้อมาไม่หั่นเอง

 

ส่วนรูปที่ 4 ได้จากที่ไปหาข้อมูลเพิ่ม จากเว็บไซต์ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งมาครับ เรียกว่า “หมึกสายสยาม” หรือ “หมึกอิคคิว” ที่สามารถรับประทานได้ครับ เนื่องจากยังไม่มีรายงานความเป็นพิษ

อยากให้ทุกคนระมัดระวังตัวด้วยนะครับ ก่อนจะเอาอะไรเข้าปาก เช็คให้ดีก่อนว่ามันปลอดภัยหรือไม่ ส่วนทางร้าน ไม่ว่าจะร้านนี้หรือร้านไหนก็ตาม อย่าลืมให้ความรู้กับพนักงานด้วยนะครับ มีด เขียง อุปกรณ์ต่างๆ ถ้ามันพลาดหั่นตัวหมึกบลูริงไปแล้วก็ควรโละทิ้งทั้งหมดครับ เพราะพิษมันกระจายได้ และสามารถกระจายไปติดซูชิชิ้นอื่นๆได้อีก ด้วยความปรารถนาดีจากเด็กประมงครับ

เพิ่มเติมอีกนิดครับ เนื่องจากรูปอาจจะไม่ได้ชัดเจนมากว่าเป็น “บลูริง” หรือ “อิคคิว” แต่ทางผมได้วิดีโอหาน้องแล้ว ค่อนข้างชัดเจนครับว่าส่วนที่มีวงคือหนวด ไม่ใช่โคนหนวด ยังไงถ้าไม่แน่ใจแนะนำว่าไม่เอาเข้าปากดีที่สุดครับ

โพสต์นี้ไม่ได้มีเจตนาดิสเครดิต หรือทำให้ตื่นตระหนกแต่อย่างใดนะครับ เป็นแค่การช่วยกันเตือน เพื่อให้เห็นถึงอันตรายจากสิ่งที่นำมาปรุงเป็นอาหารครับผม