รุดช่วยเด็ก ถูกครูพี่เลี้ยงทำร้ายที่เชียงใหม่ พิษคลิปฉาวว่อนโซเชียล

รุดช่วยเด็ก ถูกครูพี่เลี้ยงทำร้ายที่เชียงใหม่ พิษคลิปฉาวว่อนโซเชียล

ปวีณา หงสกุล เข้าพบผู้ว่าฯเชียงใหม่ ตามความคืบหน้า กรณีเด็กถูกครูพี่เลี้ยงทำร้ายในสถานรับเลี้ยงแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองเชียงใหม่ 

กรณีที่ผู้ปกครองนำคลิปภาพหลักฐานที่พี่เลี้ยงของสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่งในพื้นที่ ตำบลฟ้าฮ่าม อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทำร้ายลูกชาย วัย 1 ขวบ 11 เดือน ด้วยการตบตี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.แม่ปิง จ.เชียงใหม่ 

โดยผู้ปกครอง เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา ได้พาลูกชายไปฝากไว้ที่สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ ที่อยู่ในย่านฟ้าฮ่าม อำเภอเมืองเชียงใหม่ เกือบ 1 ปี แต่พอเวลาผ่านไป ลูกกลับมาที่บ้าน ลูกชายเริ่มกลายเป็นเด็กไม่ค่อยพูด ไม่ร่าเริงเหมือนเด็กทั่วไป เวลาถามตอบอะไร มักจะตอบว่าไม่ และที่ผิดสังเกตมากขึ้น คือตามตัวลูกชายเริ่มมีรอยฟกช้ำ ที่เหมือนถูกตีหรือถูกกระทำรุนแรงตามตัว

โดยเฉพาะในจุดที่มองเห็นได้ยาก เช่นต้นแขนด้านใน รักแร้ หรือบริเวณสีข้าง หลังจากนั้นคุณแม่ก็ได้สอบถามไปที่สถานที่รับเลี้ยงเด็ก แต่ก็ได้คำตอบว่าแผลเกิดจากน้องล้ม หรือตกจากจักรยาน ของเด็ก แต่วันหนึ่งมีผู้หวังดีส่งคลิปดังกล่าว มาให้คุณแม่ดู จนทำให้รู้ว่าตลอดเวลาที่เอาลูกไปฝาก ลูกถูกกระทำแบบนี้ตลอด รวมถึงเด็กคนอื่นๆ ก็ถูกกระทำเช่นเดียวกัน จนนำมาสู่การแจ้งความ และ ร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี 

รุดช่วยเด็ก ถูกครูพี่เลี้ยงทำร้ายที่เชียงใหม่ พิษคลิปฉาวว่อนโซเชียล

ล่าสุด มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้พาผู้ปกครอง ที่ลูกถูกครูพี่เลี้ยง ทำร้ายร่างกาย และ ผู้ปกครองอีก 1 คน ที่เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งคาดว่า ลูกวัย 9 เดือน ถูกครูพี่เลี้ยงคนเดียวกันทำร้ายโดยการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูปคลุมหัว และนำผ้าอ้อมมัดมือเอาไว้ เข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมเชิญอดีตครูพี่เลี้ยงที่เคยทำงานสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้เข้าให้ขูดมูลเพิ่มเติม 

อดีตครูพี่เลี้ยง ในสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาตนเองได้เข้าไปทำงานที่สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ และได้เห็นการกระทำของครูพี่เลี้ยงคนดังกล่าวซึ่งมีการทำร้ายเด็กหลายคน 

ตนเห็นพฤติกรรมแบบนี้ตนเป็นหนึ่งคนที่รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงนำเรื่องราวนั้นไปบอกกล่าวกับผู้ปกครอง และครูพี่เลี้ยงคนดังกล่าวเริ่มมีพฤติกรรมที่หนักขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเด็กทุกคนในสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้โดนทำร้ายหมดอยู่ที่ว่าจะโดนมากหรือโดนน้อยแตกต่างกันไป เพราะตนมีหน้าที่ในการอาบน้ำให้เด็กจึงเห็นร่องรอยการถูกทำร้ายในตัวเด็กเกือบทุกคน ซึ่งตนได้บันทึกคลิปไว้ ก่อนตัดสินใจลาออก 

รุดช่วยเด็ก ถูกครูพี่เลี้ยงทำร้ายที่เชียงใหม่ พิษคลิปฉาวว่อนโซเชียล

นอกจากนี้ยังถ่ายภาพและคลิปเด็กหญิงอายุเพียง 9 เดือนถูกทรมาน ด้วยการจับมัดมือแนบตัว และเอาผ้าอ้อมสำเร็จรูปคลุมหัวปีดหน้าปิดตาด้วย พร้อมใช้ผ้าอ้อมมัดมือแนบลำตัว ซึ่งพฤติกรรมนี้ ไม่ได้ทำกับเด็ก 9 เดือนเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เด็กทารกอายุที่ไม่ถึง 1 ขวบ ถ้าร้องไห้ก็ถูกจะจับมัดคลุมหัวด้วยผ้าอ้อมสำเร็จรูปจนกว่าจะเงียบ หรือจนกว่าจะถึงเวลาแม่มารับกลับบ้าน


หลังนางปวีณา หงสกุล ประธานมูนิธิปวีณาฯ รับเรื่องก็ได้ประสาน พ.ต.อ.ญาณพล พัฒชัย ผกก.สภ.แม่ปิง ให้แม่เหยื่อทั้งสองไปพบ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี โดยมี พ.ต.ท. ภิรมย์ ยศตรัง สารวัตรสอบสวนรับแจ้งความ และเร่งรัดให้สอบปากคำพร้อม สหวิชาชีพ แต่ปรากฎว่าเวลานั้น เด็กชาย 2 ขวบยังพูดไม่ได้ แต่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน เป็นภาพขณะพี่เลี้ยงตบหัว ตบหน้าอย่างแรง และมีพยานเหตุการณ์ ที่พร้อมให้ปากคำ ว่ามีการกระทำรุนแรงทุกวัน และมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานส่งข้อมูลใหนายวรพงษ์ บุญเคลือบ พมจ.เชียงใหม่ ได้ช่วยติดตามคดีนี้ด้วย

นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ เปิดเผยว่า หลังได้เห็นที่ภาพที่แม่ทั้งสองคนสงคลิปลูกถูกทำร้ายมาให้ดูก็รู้สึกตกใจ รับไม่ได้ เนื่องจากเหยื่อยังเด็กมาก โดยเฉพาะเด็กหญิง 9 เดือน ที่ถูกมัดทรมาน เป็นการกระทำความรุนแรงที่เลวร้ายต่อเด็กอย่างยิ่ง และกรณีเด็กชาย 2 ขวบที่ถูกตบหน้าตบหัวอย่างแรงในขณะที่กำลังป้อนข้าว เด็กชายก็มีอาการหวาดกลัว อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเรื่องดังกล่าวจะต้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 

 

รุดช่วยเด็ก ถูกครูพี่เลี้ยงทำร้ายที่เชียงใหม่ พิษคลิปฉาวว่อนโซเชียล


ด้านนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ขณะนี้ได้สั่งการให้ พมจ.เชียงใหม่เร่งตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม้ว่าจะมีการดำเนินการไปก่อนแล้วแต่ได้กำชับให้ทำงานให้ละเอียดขึ้น และพิจารณาถึงการเยียวยาทางสภาพจิตใจ ทั้งเด็กและผู้ปกครอง ส่วนทางคดีตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาคือ ทำร้ายร่างกายและทารุณกรรมเด็กขณะเดียวกันทราบว่าสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ได้แจ้งปิดกิจการไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม ได้มีการสั่งให้ พมจ.เชียงใหม่ ขึ้นบัญชีสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ไว้ แล้วห้ามกลับมาเปิดอีกถึงแม้จะเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนเจ้าของก็ตาม นอกจากนี้ยังประสานให้ พมจ.เชียงใหม่ นำเด็กที่เคยอยู่สถานรับเลี้ยงเด็กแห่งนี้ไปตรวจร่างกายทุกคนว่ามีการถูกทำร้ายทางด้านร่างกายและจิตใจหรือไม่