หลังเลิกงาน-วันหยุด มหาเศรษฐีอย่าง ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ทำอะไร

หลังเลิกงาน-วันหยุด มหาเศรษฐีอย่าง ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ทำอะไร

ส่อง 5 กิจวัตรที่มหาเศรษฐีนักลงทุน “วอร์เรน บัฟเฟตต์” ชอบทำหลังเลิกงาน-วันหยุด ตั้งแต่ อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย เล่นไพ่ ไปจนถึง เล่นอูคูเลเล่และแต่งเพลง

ชื่อของ “วอร์เรน บัฟเฟตต์” มหาเศรษฐีนักลงทุน เจ้าของบริษัท เบิร์กเชียร์แฮทาเวย์ (Berkshire Hathaway) กลุ่มโฮลดิ้งส์ข้ามชาติ จากอเมริกา คงเป็นชื่อที่น้อยคนจะไม่รู้จัก เพราะเขาเป็นผู้ทรงอิทธิพลในด้านธุรกิจ การลงทุน และ “นักบริจาคเงินเพื่อการกุศล” ตัวยงแล้ว และยังเป็นบุคคลที่ร่ำรวยเป็นอันดับ 3 ของโลก จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส แต่แม้จะร่ำรวยและมั่งคั่งแค่ไหน นิสัยของการประหยัดอดออม ก็เป็นอีกหนึ่ง “นิยาม” ของตัวเขา

โดยที่ผ่านมา นิตยสารนับไม่ถ้วน ทั้ง Motley Fool, The Wall Street Journal และ Business Insider มีโอกาสได้เข้าไปสัมภาษณ์บัฟเฟตต์ และตีพิมพ์เส้นทางความร่ำรวยของเข้า แต่ที่น่าแปลกใจ คือไม่เคยมีบทความไหนเคยเขียนเลยว่า 

เขาใช้เวลาว่างส่วนใหญ่หลังเลิกงานทำอะไร?

จริงๆ บัฟเฟตต์ เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า งานอดิเรกที่เขาชอบทำนั้น เป็นกิจกรรมที่ล้วนมีผลกับธุรกิจของเขามากพอสมควร และน่าเสียดายที่ในโลกแห่งการแข่งขันและโลกของธุรกิจ ผู้คนส่วนใหญ่มักให้ความสนใจกับการบริหารงานของเขา มากกว่างานอดิเรกที่เขาทำหลังเลิกงานเสียอีก

ดังนั้น ทั้ง 5 ข้อด้านล่างคือกิจกรรมหลังเลิกงานที่มหาเศรษฐีอย่างบัฟเฟตต์ชอบทำ จากการรวบรวมข้อมูลจากบทสัมภาษณ์ของเขาจำนวนมาก

หลังเลิกงาน-วันหยุด มหาเศรษฐีอย่าง ‘วอร์เรน บัฟเฟตต์’ ทำอะไร

1. อ่านหนังสือ 500 หน้า

งานวิจัยจำนวนมากเผยว่าหากเราต้องการมีความรู้และฉลาดมากขึ้น เราควรเพิ่ม “อาหารสมอง” ให้ตัวเองด้วยการอ่านหนังสือวันละ 500 หน้าและก็เป็นไปตามที่คิดว่า บัฟเฟตต์ก็ใช้เวลากว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของวันไปกับการอ่านหนังสือในที่ทำงาน โดยอ่านหนังสือหลากหลายประเภท ทั้งหนังสือเกี่ยวกับการเงินและบรรดานิตยสารต่างๆ รวมทั้งใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสือพิมพ์หรือหนังสืออื่นๆ หลังเลิกงานด้วย

“ผมใช้เวลาในการอ่านและการคิดให้มากขึ้น และใช้เวลาในตัดสินใจสิ่งต่างๆให้ช้ากว่านักธุรกิจส่วนใหญ่” 

2. ออกกำลังกายบ้าง

บัฟเฟตต์ เล่าความลับของเขาให้ฟังว่า มักจะตามใจตัวเองในเรื่องการกิน โดยกินอาหารทุกอย่างที่อยากกิน ซึ่งเขาดื่มโค้กวันละ 5 กระป๋อง (เพราะเขาเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนบริษัท Coca) นอกจากนี้ แฮมเบอร์เกอร์ สเต๊ก มันบด และรูทเบียร์ ก็เป็นอาหารอันโอชะที่เขาชอบกินอีกด้วย 

โดยในปี 2550 แพทย์กำชับและแนะนำกับเขาว่า ถ้าเขาอยากจะมีชีวิตที่ยืนยาวและร่างกายที่แข็งแรงนั้น “ต้องเลือกว่าจะออกกำลังกาย หรือทานอาหารที่ดี” จนท้ายที่สุดเขาก็เลือกที่จะออกกำลังกายแทนการเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ น่าสนใจว่า ในปี 2558  แพทย์ตรวจพบว่าบัฟเฟตต์เป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ทุกวันนี้เขาก็ยังดูสุขภาพดีทุกครั้งที่ออกมาให้สัมภาษณ์

3. ทำตัวให้มีความสุข

บัฟเฟตต์นับเป็นหนึ่งคนที่มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ โดยหลายคนเรียกเขาว่าเป็น “นักบุญที่ยิ่งใหญ่” ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาต้องการเดินตามเส้นทางของฮีโร่ในดวงใจอย่าง ชัค ฟีนีย์ (Chuck Feeney) นักธุรกิจและนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ที่สละทรัพย์สินในบั้นปลายชีวิต

“หากคุณเป็น 1 เปอร์เซ็นต์ของมวลมนุษย์ที่โชคดีที่สุด แปลว่าคุณต้องมีหน้าที่ช่วยเหลือผู้คนอีก 99 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือ”

นอกจากนี้ บัฟเฟตต์ก็ยังมีชื่อเสียงด้าน “ความพอมีพอกิน” เช่นกัน โดยเขาใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย และอยู่บ้านหลักเดิมที่ซื้อมาเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว  อีกทั้งเขาเองก็มักจะดูแลลูกค้าด้วยมื้ออาหารจาก “แมคโดนัลด์” เท่านั้น

4. เล่นเกมที่ต้องใช้ความอดทน

มหาเศรษฐีผู้นี้ชอบเล่นเกมมาก แต่ต้องเป็นเกมที่ต้องใช้ความคิดและเกมที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนเพราะช่วยให้เขาได้ลองฝึกใช้สมองและความคิดก่อนลงสนามจริง ที่สำคัญเขายังชอบเล่น ไพ่บริดจ์ อีกด้วย โดยที่ผ่านมา เขาเคยจ่ายเงินกว่า 7 เหรียญ ที่ Omaha strip mall เพื่อพยายามล้มแชมป์เก่า จากนั้นบัฟเฟตต์จึงออกมากล่าวว่า

“ไพ่บริดจ์เป็นเกมที่ใช้สมองฝึกสมองได้ดีทีเดียว เพราะนอกจากจะได้เจอและแก้ไขสถานการณ์ใหม่ๆ ทุก 10 นาทีแล้ว เรายังต้องฝึกใช้สมองเพื่อคิดคำนวณตลอดการเล่นด้วย”

 5. ทำงานอดิเรกที่ชอบ

บัฟเฟตต์รักงานอดิเรกของตัวเองมาก โดยคุณคงไม่เชื่อแน่นอนว่า เขารักการเล่นอูคูเลเล่มาก จนกระทั่งสามารถแต่งเพลงให้ตัวเอง และร้องประสานเสียงกับบอนโจวี (Bon Jovi) เป็นวงฮาร์ดร็อกจาก นิวเจอร์ซี  อีกทั้งเพลงนี้ยังปรากฏอยู่ในโฆษณา Coca ที่บัฟเฟตต์เป็นหุ้นส่วนอีกด้วย หลังจากนั้น บัฟเฟตต์จึงนำรายได้จากการเล่นเพลงของตัวเองกับวงดนตรีดังกล่าวไปบริจาคให้กับการกุศล

อ้างอิง

Entrepreneur