กรมอุตุฯ ประกาศ ฉ.11 พายุ 'ตาลิม' มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น

พายุตาลิม (TALIM) มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 11 พายุโซนร้อนกำลังแรง "ตาลิม" (TALIM) มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น คาดจะเคลื่อนขึ้นฝั่งมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในคืนนี้ (17 ก.ค.2566)

ประกาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง "พายุตาลิม" (TALIM) ฉบับที่ 11 (197/2566) ระบุว่า เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (17 ก.ค. 2566) พายุโซนร้อน กำลังแรง "ตาลิม" (TALIM) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 230 กิโลเมตรทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน หรือที่ละติจูด 20.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 110 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในคืนนี้ (17 ก.ค. 2566) และจะเคลื่อนผ่านชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ และประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 18-19 ก.ค. 66 โดยจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน พายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ

 

กรมอุตุฯ ประกาศ ฉ.11 พายุ \'ตาลิม\' มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 17-20 ก.ค. 66 ร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้

ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

 

กรมอุตุฯ ประกาศ ฉ.11 พายุ \'ตาลิม\' มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น

 

"กรมอุตุนิยมวิทยา" คาดว่าจะมี ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง จากผลกระทบ พายุ "ตาลิม" (TALIM) มีดังนี้

  • วันที่ 17 กรกฎาคม 2566

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ น่าน ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ 

 

  • วันที่ 18 กรกฎาคม 2566

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ:  จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี และสระบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

 

  • วันที่ 19-20 กรกฎาคม 2566

ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร  ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล

 

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตรขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่ เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา  หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ประกาศ ณ วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เวลา 11.00 น.

"กรมอุตุนิยมวิทยา" จะออกประกาศฉบับต่อไปใน วันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.00 น.