ผบ.ตร. อุทิศให้พ่อ บริจาค 21 ล้าน ให้ 2 มูลนิธิ - ช่วยลูก สารวัตร อก. เรียนดี

ผบ.ตร. อุทิศให้พ่อ บริจาค 21 ล้าน ให้ 2 มูลนิธิ - ช่วยลูก สารวัตร อก. เรียนดี

ครอบครัว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. อุทิศให้พ่อ บริจาคเงินกว่า 21 ล้าน ให้ 2 มูลนิธิ - ช่วยลูก สารวัตร อก. เรียนดี

ผบ.ตร.มอบเงินบริจาค จากผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินเพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่คุณพ่อ จำนวน 21 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิรามาธิบดี และมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสนับสนุนกิจกรรม และจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ พร้อมเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินสมทบทุนซื้อเครื่องเพท ซีทีสแกนให้กับกลุ่มงานรังสีวิทยา รพ.ตร.เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็ง

วันนี้ 27 มิถุนายน 2566 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มอบเงินบริจาค จากผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินเพื่ออุทิศส่วนกุศล แด่ คุณพ่อสวัสดิ์ กิตติประภัสร์ จำนวน 21 ล้านบาท ให้กับมูลนิธิรามาธิบดี และมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสนับสนุนกิจกรรม และจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยมี รศ.นพ.สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี และกรรมการบริหารมูลนิธิรามาธิบดี และ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ฐานะเลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจในพระบรมราชินูปถัมภ์ เป็นผู้รับมอบ

ผบ.ตร. อุทิศให้พ่อ บริจาค 21 ล้าน ให้ 2 มูลนิธิ - ช่วยลูก สารวัตร อก. เรียนดี

สำหรับมูลนิธิรามาธิบดี มอบเงินจำนวน 11 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการทุนอาคารโรงพยาบาลรามาธิบดี และย่านนวัตกรมโยธี จำนวน 5,000,000 บาท ทุนเพื่อผู้ป่วยโรคหัวใจล้มเหลว จำนวน 5,000,000 บาท ทุนโครงการทุนการศึกษารมาธิบดี เพื่อนักศึกษาแพทย์ และนักศึกษาพยาบาล จำนวน 1 ล้านบาท

มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ จำนวน 10 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนเริ่มต้นของการระดมทุน ในการจัดซื้อเครื่องเพท ซีทีสแกน (PET/CT SCAN) เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็ง ซึ่งมีมูลค่า 140,000,000 บาท ให้กับกลุ่มงานรังสีวิทยา รพ.ตร.

อกาสนี้ ขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธา ตลอดจนประชาชนร่วมกันบริจาคเงินเพื่อสมทบทุนฯ โดยสามารถติดต่อขอบริจาคได้ที่มูลนิธิโรงพยาบาลตำรวจ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ อาคาร มภร. ชั้น 2 รพ.ตร

ผบ.ตร. อุทิศให้พ่อ บริจาค 21 ล้าน ให้ 2 มูลนิธิ - ช่วยลูก สารวัตร อก. เรียนดี

ช่วยลูก สารวัตร อก. ให้ทุนศึกษา ตามเกณฑ์ผลการเรียนดี

จากกรณีที่ปรากฏข่าว พ.ต.ท.วิริยะ เจิมจำนงค์ สารวัตร ฝ่ายอำนวยการ กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พระนครศรีอยุธยา ประสบปัญหาทางการเงินเนื่องจากไปค้ำประกันเงินกู้ให้เพื่อนและต้องชำระหนี้สินแทนจนกระทบต่อการส่งลูกสาวเข้าเรียนมหาวิทยาลัยนั้น

ล่าสุด พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดจากการกู้เงินกับสถาบันการเงินหลายแห่ง รวมถึงกู้เงินกับสหกรณ์ตำรวจด้วย ในเบื้องต้นได้ช่วยเหลือให้บุตรสาวได้ทุนการศึกษา ตามหลักเกณฑ์ มีผลการเรียนดี เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่าย 

ส่วนการแก้ไขปัญหาหนี้สินของ ข้าราชการตำรวจในระยะยาว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีโครงการอบรมให้ความรู้เรื่องการบริหารจัดการการเงินให้กับข้าราชการตำรวจอยู่เป็นระยะ รวมถึงทำโครงการให้ข้าราชการตำรวจที่มีหนี้สินเข้าโครงการปรับลดหนี้ หรือ ระงับหนี้ เพื่อบริหารจัดการหนี้สิน ได้ดีขึ้น

ด้าน นางสุมนา กิตติประภัสร์ นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ที่ดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินของครอบครัวตำรวจ กล่าวว่า ทางสมาคมแม่บ้านตำรวจมีทุนการศึกษาให้กับบุตรหลานข้าราชการตำรวจอยู่ 4 ประเภทหลักๆ คือ

ทุนการศึกษาสำหรับบุตรหลานข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตหรือพิการจากการปฎิบัติหน้าที่, ทุนการศึกษาสำหรับบุตรหลานที่เรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์, ทุนการเรียนต่อเนื่องในระดับชั้นอาชีวศึกษา และทุนการเรียนต่อเนื่องในระดับอุดมศึกษา ซึ่งในส่วนของทุนการศึกษาระดับชั้นอุดมศึกษามีให้ถึงปีละ 40,000 บาท และให้ต่อเนื่องจนจบการศึกษาไม่ว่าจะมีการเรียนการสอนกี่ปีตามหลักสูตรก็ตาม

“ในส่วนของบุตรสาว สารวัตร คนดังกล่าว ถือว่า เข้าหลักเกณฑ์ของการขอทุน และทราบว่า มีการยื่นหลักฐานในการขอทุนดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการ” นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ กล่าว

นางสุมนา กล่าวว่า ขอฝากถึงข้าราชการตำรวจทุกคน หากมีบุตรหลานที่เข้าหลักเกณฑ์ในการขอทุนการศึกษา ขอให้ดำเนินการรวบรวมหลักฐานเอกสารส่ง เพื่อขอทุนการศึกษาตามวัน และเวลาที่ประกาศของทุกปี เพื่อให้เป็นการช่วยบรรเทาภาระรายจ่ายของทางครอบครัว 

ขณะที่เรื่องของการจัดการรายจ่ายหรือปัญหาหนี้สิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชน เกี่ยวกับทางด้านการเงิน เพื่อให้เข้ามาช่วยอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับแนวทางในการวางแผนการจัดการปัญหาหนี้สิน หรือการใช้จ่ายจากรายได้ที่จะไม่ก่อให้เกิดปัญหาหนี้สินขึ้น ซึ่งเชื่อว่าหากข้าราชการตำรวจ หรือคนในครอบครัวเข้ารับการอบรม ก็จะช่วยลดปัญหาเรื่องหนี้สินของทางตำรวจไปได้พอสมควร